เกมที่ ฮาร์ด ร็อค สเตเดี้ยม , อาร์เจนติน่า ที่ผ่านเข้ารอบไปแล้วหลังชนะสองเกมแรกพัก ลิโอเนล เมสซี่ เป็นแค่คัวสำรอง โดยแนวรุกเป็น อังเคล ดิ มาเรีย, เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ประสานงาน ส่วน เปรู ที่มีแต้มเดียวจาก 2 เกมแรกวาง ไบรอัน เรย์น่า, เอดิซอน ฟลอเรส และ เปาโล เกร์เรโร่ หัวหอกตัวเก๋าล่าตาข่าย

    เกมของทัพ "ฟ้า-ขาว" เหนือกว่าชัดเจนและครองบอลบุกแทบจะข้างเดียว แต่กว่าจะได้ประตูต้องรอถึงต้นครึ่งหลังนาทีที่ 47 โจวานี่ โล เซลโซ่ ไหลบอลให้ อังเคล ดิ มาเรีย ตวัดจังหวะเดียวมาถึง เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ หลุดเข้าไปชิบบอลข้าม เปโดร กาเยเซ่ ตุงตาข่ายเป็น 1-0

    นาทีที่ 56 อาร์เจนติน่า มาส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้อีกครั้งจาก นิโกลัส ตาญาฟิโก้ แต่ว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน จากนั้นนาทีที่ 72 "ฟ้า-ขาว" มาได้จุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลของ เฮซุส กาสตีโย่ แต่ เลอันโดร ปาเรเดส ยิงชนเสาชวดได้ประตูไป

    อย่างไรก็ตาม "ฟ้า-ขาว" ก็มาบวกประตูเพิ่มจนได้นาทีที่ 87 จาก เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ คนเดิมยิงประตูที่สองของตัวเองให้ทีมคว้าชัย 2-0 เก็บชัยชนะ 3 เกมรวดแถมไม่เสียประตูด้วย

    อีกคู่เกมที่สนาม อินเตอร์ แอนด์ โค สเตเดี้ยม, แคนาดา ที่มี 3 คะแนนนัดนี้มี โจนาธาน ดาวิด กับ อัลฟอนโซ่ เดวิส เป็นแกนนำ ส่วนทาง ชิลี ที่มีแต้มเดียวจาก 2 เกมนำทีมโดย อเล็กซิส ซานเชซ กับ เอดูอาร์โด้ วาร์กาส

    ชิลี ที่ต้องการชัยเกมไม่ได้เหนือกว่าแถมต้องมาเหลือ 10 คนในนาทีที่ 27 เมื่อ กาเบรียล ซูอาโซ่ โดนใบเหลืองสองใบนาทีที่ 12 และ 27 ถูกไล่ออกจากสนาม แต่ทีมก็ได้ลุ้นประตูที่ใกล้เคียงนาทีที่ 38 จากลูกฟรีคิก มาร์เซลีโน่ นูนเญซ รับหน้าที่ยิงบอลเข้ากรอบแต่ มักซีม เกรโป เซฟได้ จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

    เข้าครึ่งหลังแม้ ชิลี ตัวน้อยกว่าแต่พยายามบุก นาทีที่ 55 โรดรีโก้ เอเชเวร์เรีย ได้ยิงในกรอบแต่ยังไม่ผ่านมือ มักซีม เกรโป อีก โดยช่วงเวลาที่เหลือ แคนาดา เน้นเกมรัดกุมสุดท้ายรักษาสกอร์ไว้ได้ จบเกมเสมอกันไป 0-0 ทำให้ แคนาดา ผ่านเข้ารอบตาม อาร์เจนติน่า ไป

ตารางคะแนนกลุ่มเอ

                แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย แต้ม

1.อาร์เจนติน่า   3 3 0 0 5 0 9 

2.แคนาดา       3 1 1 1 1 2 4      

3.ชิลี              3 0 2 1 0 1 2                               

4.เปรู              3 0 1 2 0 3 1