ฟุตบอลโลก 2022

รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ไอ 

ซาน มารีโน 0 - อังกฤษ 10

สนาม : ซาน มาริโน่ สเตเดี้ยม

อังกฤษ ขอเพียงคะแนนเดียวเพื่อเข้ารอบ แกเร็ธ เซาธ์เกต ให้โอกาส อารอน แรมส์เดล เฝ้าเสานัดแรก ส่วนเกมรุกมี ฟิล โฟเด้น, เอมิล สมิธ โรว์ และ แฮร์รี่ เคน ลงเล่นร่วมกัน

เริ่มเกมมา 5 นาที อังกฤษออกนำอย่างรวดเร็วจากเตะมุมฝั่งซ้ายที่ ฟิล โฟเด้น โยนให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โขกระยะ 12 หลาเข้าไป 

อังกฤษ ขยับนำเป็น 2-0 ในนาที 15 ซาก้า ได้บอลฝั่งซ้ายของเขตโทษก่อนเลี้ยงเข้าขวาแล้วยิง บอลไปแฉลบ 2 ผู้เล่นเจ้าถิ่นเปลี่ยนทางเข้าประตู

อังกฤษนำ 3-0 ในนาที 27 เมื่อ ซาก้า เปิดบอลให้ โฟเด้น ตีลังกายิงสุดสวย แต่บอลหลุดกรอบออกหลังน่าเสียดาย ทว่ามีการเช็กวีเออาร์พบว่าบอลไปโดนปลายนิ้ว -- ก่อนออกหลังจึงเป็นจุดโทษของ อังกฤษ แฮร์รี่ เคน รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด 

อีก 5 นาทีถัดมา สิงโตคำรามนำห่าง 4-0 สมิธ โรว์ โยนบอลจากซ้ายให้ เคน ตวัดยิงด้วยซ้าย แม่โดนไม่เต็มแต่ก็ทิศทางเยี่ยมเบียดเสาเข้าประตูไป

เจ้าถิ่นมีโอกาสแรกของเกมเมื่อ นิโกล่า นานนี่ ยิงแฉลบ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ทำท่าว่าจะเบียดเสาเข้า แต่ แรมส์เดล ได้ออกแรงครั้งแรกพุ่งปัดบอลออกหลังหวุดหวิด

แต่นาที 39 อังกฤษ ก็มาได้จุดโทษอีกครั้งเมื่อ เคน โหม่งบอลติดมือ อเลสซานโดร แดดดาริโอ ก่อนที่ เคน จะรับหน้าที่ยิงเสียบสามเหลี่ยมกลายเป็นแฮตทริกนัดที่ 2 ติดต่อกัน

เคน มายิงประตูที่ 4 ในนาที 42 เมื่อ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ พาบอลลุยแล้วติดผู้เล่นเจ้าถิ่น เคน เกี่ยวไปเล่นต่อก่อนโยกหนีตัวบล็อกแล้วยิงเข้าไปอย่างเหนือชั้น ทำให้จบครึ่งแรก อังกฤษ นำห่าง 6-0

ครึ่งหลัง เซาธ์เกต ให้โอกาส คอเนอร์ กัลลาเกอร์ หน้าใหม่จาก พาเลซ ลงนัดแรกทีมชาติแทน ฟิลลิปส์ ส่วน แทมมี่ อบราฮัม และ เบน ชิลเวลล์ ก็ถูกเปลี่ยนลงมาใน 45 นาทีหลังเช่นกัน

นาที 56 อังกฤษมีโอกาสได้ลูกเจ็ดเมื่อ เคน ไหลบอลให้ อบราฮัม ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ ทว่างัดบอลข้ามคานน่าเสียดาย

อังกฤษนำ 7-0 จนได้ในอีก 2 นาทีถัดมา ซาก้า เปิดบอลจากซ้ายเข้าเขตโทษ อบราฮัม สะกิดเล็กน้อยให้ สมิธ โรว์ ยิงเน้นๆ ด้วยขวาเข้าไป เป็นประตูแรกในทีมชาติของดาวรุ่งจาก อาร์เซน่อล

สถานการณ์ของเจ้าถิ่นแย่หนักลงไปอีกในนาที 68 เมื่อ ดันเต้ รอสซี่ ทำฟาวล์ กัลลาเกอร์ ทำให้ได้ใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกไป ซาน มาริโน่ จึงเหลือ 10 คน และจากฟรีคิกจุดเกิดเหตุ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลให้ ไทโรน มิงส์ โหม่งเสียบตาข่ายเข้าไปเป็น 8-0 

นาที 71 อังกฤษส่งบอลตุงตาข่ายได้จาก จู๊ด เบลลิงแฮม ที่ยิงด้วยขวาในเขตโทษเข้าไป ทว่าจังหวะก่อนหน้านี้ แทมมี่ อบราฮัม ทำฟาวล์ผู้เล่นซาน มาริโน่ ไปก่อน จึงถูกริบประตู 

แต่นาที 79 อังกฤษ ก็นำ 9-0 จนได้เมื่อ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตักบอลให้ แทมมี่ อบราฮัม จับลงแล้วหมุนตัวยิงด้วยขวาส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไป

สกอร์ไหลเป็น 10-0 ในอีกนาทีถัดมาเมื่อ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ คนเดิมเปิดบอลให้ บูคาโย่ ซาก้า โหม่งจ่อๆ เข้าไป 

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้นอีก จบเกม อังกฤษ บุกชนะ ซาน มาริโน่ 10-0 คว้าตั๋วไปลุยรอบสุดท้ายได้สบายๆ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ซานมารีโน : ซิโมเน่ เบเนเด็ตตินี่ - มานูเอล บัตติสตินี่, ฟิลิปโป้ ฟับบรี, ดันเต้ รอสซี่ - ฟาบิโอ โตมาสซินี่, ลอเรนโซ่ ลูนาเดอี, เอ็นริโก้ โกลินุชชี่, มาร์เชลโล่ มูลาโรนี่, ลอเรนโซ่ ลูนาเดอี, อเลสซานโดร แดดดาริโอ - โจเซฟ เฮิร์สช์ - นิโกล่า นานนี่

อังกฤษ : อารอน แรมส์เดล - คอเนอร์ เคาดี้, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ไทโรน มิงส์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, จู๊ด เบลลิงแฮม, แคลวิน ฟิลลิปส์, บุคาโย่ ซาก้า - ฟิล โฟเด้น, เอมิล สมิธ โรว์ - แฮร์รี่ เคน 

ผู้ตัดสิน : ราเด้ โอเบรโนวิช (สโลวีเนีย)