ฟุตบอลยูโร 2024 นัดชิงชนะเลิศ

สเปน 2 - อังกฤษ  1

สนาม : โอลิมเปียสตาดิโอน, เบอร์ลิน

สเปน ได้  ดานี่ การ์บาฆาล กับ โรบิน เลอ นอร์กม็องด์ สองกองหลัง พ้นโทษแบนกลับมาอีกครั้ง ส่วน อังกฤษ ส่ง ลุค ชอว์ ลงตัวจริงในตำแหน่งวิงแบ็กซ้าย แนวรุกยังนำโดย แฮร์รี่ เคน 

รูปเกมในช่วงยี่สิบนาทีแรก สเปน เป็นฝ่ายครองบอลทำเกมรุกได้มากกว่า ขณะที่ อังกฤษ มีตอบโต้ได้เช่นกัน แต่ไม่มีฝ่ายใดได้ลุ้นยิงจะแจ้ง

นาที 28 สเปน ได้ลุ้นยิงครั้งแรก ฟาเบียน รูอีซ รับบอลจาก ดานี่ การ์บาฆาล ก่อนยิงด้วยขวาตรงเส้นเขตโทษ บอลแฉลบ มาร์ค เกฮี ก่อนเข้าซอง จอร์แดน พิคฟอร์ด

สเปน เจาะไม่ง่ายต้องลุ้นยิงไกลหน้าเขตโทษ นาที 35 ดานี่ โอลโม่ ได้ส่องด้วยขวา ทว่าติดบล็อก แฮร์รี่ เคน ที่ลงไปช่วยเกมรับในเขตโทษ

ท้ายครึ่งแรก อังกฤษ มีโอกาสบ้าง จู๊ด เบลลิงแฮม แย่งบอลจาก ดานี่ การ์บาฆาล ทางฝั่งซ้ายก่อนป้ายให้ เคน ได้ยิง ทว่า โรดรี้ พุ่งบล็อกหวุดหวิด จังหวะต่อเนื่องกันอังกฤษเรียกฟาวล์ได้หน้าเขตโทษ เดแคลน ไรซ์ เปิดเข้าไปลุ้น โรบิน เลอ นอร์กม็องด์ โหม่งไม่ขาด บอลเลยไปถึง ฟิล โฟเด้น ได้ยิงเสาไกลมุมแคบ ทว่าตรงตัว อูไน ซีมอน ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลัง สเปน ปรับแดนกลางส่ง มาร์ติน ซูบีเมนดี้ ลงแทน โรดรี้ ที่มีปัญหาบาดเจ็บจากครึ่งแรก 

รีสตาร์ทกลับมาเพียงนาทีเศษ สเปน ออกนำ 1-0 ลามีน ยามาล ลากตัดจากขวาเข้าในก่อนจิ้มต่อออกซ้ายไปให้ นีโก้ วิลเลี่ยมส์ วิ่งมายิงด้วยซ้ายทันที บอลผ่าน พิคฟอร์ด ตุงตาข่าย

นาที 49 สเปน ได้ลุ้นอีกครั้ง นีโก้ วิลเลี่ยมส์ ได้ยิงหน้าเขตโทษ บอลพุ่งตรง โอลโม่ ที่จับเล่นเองก่อนยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่บอลไม่เข้ากรอบ

เกมของสเปนดีกว่าชัดเจนและเกือบได้เพิ่มอีกสองจังหวะจาก อัลบาโร่ โมราต้า ได้หลุดไปยิงในเขตโทษแต่มีตัวสกัดจังหวะสุดท้าย รวมถึง วิลเลียมส์ ที่ซัดหลุดกรอบ

อังกฤษ ตอบโต้บ้าง จู๊ด เบลลิงแฮม พลิกหนีผู้เล่นสเปนหน้าเขตโทษก่อนซัดด้วยซ้ายเต็มแรง ทว่าบอลหลุดเสาออกหลังไป

อังกฤษ รอดพ้นการเสียประตูที่สองอีกครั้งในนาที 66 ลามีน ยามาล ล็อกหนี ลุค ชอว์ ก่อนซัดด้วยซ้ายลูกถนัด ทว่า พิคฟอร์ด ซูเปอร์เซฟออกหลังไปได้

และแล้วทัพสิงโตคำรามก็ตามตีเสมอ 1-1 จากทีเด็ดสำรองอีกครั้ง ซาก้า จ่ายบอลเข้ากลาง เบลลิงแฮม สะกิดออกมาหน้าเขตโทษให้ โคล พาลเมอร์ ที่ลงสำรองมาได้เพียง 3 นาที บรรจงยิงด้วยซ้ายแฉลบแนวรับ สเปน เล็กน้อยก่อนเข้าประตูไปอย่างยอดเยี่ยม

จอร์แดน พิคฟอร์ด ซูเปอร์เซฟช่วยอังกฤษอีกครั้งในนาที 82 จากจังหวะกดเน้นๆ ด้วยซ้ายของ ยามาล ในเขตโทษ 

ก่อนจบเกม 4 นาที สเปน มาได้ประตูนำ 2-1 มิเกล โอยาร์ซาบาล ตัวสำรองจ่ายออกซ้ายให้ มาร์ก กูกูเรย่า เปิดยัดเข้ากลางอีกที โอยาร์ซาบาล สอดเข้าไปจิ้มตุงตาข่ายเสาแรก

จากนั้น อังกฤษ ไม่สามารถตามตีเสมอได้อีกทำให้จบเกม สเปน เอาชนะ อังกฤษ 2-1 คว้าแชมป์สมัย 4 ไปครอง ส่วน อังกฤษ อกหักเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

สเปน : อูไน ซีมอน - ดานี่ การ์บาฆาล, โรบิน เลอ นอร์กม็องด์, เอ็มเมอริค ลาปอร์กต์, มาร์ก กูกูเรย่า - โรดรี้, ฟาเบียน รูอีซ - ลามีน ยามาล, ดานี่ โอลโม่, นีโก้ วิลเลี่ยมส์ - อัลบาโร่ โมราต้า

อังกฤษ : จอร์แดน พิคฟอร์ด - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, มาร์ค เกฮี - บูคาโย่ ซาก้า, ค็อบบี้ เมนู, เดแคลน ไรซ์, ลุค ชอว์ - ฟิล โฟเด้น, จู๊ด เบลลิงแฮม - แฮร์รี่ เคน

ผู้ตัดสิน : ฟร็องซัวส์ เลเตเซียร์ (ฝรั่งเศส)