ช่วงทดเจ็บ เอ็มบั๊ปเป้ โซโล่ ไปทางซ้ายของกรอบเขตโทษเลี้ยงฝ่า 2 ตัวประกบ ลูกัส บาสเกซ, เอแดร์ มิลิเตา แล้วสับไกเล็งเสาไกลก่อนที่ เฟเดรีโก วัลเวร์เด้ จะเข้ามาบล็อค สุดปัญญาป้องกันของนายด่าน ติโบต์ กูร์กตัวส์ 

อิทธิฤทธิ์ที่ดาวยิงเฟร้นช์แมนแสดงออกมานั่นเองทำให้ อองรี ฐานะหนึ่งในแข้งต้นแบบของเด็กมันถึงกับสะกดกลั้นคำสรรเสริญไว้ไม่อยู่ 

“นี่คือความพิเศษของผู้เล่นประเภทนี้ … ไม่กี่วันก่อนเพิ่งคุยกับเพื่อนทำนอง - มีนักเตะบนโลกลูกหนังทุกวันนี้ไม่กี่คนที่ทำให้ผมลุกจากเก้าอี้มาตะโกนสะใจ - “ ตำนานกองหน้า ‘ตราไก่’ กล่าว 

https://twitter.com/CBSSportsGolazo/status/1493715034484084736

“นี่คือสิ่งที่คุณอยากเห็น นี่คือเหตุผลที่คุณอยากเปิดโทรทัศน์ชมเกม เพราะอยากเห็นใครสักคนปลดล็อคอะไรบางอย่าง” 

“ตอนเป็นนักเตะผมมักชอบดวล 1-ต่อ-1 แล้วโค้ชทุกคนก็จะบอกคุณว่า - บอลจะไปทางนั้น, บอลจะไปทางนี้ คุณต้องม้วนมันกลับแล้วเปลี่ยนไปอีกทาง - นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับการเล่นโดยอาศัยสัญชาตญาณ?” 

“เกิดอะไรขึ้นกับการท้าดวลตัว-ต่อ-ตัว? แล้วเจ้านี่ก็แสดงให้เราเห็นว่าปล่อยมันเล่นไปเหอะ ให้เขาสนุกกับสิ่งที่ทำ ซึ่งเกมเมื่อคืน ประตูแบบที่เขาทำได้คงไม่ใช่ลูกสุดท้าย”

เอ็มบั๊ปเป้ มีส่วนกับอย่างน้อย 1 ประตูบนเวทีชปล.มาต่อเนื่อง 7 นัดหลังสุด (ยิง 5, แอสซิสต์ 4) มากสุดในหมู่แข้งเฟร้นช์แมนเทียบเท่าผลงานที่ตัวเองเคยทำไว้ระหว่าง พ.ค.-ธ.ค. 2017