จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตัน ลิเวอร์พูล เชื่อว่าความปราชัยต่อ เรอัล มาดริด นัดชิงฯ ชปล. 2018 คือจุดเริ่มต้นยุคสมัยล่าแชมป์ของ หงส์แดง เพราะเหตุการณ์ที่เคียฟให้ทั้งบทเรียนและใช้พลังแค้นเป็นไฟขับเคลื่อนองค์กร
ตั้งแต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาเป็นผจก.ทีม ลิเวอร์พูล เมื่อต.ค. 2015 ได้เข้าชิงฯฟุตบอลถ้วยสามรายการคือ ยูโรปา ลีก 2016, ลีก คัพ 2016 และ แชมเปี้ยนส์ ลีก 2018 แต่ก็คว้าน้ำเหลวทั้งหมด
กระทั่งมาปลดล็อค ชปล. 2019, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2019, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2019, พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2020, คาราบาว คัพ 2022 และล่าสุด เอฟเอ คัพ 2022
ฐานะคนที่อยู่กับทีมมาร่วมทศวรรษ ‘เฮนโด้’ กล้าพูดว่าการโดน ‘ราชันชุดขาว’ อาศัยลูกเก๋าและฝีเท้าสอนเชิง 1-3 นั้นคือแผลใจในการทำงานหนัก กระทั่งเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการล่าโทรฟี่สู่แอนฟิลด์
https://twitter.com/bartseeboob/status/1526402285559238656
“เมื่อผมมองย้อนกลับไปในความพ่ายแพ้ของทีมเราแน่นอนมันก็ยุติธรรมดี โดยเฉพาะช่วงร่วมต้นสร้างความแข็งแกร่ง ผมรู้สึกว่ามันเสริมพลังพิเศษแก่ทีม เติมไฟให้อยากกลับไปแก้มือ แล้วพอได้แชมป์ก็เป็นบันไดต่อยอดคว้าความสำเร็จอีกทุกรายการ” การเปิดปากกับ ‘สกาย สปอร์ตส์’
“มันเป็นความท้าทายที่แตกต่างเพราะเมื่อทำหนแรกได้แล้ว ก็ต้องหาทางทำให้ได้อีกเรื่อยๆ ซึ่งผมคิดว่าพวกพ้องรับมือกับเรื่องดังกล่าวได้อย่างยอดเยี่ยม”
“นี่คือเรื่องการเดินทาง และมันคือเรื่องต้องทำให้มากสุดท่าที่เป็นไปได้ คุณไม่มีทางทราบหรอกว่าเมื่อไหร่คือครั้งสุดท้ายที่จะเป็นแชมป์”
“ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องของความสนุกเมื่อลงแข่ง ดื่มด่ำกับโมงยามที่เกิดขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มองถึงอนาคตข้างหน้าด้วย”
“โลกฟุตบอลหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว คุณไม่สามารถเสียสมาธิ คุณต้องแน่วแน่ต่อเป้าหมายต่อไป, ความท้าทายต่อไป คิดได้แบบนั้นก็ทำให้อะไรง่ายขึ้น”
เฮนเดอร์สัน คือกัปตัน ลิเวอร์พูล คนแรกที่ได้ชูถ้วยแชมป์ต่างๆครบ 6 รายการ
