ศึกชิง วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี่ ที่ ยูเอส.แบงก์ สเตเดี้ยม, เมืองมินนีแอโพลิส ระหว่าง เพเทรียทส์ แชมป์เก่า ตัวแทนฝั่ง เอเอฟซี เจอกับ อีเกิ้ลส์ ที่คอนเฟอเรนซ์ เอ็นเอฟซี ส่งเข้าประชัน 

อีเกิ้ลส์ แชมป์ซูเปอร์ โบวล์ ทีมล่าสุด

เกมนนี้ถือว่าทำแต้มแลกกันสนุกเกินคาด ครึ่งแรก อีเกิ้ลส์ หักปากกาเซียนท้าดวลเกมบุกนำอยู่ 22-12 คะแนน ทว่ากลับมาบู๊ต่อ 'นักรบกู้ชาติ' เครื่องติดรัวทีเดียวสามสกอร์ใหญ่ ขณะที่ 'อินทรีมรกต' ได้เพียง 10 คะแนน จนสถานการณ์พลิกผัน 32-33 สกอร์ 

ไฮไลท์จากเกม ซูเปอร์ โบวล์ ครั้งที่ 52

อย่างไรก็ตามเฮดโค้ช ดัก พีเทอร์สัน นำลูกน้องสร้างไดรฟ์กินเวลาเกือบ 7 นาที แล้วปิดด้วยทัชดาวน์ 11 หลา กระโจนเข้าเอนด์ โซน แม้ต้องรีวิวดูเพลย์ที่บอลกระฉอกตอนท้ายแต่ก็ชัดเจนว่าเป็นสกอร์ ต่อให้ทำแต้มพิเศษไม่สำเร็จ อีเกิ้ลส์ ก็ยังนำอีกครั้ง 38-33 คะแนน 

ฟัมเบิ้ล ราคาแพงของ เบรดี้

กระทั่งเพลย์ตัดสินเกมเมื่อบอลในการครอบครองของ เพเทรียทส์ กลับโดน โครี่ย์ แกรม เซฟตี้ อีเกิ้ลส์ ต่อยหลุดเป็นฟัมเบิ้ลให้ทีมเมต เดเร็ก บาร์เน็ตต์ ตามไปเก็บ เปลี่ยนฝั่งได้ถือลูก ซึ่งเกมบุกก็ไม่ทำผิดหวังจัดอีกฟิลด์ โกล จาก เจ้ก เอลเลียตต์ ระยะ 46 หลา ปิดกล่อง 41-33 คะแนน จากนั้นก็ประคองตัวเข้าป้ายสำเร็จ 

'อินทรีมรกต' แชมป์ ซูเปอร์ โบวล์ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ผู้เล่นฟอร์มเด่นในเกมนี้คือ นิค โฟลส์ จอมทัพ อีเกิ้ลส์ ปาไป 3 ทัชดาวน์, รับบอลเอง 1 สกอร์ แม้จะมีอินเตอร์เซปต์ ขณะที่ ทอม เบรดี้ จอมทัพ เพเทรียทส์ ก็สุดแกร่งขว้างระยะรวม 505 หลา เปลี่ยนเป็นสามทัชดาวน์ ทว่ามาโดนแซ็คราคาแพงก่อนหมดเวลา 2 นาที

อนึ่งทั้งสองทีมทำระยะหลารวมกัน 1,151 หลา (อีเกิ้ลส์ : 538, นิว อิงแลนด์ : 613 ) ถือว่ามากสุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันทั้งในฤดูกาลปกติและเพลย์-ออฟ