สำหรับตำแหน่งแชมป์ลีกนั้น แมนฯ ซิตี้ การันตีได้ตั้งแต่เกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้คาบ้านให้ กับ เลสเตอร์ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ขณะที่ ผีแดง ก็ลอยลำกับอันดับ 2 ตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ช่วงโปรแกรมนัดปิดซีซั่น

    สำหรับทีมตกชั้นก็การันตีไปหมดตั้งแต่ก่อนถึงสัปดาห์สุดท้ายแล้ว โดย เชฟฯ ยูไนเต็ด ไปก่อนใคร ตามมาด้วย เวสต์บรอมวิช และปิดท้ายที่ ฟูแล่ม

    ที่ยังเหลือลุ้นในนัดปิดฤดูกาลนี้ก็คือโควต้าฟุตบอลยุโรปต่างๆ ไล่ตั้งแต่แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูโรปา ลีก และยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก

    ลิเวอร์พูล ที่เผชิญหน้ากับปัญหานักเตะตัวหลักบาดเจ็บมาตลอดทั้งฤดูกาลเปิดบ้านเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0 ในเกมปิดท้ายกลายเป็นว่าจบซีซั่นนี้ด้วยอันดับที่ 3 คว้าตั๋วแชมเปี้ยนส์ลีก ไปได้อย่างสุขสมหวัง

    ที่ดราม่าก็คือการแย่งชิงระหว่าง เลสเตอร์ และ เชลซี ซึ่งสุดท้ายก็เป็น สิงห์บลูส์ ที่ได้ไปแม้จะแพ้ แอสตัน วิลล่า 1-2 แต่ทัพ จิ้งจอก ก็แพ้ สเปอร์ส คาบ้านเช่นกัน

    เลสเตอร์ จบที่ 5 ต้องไปเล่นยูโรปา ลีก เช่นเดียวกับ เวสต์แฮม ที่จบอันดับ 6 ส่วน ไก่เดือยทอง ชัยชนะของพวกเขาก็ทำให้จบที่ 7 ได้ไปเล่นยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ทำให้ อาร์เซน่อล แม้จะเอาชนะ ไบรท์ตัน 2-0 ต้องอกหักจากฟุตบอลยุโรปครั้งแรกในรอบ 25 ปีไปตามระเบียบ

    รางวัลดาวซัลโวสูงสุด : แฮร์รี่ เคน 23 ประตู (สเปอร์ส)

    รางวัลแอสซิสต์มากที่สุด : แฮร์รี่ เคน 14 ครั้ง (สเปอร์ส)

    รางวัลถุงมือทองคำ : เอแดร์ซอน 19 คลีนชีต (แมนฯ ซิตี้)