เล่นไปจนถึงนาทีที่ 21 ตัวแทนจากเยอรมนีได้โอกาสก่อน มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ วางให้ คาริม อาเดเยมี่ หลุดไปแตะหนี ติโบต์ กูร์กตัวส์ แต่จังหวะยิงโดย ดานี่ การ์บาฆาล บล็อก 

ดอร์ทมุนด์ ได้ลุ้นอีกครั้ง เอียน มาตเซ่น แย่งบอลตรงกลางสนามก่อนจ่ายมาที่ นิคลาส ฟืลล์ครุก ยิงผ่าน ติโบต์ กูร์กตัวส์ แต่บอลชนโคนเสาอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 28 คาริม อาเดเยมี่ ได้ลุ้นอีกครั้งแต่ก็ยังไม่ผ่านนายด่านเบลเยียม

ครึ่งหลัง เรอัล มาดริด ที่เมาหมัดกลับมาตั้งหลักและมีโอกาสจาก โทนี่ โครส และ ดานี่ การ์บาฆาล สับไกไม่เป็นผล

จนนาทีที่ 74 โลส บลังโกส ออกนำ 1-0 จากจังหวะเตะมุมทางซ้าย โทนี่ โครส เปิดเข้าเขตโทษ ดานี่ การ์บาฆาล วิ่งหนีตัวประกบแล้วโขกไม่เหลือซาก พาแฟนบอลได้เฮลั่นสนาม

เกมยังเป็นของ เรอัล มาดริด ที่ได้โอกาสมากมาย ซึ่งนาทีที่ 83 ทะยานหนีห่าง 2-0 เอียน มาตเซ่น จ่ายบอลขวางสนามพลาด จู๊ด เบลลิงแฮม ตัดแล้วผ่านต่อ วินิซิอุส จูเนียร์ สังหารไม่พลาด 2-0 

นาที 87 นิคลาส ฟึลล์ครุก ส่งบอลเข้าประตู แต่ความหวังต้องพังลงเพราะ วีเออาร์ ยึดคืนในจังหวะล้ำหน้า

จบเกม เรอัล มาดริด เอาชนะ ดอร์ทมุนด์ 2-0 คว้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 15 มาครองได้สำเร็จ