เกมที่สนาม เอ็นอาร์จี สเตเดี้ยม, อาร์เจนติน่า พักตัวหลักที่พักมาจากเกมที่แล้วลงเล่นพร้อมหน้าทั้ง ลิโอเนล เมสซี่, โรดรีโก้ เด ปอล, ลีซานโดร มาร์ตีเนซ และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ด้าน เอกวาดอร์ มี มอยเซส ไกเซโด้, เฮเรมี่ ซาร์เมียนโต้ และ เอ็นเนร์ วาเลนเซีย เป็นขุมกำลังหลัก

    เปิดฉากมา เอกวาดอร์ สู้ได้ไม่เป็นรองและน่าได้ประตูนาที 15  เฮเรมี่ ซาร์เมียนโต้ ได้ยิงในเขตโทษ เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ เซฟได้

    นาทีที่ 27 อาร์เจนติน่า ลุยขึ้นมาบ้าง นาอวล โมลีน่า เปิดบอลจากทางขวาเข้ากลาง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ขึ้นโหม่งบอลหลุดเสาไปนิดเดียว

    มาถึงนาทีที่ 35 เป็น "ฟ้า-ขาว" ที่ได้ประตูขึ้นนำจากลูกเตะมุมทางขวา ลิโอเนล เมสซี่ เปิดมาที่เสาแรก อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ โหม่งเช็ดบอลเลยมาเสาสอง ลีซานโดร มาร์ตีเนซ อยู่คนเดียวตามมาโหม่งจ่อๆ เข้าไปเป็น 1-0 ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้   

    เข้าครึ่งหลังนาทีที่ 61 ทาง เอกวาดอร์ มาได้จุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลของ โรดรีโก้ เด ปอล หลังมีการเช็กวีเออาร์, เอ็นเนร์ วาเลนเซีย รับหน้าที่สังหาร แต่ยิงไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

    "ฟ้า-ขาว" ได้กำลังใจกลับมาหลังลงเล่นในครึ่งหลังแบบเนือยๆ ในนาทีที่ 68 ลิโอเนล เมสซี่ ได้บอลในเขตโทษก่อนสับไกแต่ติดเซฟ อเล็กซานเดร์ โดมิงเกซ

    เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยชัยชนะของ อาร์เจนติน่า แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เอกวาดอร์ มาได้ประตูตีเสมอจากการประสานงานของสองตัวสำรอง จอน เยบัวห์ เปิดบอลเข้าเขตโทษ เกวิน โรดรีเกซ โหม่งตุงตาข่าย ในตอนแรกมีการเช็กวีเออร์หลังถูกฟ้องว่าล้ำหน้า แต่สุดท้ายก็เป็นประตูทำให้จบเกมด้วยการเสมอกัน 1-1 ต้องดวลจุดโทษตัดสินก่อนจะเป็น อาร์เจนติน่า ยิงแม่นกว่าชนะไปได้ 4-2 ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปรอพบผู้ชนะระหว่าง เวเนซูเอล่า กับ แคนาดา