ทุกครั้งที่รู้สึกว่ามีรูรั่ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็จะเบิกงบซื้อกองหลังใหม่ ถึงตอนนี้ ช่วงเวลาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จับจ่ายไปเกือบ 400 ล้านปอนด์เฉพาะแนวรับ
เป๊ป เข้ามาทำงานในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ตั้งแต่ปี 2016 ต่อจาก มานูเอล เปเยกรีนี่ ที่พา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จบอันดับ 4 ในฤดูกาลก่อนหน้า โดยทิ้งมรดกแนวรับที่ไม่น่าพิสมัยนักเอาไว้ให้กุนซือผู้มาจาก บาเยิร์น มิวนิค
แว็งซ็องต์ ก็องปานี กับ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ดูจะพอเป็นตัวหลักที่น่าไว้วางใจได้ ที่เหลือ บาการี่ ซานญ่า (33), ปาโบล ซาบาเลต้า (31), อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ (30), กาแอล กลิชี่ (30) ที่อายุขึ้นหลักสามแล้วทั้งหมด นอกนั้นก็ยังมี เอเลียกิม ม็องกาล่า ที่เสียตังค์ไป 32 ล้านปอนด์ ซื้อมาแล้วทิ้ง
ดังนั้น อย่างแรกเลยที่ เป๊ป จะต้องทำ ก็คือการวางรากฐานแนวรับเสียใหม่
แต่ปีแรกกลับซื้อเข้ามาเพียงคนเดียวคือ จอห์น สโตนส์ ที่จ่ายไปถึง 47.5 ล้านปอนด์ให้กับ เอฟเวอร์ตัน
และผลงานซีซั่นแรกของ เป๊ป ก็จบแบบมือเปล่า
เข้าสู่ปีที่สอง บอร์ดบริหารของ ซิตี้ จึงจัดหนักจัดเต็มให้ เป๊ป ด้วยการซื้อกองหลังถึง 4 คน บวกกับผู้รักษาประตูอีก 1 คือ เอแดร์ซอน จาก เบนฟิก้า มาในราคา 34.9 ล้านปอนด์
แนวรับทั้ง 4 ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็กขวาจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 45 ล้านปอนด์, ดานิโล่ แบ็กขวาอีกคนจาก เรอัล มาดริด 26.5 ล้านปอนด์, เบนฌาแม็ง เมนดี้ แบ็กซ้ายจาก โมนาโก 49.3 ล้านปอนด์ และคนเดียวในตลาดมกราคม อายเมริก ลาปอร์เต้ เซนเตอร์แบ็กจาก แอธเลติก บิลเบา 57 ล้านปอนด์
นับแค่ซีซั่น 2017-18 ซีซั่นเดียว เมื่อรวมกับ แบร์นาร์โด้ กองกลางตัวรุกจาก โมนาโก อีกรายแล้ว ซิตี้ หมดเงินเสริมทัพไปมากถึง 255.7 ล้านปอนด์
เรียกได้ว่า เป๊ป สามารถใช้งานผู้รักษาประตูและแนวรับหน้าใหม่ได้ยกแผง และนั่นก็เพียงพอที่จะพา ซิตี้ ครองแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 และเป็นการสัมผัสแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษครั้งแรกของโค้ชชาวสเปน
ซีซั่นถัดมา ซิตี้ เลยเบาๆ เรื่องการเสริมทัพ โดยเน้นหนักแค่ ริยาด มาห์เรซ ปีกจาก เลสเตอร์ 60 ล้านปอนด์ ที่ทำลายสถิติค่าตัวแพงสุดของสโมสรในปี 2018 และแนวรับก็มีแข้งดัตช์โนเนม ฟิลิปป์ ซานด์เลอร์ มาจาก ซโวลล์ ค่าตัวเบาๆ 2.6 ล้านปอนด์
ฤดูกาล 2019-20 ซิตี้ ก็จัดแบ็กขวาจอมบุก ชูเอา กานเชโล่ มาจาก ยูเวนตุส ค่าตัวมหาศาล 60 ล้านปอนด์ อีกคนคือการซื้อ อังเคลินโญ่ แบ็กซ้ายกลับมาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ในราคา 5.35 ล้านปอนด์
ถ้าทั้งหมดนี้คิดว่า ซิตี้ เสริมแนวรับให้ เป๊ป แบบหนักหน่วงแล้ว ยัง ยังไม่หมดแค่นั้น
เพราะซัมเมอร์ปีนี้ ซิตี้ ซื้อเซนเตอร์แบ็กมาอีกสองคน ค่าตัวรวมกันทะลุ 100 ล้านปอนด์ ทั้ง นาธาน อาเก้ จาก บอร์นมัธ 40 ล้านปอนด์ กับตัวใหม่ล่าสุด รูเบน ดิอาส จาก เบนฟิก้า 62.1 ล้านปอนด์
รวมตัวเลขการเสริมแนวรับเฉพาะกองหลังทั้งหมดของ ซิตี้ นับตั้งแต่ที่ เป๊ป เข้ามาคุมทีมในปี 2016 อยู่ที่ 395.35 ล้านปอนด์ ขาดอีกนิดเดียวก็จะแตะหลัก 400 ล้านปอนด์
ถึงตอนนี้ ฟันธงได้แล้วว่า ซิตี้ ละลายเงินลงแม่น้ำไปกับค่าตัวของ จอห์น สโตนส์, ชูเอา กานเชโล่, เบนฌาแม็ง เมนดี้ ที่ซื้อมาแบบเสียของ เช่นเดียวกับ ดานิโล่ ที่ปล่อยไป ยูเวนตุส แล้ว
มีเพียง ไคล์ วอล์คเกอร์ กับ อายเมริก ลาปอร์เต้ เพียงสองคนที่ดูเป็นการเสริมทัพที่คุ้มค่า
หลังจากซีซั่นนี้ เป๊ป เสริมเซนเตอร์แบ็กมาอีกสองคน ต้องรอดูว่าผลงานของ อาเก้ กับ ดิอาส จะเข้าเป้าหรือล้มเหลว
เป้าหมายต่อไปของ ซิตี้ และ เป๊ป จึงหนีไม่พ้นแบ็กซ้าย ตำแหน่งที่เสาะหายาก หลังจากพลาดหวัง เบน ชิลเวลล์ ไปให้ เชลซี แล้วหนึ่งราย
แต่รอดูเถอะ ไม่ตลาดมกราคม ก็ตลาดซัมเมอร์ปีหน้า จะได้เห็น ซิตี้ ซื้อแบ็กซ้ายใหม่มาเติมเต็มความต้องการของ เป๊ป แน่นอน
และจะทำให้การต่อเติมหลังบ้านใหม่ของ เป๊ป ทะลุหลัก 400 ล้านปอนด์ในที่สุด