"บิ๊กป๋อม" อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เผยถึงภาพรวมของทีมฟุตซอลทีมชาติไทยในศึก Continental Futsal Championship 2024 และการเตรียมความพร้อมโค้งสุดท้ายก่อนลุยศึก "FIFA Futsal World Cup 2024" ว่า
"เกมนัดชิงชนะเลิศกับอัฟกานิสถานสู้กันได้อย่างสมศักดิ์ศรี เราทำได้ตามเป้ามายคือเป็นแชมป์รายการนี้ แต่ว่าองค์ประกอบต่างๆในเกมที่ผ่านมาทั้ง 4 แมตช์ มันก็มีทั้งเชิงบวกและเชิงที่ต้องปรับปรุง สำหรับทัวร์นามเมนต์นี้เป็นบททดสอบที่ดีมากๆ คอนติเนนทัลเกิดขึ้นมาครั้งแรกในช่วงโควิด และเราไม่เคยได้แชมป์มาก่อนหน้านี้"
"ครั้งนี้เราทำได้ผมว่าเป็นการสร้างความมั่นใจที่ดีให้กับนักเตะในทีมทุกคน ถ้าเราจำกันได้ช่วงก่อนที่จะไปแข่งขันฟุตซอลโลกครั้งที่แล้วที่ลิธัวเนีย เราก็ใช้การแข่งขันคอนติเนนทัลเป็นบททดสอบ ครั้งนี้ก็จะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทำให้เรามีความพร้อมในองค์ประกอบด้านต่างๆตามเเผนการเตรียมทีมก่อนไปฟุตซอลเวิลด์คัพ"
"คิดว่าประโยชน์จากการแข่งขันนี้กับสิ่งที่เรามองเห็นและได้วิเคราะห์จะนำไปใช้ประโยชน์เพื่อนำไปปรับปรุง หลังจากนี้เราจะมีเวลาอีกราวหนึ่งสัปดาห์ การบริหารเรื่องการฝึกซ้อมที่ไทยและอุซเบกิสถาน การจัดการเรื่องการเดินทางเพื่อคงสภาพสมรรถภาพทางร่างกายของนักกีฬา อีกทั้งอยากให้เรามีความพร้อมมากที่สุดในเรื่องของการปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศเเละสภาพเเวดล้อม โดยเฉพาะกับประเทศอุซเบกิสถานซึ่งเป็นประเทศที่ห้อมล้อมด้วยภูเขาสูง หากเราเดินทางไปถึงเเละฝึกซ้อมอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ"
"พอดีกับทีมชาติอิหร่านได้ติดต่อมาเนื่องจากอยู่เมืองบูคาร่าเหมือนกัน หลังจบฟุตซอลคอนติเนนทัล ทีมฟุตซอลไทย ก็ควรจะมีเกมอุ่นเครื่องอีกหนึ่งแมตช์กับคู่แข่งที่แข็งแกร่ง ถือเป็นโอกาสดีจึงได้ตอบรับคำเชิญทางอิหร่านให้มีเกมนี้เกิดขึ้น ก็จะมีการลงเล่นอีก 1 แมตช์ ในรูปแบบทดสอบทีม(Co-training) ซึ่งทางฟีฟ่าได้อนุมัติมาแล้ว"
"ส่วนเรื่องของผู้รักษาประตูคือ อรุษ เส็นบัตร ที่มีอาการบาดเจ็บทางทีมแพทย์ประเมินว่าอาจจะลงเล่นได้ในเกมที่สองของฟุตซอลโลก ทางทีมก็แจ้งว่าต้องการเพิ่มรายชื่อของ เจริญพงษ์ ประสานสัตย์ ไปในการเดินทางครั้งนี้ด้วยเป็น 15 คน เพื่อรอดูสถานการณ์อีกครั้งหากฟื้นฟูไม่ทันก็จะมีโอกาสเปลี่ยนแปลงรายชื่อได้ก่อนการแข่งขัน 24 ชั่วโมงกรณีที่มีใบรับรองแพทย์"
สำหรับทีมฟุตซอลทีมชาติไทย อันดับ 9 ของโลก จะอุ่นเครื่องแบบทดสอบทีม(Co-training) พบกับ ทีมชาติอิหร่าน เบอร์ 1 เอเชีย และ แรงค์กิ้งอันดับ 4 ของโลก ในวันที่ 11 กันายน 2567 นี้ เตรียมความพร้อมก่อนลุยศึก ฟีฟ่า ฟุตซอล เวิลด์คัพ2024 ที่ ประเทศอุซเบกิสถาน