ดี.เจ.มอร์ ปีกนอกวัย 27 ปีเชื่อมั่นว่า ชิคาโก้ แบร์ส จะสามารถพลิกโฉมหน้าแฟรนไชส์หลังจากนี้ จากการอัพเกรดทีมบุกด้วยการเลือก เคเลบ วิลเลียมส์ และ โรม โอดันซี่ ควอร์เตอร์แบ็กและปีกนอกจากร่างดราฟท์รอบแรก คลาส 2024 รวมถึงการมาของ คีแนน อัลเลน ผู้เล่นมากประสบการณ์จาก แอลเอ ชาร์จเจอร์ส จากการเปิดเผยผ่าน ชิคาโก้ ซัน-ไทม์ส 

มอร์ เป็นปีกนอกของ แบร์ส ที่ประสบความสำเร็จในช่วงหลายปีหลัง เขาทำผลงานดีสุดอาชีพทั้งการรับบอล 96 ครั้ง ระยะ 1,364 หลาและทำ 8 ทัชดาวน์จากการออกสตาร์ท 17 เกม แม้ว่าทัพพญาหมีจะมีปัญหาที่ตำแหน่งควอร์เตอร์แบ็กที่ยังขาดความแน่นอนและยังเป็นแฟรนไชส์ที่ไม่เคยมีจอมทัพที่ขว้างบอลแตะหลัก 4,000 หลาหรือทำ 30 ทัชดาวน์ในหนึ่งซีซั่น

ตอนนี้ แบร์ส มีความหวังมากขึ้นกับ วิลเลียมส์ ในฐานะควอร์เตอร์แบ็กแฟรนไชส์คนใหม่หลังถูกเลือกเข้าทีมจากร่างดราฟท์อันดับ 1 คลาส 2024 เมื่อรวมพลังกับ อัลเลน ปีกนอกประสบการณ์ที่ถูกเทรดมาจาก ชาร์จเจอร์ส รวมถึง โอดันซี่ ปีกนอกรุคกี้ดราฟท์อันดับ 9 

มอร์ ตกลงขยายสัญญา 4 ปี มูลค่า 110 ล้านเหรียญสหรัฐ การันตี 82.6 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่ออยู่ใน ชิคาโก้ ไปจนถึงซีซั่น 2029 ซึ่งปีกนอกวัย 27 ปีแสดงความเชื่อมั่นว่า แบร์ส จะก้าวไปสู่หน้าใหม่ของแฟรนไชส์หลังจากนี้ 

'ตอนผมมาที่นี่ (เรื่องราว) เป็นสิ่งหนึ่ง' มอร์ กล่าวกับ แพทริค ฟินลี่ย์ ของ ชิคาโก้ ซัน-ไทม์ส 'และเมื่อฤดูกาลดำเนินไปในแบบที่เป็นอยู่ ผมรู้สึกว่า 'ใช่แล้ว ตอนนี้เราโยนมันทิ้งไปได้เลย'' 

มอร์ รับบอลแตะหลัก 1,000 หลามาตลอด 4 ฤดูกาลหลังสุด (3 ซีซั่นกับ แคโรไลน่า แพนเธอร์ส) แต่ปีกนอกวัย 27 ปีไม่เคยมีชื่อติด โพร โบวล์ เลย และนับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมามีแค่ อัลเลน โรบินสัน เป็นปีกนอกคนเดียวของ แบร์ส ที่รับบอลแตะหลัก 1,000 หลาได้สองปีติดต่อกัน (2019-2020) 

หลังการขยายสัญญา 4 ปีของ มอร์ ซึ่งจะทำให้เขาอยู่กับ แบร์ส จนถึงซีซั่น 2029 จึงมีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นปีกนอกที่รับบอลมากสุดของแฟรนไชส์แซงหน้า จอห์นนี่ มอร์ริส เช่นกัน

มอร์ริส เล่นกับ แบร์ส ตลอดอาชีพของเขา (1958-1967) และคว้าแชมป์เอ็นเอฟแอลในปี 1963 โดยเป็นเจ้าของสถิติรับบอลมากสุดของแฟรนไชส์ที่ระยะ 5,059 หลา แต่ มอร์ ไม่กังวลมากนักเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว