เกมที่ แอลลีเจียนท์ สเตเดี้ยม, อุรุกวัย ได้รับข่าวดีเมื่อได้ มักซิมิเลียโน่ อาเราโฮ ฟิตออกสตาร์ทตัวจริงในแนวรุกร่วมกับ ฟากุนโด้ เปยีสตรี้, นิโกลัส เด ลา กรูซ และ  ดาร์วิน นูนเญซ ส่วน บราซิล ไม่มี วินิซิอุส จูเนียร์ ติดโทษแบน โดยส่ง เอ็นดริค ลงเล่นกองหน้าตัวเป้า มี ราฟินญ่า, ลูกัส ปาเกต้า และ โรดรีโก้ โกเอส คอยช่วย

    เริ่มเกมมา 14 บราซิล ได้ลองยิงก่อนจากจังหวะฟรีคิกของ ราฟินญ่า แต่ยิงติดกำแพงออกหลังไป จากนั้นนาทีที่ 29 อุรุกวัย มาเสีย โรนัลด์ อาเราโอ กองหลังตัวหลักที่บาดเจ็บ ทำให้ มาร์เซโล่ บีเอลซ่า ต้องเปลี่ยนตัวออกแล้วเอา โฮเซ่ มาเรีย คีเมเนซ ลงเล่นแทน

    นาทีที่ 35 "จอมโหด" มาได้โอกาสจากบอลเปิดเข้าเขตโทษ ดาร์วิน นูนเญซ โหม่งเต็มหัวแต่บอลข้ามคานออกไป จากนั้นจังหวะเนื่อง "แซมบ้า" ได้โอกาสจาก ราฟินญ่า ที่ยิงในเขตโทษแต่ เซร์คิโอ โรเช็ต เซฟได้

    นาทีที่ 39 ลูกัส ปาเกต้า มาโดนใบเหลืองแรกของเกม ซึ่งจะทำให้เจ้าตัวติดโทษแบนหากทีมผ่านเข้ารอบต่อไปได้ จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0

    ครึ่งหลังโอกาสลุ้นประตูของทั้งสองทีมมีไม่มากนักในนาทีที่ 68 ลูกัส ปาเกต้า ได้บอลจากจังหวะประสานงานกันของทีมแต่จังหวะยิงก็ติดบล็อคผู้เล่นคู่แข่งอีก

    มาถึงนาทีที่ 74 ทาง อุรุกวัย ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คนเมื่อทาง นาอีตาน นานเดซ พุ่งเสียบเต็มข้อเท้าของ โรดรีโก้ โกเอส ตอนแรกผู้ตัดสินให้เป็นใบเหลือง แต่หลังจากเช็กวีเออาร์ก็เปลี่ยนคำตัดสินเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

    บราซิล ตัวมากกว่าเดินหน้าลุยเลย นาทีที่ 84 เอ็นดริค พาบอลหนีแนวรับ อุรุกวัย เข้าไปยิงในเขตโทษได้แต่ไม่ผ่านมือ เซร์คิโอ โรเช็ต สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่มต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษและ อุรุกวัย  ที่ยิงแม่นกว่าเป็นฝ่ายชนะและผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบ โคลอมเบีย ถล่ม ปานามา 5-0 โดยจะเล่นกันช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฏาคม ตามเวลาในประเทศไทย