โฆเซ่ หลุยส์ มาร์ตีเนซ-อัลเมด้า นายกเทศมนตรีนครมาดริดร้องขอให้ วินิซิอุส จูเนียร์ แนวรุกชาวบราซิเลียนของ เรอัล มาดริด ถอนคำพูดของเขาที่บอกว่า สเปน อาจถูกริบสิทธิ์จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2030 เนื่องจากยังไม่สามารถจัดการกับปัญหาเรื่องการเหยียดเชื้อชาติได้อย่างที่คาดหวัง ตามรายงานจากมาร์ก้าเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

วินิซิอุส เคยให้สัมภาษณ์ ซีเอ็นเอ็น เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเขาจะเดินออกจากสนามพร้อมเพื่อนร่วมทีม เรอัล มาดริด หากเขาถูกเหยียดเชื้อชาติในฤดูกาลนี้ และยังกล่าวอีกครั้งมันเป็นเรื่องสำคัญที่นักเตะจะต้องรู้สึกสบายใจ แม้ว่า สเปน จะมีการจัดการกับเรื่องเหยียดเชื้อชาติในระดับหนึ่งแล้วก็ตาม แต่หากยังไม่พัฒนาเพียงพอก็ควรย้ายฟุตบอลโลกปี 2030 ไปที่อื่นแทน

ขณะที่ มาร์ตีเนซ-อัลเมด้า ในฐานะนายกเทศมนตรีนครมาดริดยืนยันว่าเขาจะยืนอยู่เคียงข้าง วินิซิอุส ทุกครั้งที่เขาถูกเหยียดเชื้อชาติ แต่มองว่าแนวรุกชาวบราซิเลียนพูดนั้นเป็นความผิดพลาดเช่นกัน

'เราทุกคนรู้ดีว่าสังคมมีเรื่องเหยียดเชื้อชาติ และเราต้องทำงานหนักเพื่อขจัดเรื่องเหยียดเชื้อชาติเหล่านี้ แต่การบอกว่าเราเป็นสังคมเหยียดเชื้อชาติ และยิ่งไปกว่านั้น มาดริด ยังเสี่ยงต่อการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2030 อีกด้วย ถือเป็นความไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง'

'ผมขอให้คุณแก้ไข คุณต้องขอโทษ จงรู้ว่าเมื่อมีเรื่องเหยียดเชื้อชาติ คุณจะมีพวกเราทุกคนอยู่เคียงข้าง แต่คุณจะไม่มีเราทุกคนอยู่เคียงข้างคุณเมื่อคุณพูดว่าเราเหยียดเชื้อชาติ เพราะนั่นไม่เป็นความจริง เมื่อคุณทำผิดพลาด คุณต้องแก้ไขมัน' มาร์ตีเนซ-อัลเมด้า กล่าวในแถลงการณ์ 

นักการเมืองจากพรรคกลางขวายังกล่าวเพิ่มเติมว่าพรสวรรค์ของ วินิซิอุส ในสนามไม่ได้ทำให้เขารอดพ้นจากความผิดพลาด แม้ว่า มาร์ตีเนซ-อัลเมด้า จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ ฟลอเรนตีโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด ก็ตาม โดยทั้งคู่ปรากฎตัวในงานต่างๆร่วมกันมากมาย และนายกเทศมนตรีนครมาดริดยังผลักดันโครงการที่จอดรถใต้สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ซึ่งจะทำให้ทีมชุดขาวได้รับประโยชน์จากโปรเจ็กท์นี้อย่างมหาศาล

'การเป็นนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำผิดพลาดไม่ได้ และครั้งนี้เขาผิดพลาดแล้ว วินิซิอุส มีคนส่วนใหญ่ในสังคมสเปนอยู่เคียงข้างเพื่อต่อสู้กับการเหยียดเชื้อชาติ แต่เราไม่สามารถอยู่เคียงข้างเขาได้เมื่อเขากล่าวหาสังคมสเปนเกือบทั้งหมด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมมาดริดเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติ เพราะผมยอมรับไม่ได้'

'เขาต้องมองเห็นคุณค่าของการที่เขาอาศัยอยู่ในเมืองที่เปิดกว้าง เป็นมิตร และมีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ลักษณะเฉพาะของเมืองมาดริด คือไม่มีใครถูกถามว่าพวกเขามาจากไหนหรือกำลังจะไปที่ใด ที่นี่ไม่มีใครคำนึงถึงเรื่องนี้หรือถูกกีดกัน การที่เขาต้องประสบกับเหตุการณ์ที่น่าเสียดายบางอย่างนั้นไม่สามารถเป็นเหตุผลในการเรียกสังคมสเปนเกือบทั้งหมดว่าเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติและบอกว่าฟุตบอลโลก 2030 ไม่ควรจัดขึ้นที่นี่'

อย่างไรก็ตาม มาร์ตีเนซ-อัลเมด้า อาจไม่ได้ดูการให้สัมภาษณ์นี้ เนื่องจาก วินิซิอุส พูดอย่างชัดเจนว่าเขาไม่เชื่อว่าสังคมสเปนทั้งหมดจะเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติและยังต้องพัฒนาต่อไปในการจัดการเรื่องดังกล่าว แต่แนวรุกชาวบราซิเลียนก็พูดถึงการจัดศึกฟุตบอลโลกปี 2030 ที่อื่นเช่นกันหากยังคงมีเหตุการณ์เหยียดเชื้อชาติเกิดขึ้นอีกในอนาคต