การกลับมาของคนรักเก่า
แต่มันไม่ใช่แค่การต้องกลับมาสู้กับทีมเก่าเท่านั้น แต่เป็นการกลับมาในตำแหน่งผู้จัดการทีม เชลซี ที่เป็นคู่ปรับร่วม "กรุงลอนดอน" อีกด้วย
ที่สำคัญหากมองย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่นายใหญ่ชาวอาร์เจนติน่า โดนปลดจากตำแหน่งนั้นดูจะจบไม่ค่อยสวยเท่าไรนัก
แม้ว่าปัจจุบัน "เวลา" จะช่วยเยียวยาหลายสิ่งหลายอย่าง แถมย้อนกลับไปเมื่อปี 2021 แดเนี่ยล เลวี่ เคยที่จะดึงตัวกลับมาคุมทีมอีกครั้ง แต่มันก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ถูกมองว่ายังตะขิดตะชวงใจอยู่บ้าง
ประเด็นที่สำคัญก็คือเรื่องของการแอบติดต่อกับ โชเซ่ มูรินโญ่ ให้มาคุมทีมในช่วงที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ยังอยู่ในตำแหน่ง และการเสนอเงิน 3 ล้านปอนด์บวกกับ จอช โอโนมาห์ ให้กับ แอสตัน วิลล่า เพื่อแลก แจ็ค กรีลิช
เอาที่เคสของ แจ็ค กรีลิช ก่อน ซึ่งย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 ทั้ง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และ ฝั่งของมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ก็คือ เควิน ผู้พ่อได้เจอกับที่ สเปน ซึ่งกุนซือ "ไก่เดือยทอง" มีความมั่นใจว่าจะสามารถคว้าตัวมาร่วมทีมได้ ขอแค่สโมสรยอมจ่ายค่าตัว 100 ล้านปอนด์
ทว่าทาง แดเนี่ยล เลวี่ กลับแสดงความเจ้าเล่ห์ออกมาด้วยการเล่นแง่เมื่อ แอสตัน วิลล่า กำลังมีปัญหาเรื่องการเงินอย่างหนักภายใต้การนำของ โทนี่ เซีย ทำให้ประธานของ สเปอร์ส มองว่าจะสามารถเอาเรื่องนี้มาใช้ประโยชน์ได้
เอาง่ายๆ ก็คือเมื่อ "สิงห์ผงาด" ร้อนเงิน ก็ต่อรองขอจ่ายแบบถูกๆ เพื่อนร่วมลีกก็คงรีบขายเพื่อนำเงินมาจุนเจือสโมสร
แต่ว่าสุดท้าย นัสเซฟ ซาวิริส มหาเศรษฐีชาว อียิปต์ บรรลุข้อตกลงเทคโอเวอร์ ทำให้ข้อเสนอที่ยื่นให้ถูกปัดตกสร้างความไม่พอใจให้กับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อย่างมาก
เพิ่มเติมให้อีกในปี 2016 ที่ทาง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ วางเป้าหมายเสริมทีมอย่าง ซาดิโอ มาเน่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม และ วิคเตอร์ วานยาม่า สุดท้ายทีมได้แค่ วานยาม่า ร่วมทีมบวกกับวันสุดท้ายของตลาดที่ได้ มุสซ่า ซิสโซโก้ เข้ามา
ส่วนผลงานของทั้งสองแข้งนี้เป็นยังไงคงไม่ต้องไปพูดถึง แถมระหว่างอยู่ในตำแหน่งทีมเคยที่จะไม่ได้นักเตะใหม่เข้ามาเสริมถึง 2 ตลอดติดต่อกันด้วย ทั้งที่พาทีมผ่านเข้าไปเล่นในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
และหลังจากความพ่ายแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล อย่างน่าเจ็บปวดในเกมชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทาง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มองว่าตัวเองพิสูจน์ฝีมือได้เป็นอย่างดีและคู่ควรได้รับการสนับสนุนเพื่อพาทีมไปอีกระดับ
แต่ซัมเมอร์นั้นทีมกลับได้นักเตะที่ถูกมองว่าธรรมดามากๆ อย่าง ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่, ไรอัน เซสเซยง, โจวานนี่ โล เซลโซ่ และ สตีเว่น เบิร์กไวน์ เท่านั้น
สุดท้ายการออกสตาร์ทที่ย่ำแย่ในปี 2019/20 นายใหญ่ชาวอาร์เจนติน่า ก็โดนปลดจากตำแหน่งไปในวันที่ 19 พฤศจิกายน และไม่ถึง 24 ชั่วโมงให้หลังทีมก็แต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทีม
เรื่องนี้สร้างความตกใจให้กับบุคคลภายในของ สเปอร์ส นั้นทำให้มีข่าวลือเรื่องการเจรจาลับระหว่าง แดเนี่ยล เลวี่ และ ปินี่ ซาฮาวี่ เอเย่นต์ของกุนซือชาวโปรตุกีส ที่ อิสราเอล
ความเจ็บปวดจากการโดนไล่ออกคือมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การแต่งตั้งเจ้านายคนใหม่ก็รวดเร็ว ทำให้เจ้าตัวไม่มีโอกาสที่จะบอกลานักเตะและทุกคนที่สโมสร
เป็นเวลาเกือบ 13 เดือนก่อนที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จะกลับมารับงานอีกครั้งที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และหลังออกจากทีมดังของ ฝรั่งเศส ก็นานอีกถึงหนึ่งปีเขาถึงกลับมาสู่พรีเมียร์ลีก ที่ เชลซี แม้จะเคยมีข่าวคราวเรื่องการติดต่อให้กลับมารับงานคุมทีมอีกครั้ง
หากกลับมาในฐานะคู่แข่งจากทีมอื่นเขาคงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น แต่นี่กลับมาในฐานะผู้จัดการทีม เชลซี ที่เป็นคู่แข่งสำคัญ สำหรับบางคนมองว่านี่เป็นสิ่งที่ไม่อาจจะให้อภัยได้
ช่วงเวลาที่ดีระหว่างทั้งสองฝ่ายคงไม่ได้ลบเลือนหายไปจากใจ แต่คืนวันจันทร์นี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแฟนบอล สเปอร์ส ที่กำลังมาแรงจะมีความสุขสุดๆ เมื่อเห็นคนรักเก่าล้มเหลวที่นี่
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT