สเตอร์ลิ่งเจ๋ง - ไกเซโด้จอด
ในเกมที่สถานการณ์พลิกไปพลิกมาอยู่ตลอด 90 นาที น่าจะเป็นหนึ่งในเกมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในฤดูกาลนี้ได้เลย
ถือว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กระตุ้นทีมกลับมาในช่วงเวลาที่เหมาะสม น่าจะเป็นผลพวงมาจากชัยชนะเหนือ สเปอร์ส 4-1 เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว แม้จะโดนกระแนะกระแหนว่าชนะทีมที่เหลือ 9 คนก็เถอะ
แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้ทีมได้โมเมนตัมที่ดี และส่งผลต่อความมั่นใจของผู้เล่นในการทำศึกใหญ่ครั้งนี้
เดอะ ซัน สื่อเจ้าดังของ อังกฤษ มีการให้คะแนนนักเตะของ เชลซี ในเกมนี้ ไปดูกันว่าแต่ละคนผลงานเป็นยังไงกันบ้าง
โรเบิร์ต ซานเชซ - 7
แต่ว่าจะเสียถึง 4 ประตู แต่ก็มีจังหวะเซฟสวยๆ จากลูกยิงของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ แบบจะแจ้งเหมือนกัน
มี 2 ประตูที่เข้าใจได้กับลูกแรกจากจุดโทษของ ฮาแลนด์ และประตูที่ 4 ของ โรดรี้ ที่ยิงแฉลบ ส่วนลูกโหม่งของ มานูเอล อาคานจี ดันลื่นจังหวะจะพุ่งเซฟ ขณะที่อีกลูกของ ฮาแลนด์ จากลูกเปิดของ ฮูเลียน อัลวาเซ ก็ถือว่าเข้าใจได้
รีซ เจมส์ - 7
กัปตันทีม เชลซี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการรับมือกับ เฌเามี่ โดกู ที่กำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมและมีความเร็วสูง แต่ก็สามารถทำให้หายเงียบไปจากเกมได้ จนต้องโดนเปลี่ยนตัวออกไปในนาทีที่ 59
นอกจากนี้ยังมีโอกาสทำประตูได้ด้วยจากฟรีคิกที่โดน เอแดร์ซอน เซฟเอาไว้ได้
อักเซล ดิซาซี่ - 6
ในภาพรวมถือว่าทำได้ไม่ดีมากนัก โดยเฉพาะในจังหวะเสียประตูจากลูกเปิดของ ฮูเลียน อัลวาเรซ ซึ่งเข้าใจว่าสกัดแบบกล้าๆ กลัวๆ เพราะหวั่นบอลเปลี่ยนทางเข้าประตู แต่อย่างน้อยน่าจะขยับใกล้ได้มากกว่านี้
ส่วนจังหวะตีเสมอ 2-2 จากลูกโหม่งของ มานูเอล อาคานจี ก็ยืนตำแหน่งไม่ดีนักแม้ว่า จังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุมแบบนี้จะเกิดความสับสนใจการตามประกบได้ก็ตาม
ติอาโก้ ซิลวา - 6
โหม่งประตูตีเสมอ 1-1 ให้กับทีมอย่างยอดเยี่ยม แต่นั่นอาจจะเป็นเรื่องดีที่สุดของเจ้าตัวในเกมนี้ แต่ส่วนที่เหลือค่อนไปทางแย่โดยเฉพาะจังหวะเสียประตู
ลูกเสียประตูตีเสมอ 2-2 พยายามดันสูงไปหน่อยเพื่อเช็กลำหน้าจนเสียตำแหน่ง ส่วนประตู 2-3 จังหวะสวนกลับของ "เรือใบ" ก็ไม่ได้อยู่ในตำแหน่ง และลูกยิงของ โรดรี้ ก็มาแฉลบเขานี่แหละเป็นประตูไป
มาร์ก กูกูเรย่า - 6
ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเนื่องจาก ลีวาย โคลวิลล์ บาดเจ็บ และดูเล่นด้วยความมั่นใจมากในการเผิชญหน้ากับ ฟิล โฟเด้น
อย่างไรก็ตามดันไปมีจังหวะทำฟาวล์เสียจุดโทษประตูแรกของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้ว่ากูรูอย่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์ จะมองว่าไม่ควรเสีย แต่สุดท้ายมันก็คือประตูของทีมเยือน
มอยเซส ไกเซโด้ - 5
หายไปจากเกมและไม่รู้วิธีการรับมือการวิ่งจากแนวลึกของ มานูเอล อาคานจี ซึ่งบ่อยครั้งโดนคู่แข่งกระชากหายตลอด
เป้าหมายของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่ต้องการให้แย่งบอลกลับมา แต่การเจอกับพวกคล่องตัวและครองบอลเหนียวอย่าง แบร์นาร์ดด้ ซิลวา และ ฮูเลียน อัลวาเรซ กลายเป็นไร้ประโยชน์ไปเลย
เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ - 6
ถ้าพูดถึงเรื่องครองบอลและไม่เสียบอลอยู่ในระดับที่ดี แต่ถาเเป็นเรื่องคุมจังหวะเกมกลางสนามต้องบอกว่าไม่ได้ช่วยอะไรมากนักเพราะเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ควบคุมพื้นที่เอาไว้ได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตามการโดนเปลี่ยนออกจากสนามในนาทีที่ 64 ของเกมถือว่าน่าแปลกใจเพราะมีส่วนร่วมกับเกมมากกว่า มอยเซส ไกเซโด้ ชัดเจน
คอเนอร์ กัลลาเกอร์ - 7
ถือว่าจัดการคุมพื้นที่ในตำแหน่งกองกลางและพยายามครองบอลเพื่อรักษาจังหวะของทีมได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะโดนบีบเกมเร็วจากคู่แข้งก็ตาม
นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมกับสองประตูทั้งลูกเปิดให้ ติอาโก้ ซิลวา โหม่งประตูแรก รวมถึงลูกยิงไกลที่มีส่วนกับประตูของ นิโกล่าส์ แจ็คสัน ด้วย
โคล พาลเมอร์ - 7
การเล่นบอลที่ชาญฉลาดของเขาทำให้ รีซ เจมส์ ได้ทะลุไปเปิดบอลให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทำประตูให้กับทีมได้
แม้ว่าการตัดสินใจหลายครั้งจะมีข้อผิดพลาด และไม่ได้ช่วยทีมมากเพียงพอ แต่การยิงจุดโทษอย่างใจเย็นในช่วงทดเจ็บแสดงให้เห็นว่าเด็กคนนี้มีความเยือกเย็นมากแค่ไหน
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง - 9
คุกคาม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ทุกครั้งยามที่ตะลุยเข้าใส่ ทำให้คู่แข่งต้องรับถอยลงไปช่วยกันตั้งรับสร้างโอกาสให้กับทีมได้เป็นอย่างดี
เรียกได้ว่าในการขึ้นเกมรุกของ เชลซี แทบทุกครั้งที่ เชลซี ทำได้ดีในการบุกไปข้างหน้า ประตูที่ทำได้แสดงให้เห็นถึงการอ่านเกมและเข้าไปในช่วงเวลาที่เหมาะสม
นิโกล่าส์ แจ็คสัน - 6
โดยรวมแล้วไม่ได้มีส่วมกับเกมอะไรมากมายนัก ยังดีที่จมูกไวเข้าไปเอาบอลจังหวะที่ เอแดร์ซอน เซฟลูกยิงของ คอเนอร์ กาลาเกอร์ ไปทำประตูให้กับทีมได้
อย่างไรก็ตามการสัมผัสบอลหรือการจ่ายบอลในพื้นที่สุดท้ายแทบไม่ได้สร้างอันตรายและทำให้ทีมได้เปรียบเลย โดยเฉพาะเมื่อได้บอลในเขตโทษทำให้ทีมเสียโอกาสไป
ตัวสำรอง
มิไคโล มูดริค (แทน เฟร์นานเดซ นานีที่ 64) - 5
แทบไม่มีส่วนร่วมกับเกม แถมการสัมผัสบอลและเล่นกับบอลก็น่าผิดหวัง
มาโล กุสโต (แทน เจมส์ นาทีที่ 64) - 6
พละกำลังและความเร็วลงมาช่วยสร้างความกระฉับกระเฉงให้เกมทางขวาอยู่บ้าง แต่ขาดความนิ่งไปหน่อยในจังหวะที่มีโอกาสทำประตู
อาร์มันโด้ โบรย่า (แทน ไกเซโด้ นาทีที่ 90) - 7
มีเวลาลงเล่นไม่มากนัก แต่ก็มีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมได้จุดโทษก่อนที่ โคล พาลเมอร์ จะสังหารตีเสมอให้ทีมเก็บหนึ่งคะแนนในเกมนี้ได้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT