เกรแฮม พ็อตเตอร์ เปิดเผยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงเวลาของเขากับ เชลซี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความกดดันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะจบลงด้วยการถูกไล่ออก
พ็อตเตอร์ วัย 49 ปี โดนไล่ออกในเดือนมีนาคม ปี 2023 หลังจากแพ้คาบ้านต่อ แอสตัน วิลล่า 0-2 ทั้งที่คุมทีมในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้ไม่ถึง 7 เดือน มันเป็นการแพ้คร้ังที่ 11 จาก 31 นัดของเขา นับตั้งแต่เข้ามาแทนที่ โธมัส ทูเคิ่ล เมื่อวันที่ 8 กันยายน
ในตอนจากไปของเขา เชลซี อยู่ที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก และตามหลังทีมพื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีก ถึง 12 แต้ม
บอร์ดบริหารได้ให้ไฟเขียวสำหรับการซื้อขายผู้เล่นใหม่ราว 550 ล้านปอนด์ ในทั้งช่วงซัมเมอร์ และหน้าหนาว ทำให้ พ็อตเตอร์ มีทีมที่ใหญ่เกินไป และมีเวลากับผู้เล่นใหม่น้อยมาก
พ็อตเตอร์ เน้นย้ำถึงการแข่งขันอันโหดร้ายที่เกิดขึ้นจากฟุตบอลโลกกลางซีซั่น รวมถึงอาการบาดเจ็บของผู้เล่นคนสำคัญ
"มันเกือบจะเหมือนกับพายุที่สมบูรณ์แบบเลย" พ็อตเตอร์ กล่าว
"มันเป็น 14 นัดในช่วง 6 สัปดาห์ก่อนฟุตบอลโลก มันเหมือนกับว่าคุณอยู่ในเครื่องซักผ้า นั่นคือสิ่งที่เราพูดในทีม เพราะเกมยังคงดำเนินต่อไปและเราไม่มีเวลาเตรียมตัว"
"เราเสียทั้ง รีซ (เจมส์) และ เวสเล่ย์ (โฟฟาน่า) ไปเพราะอาการบาดเจ็บ ผมคิดว่าเรามีผู้เล่นมากที่สุดในฟุตบอลโลก และหลังจากนั้นไม่นาน เราก็เสีย ราฮีม (สเตอร์ลิง) และ คริสเตียน พูลิซิช ไป"
"หากคุณทุ่มเงิน 300 ล้านปอนด์กับนักเตะที่มาจากนอกพรีเมียร์ลีก จากประเทศที่มีพักเบรกกลางฤดูกาล ความจริงก็คือคุณไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าพวกเขาจะลงเล่นได้และทุกอย่างจะเรียบร้อยดี"
"แต่แน่นอนว่าหากคุณจ่ายไป 300 ล้านปอนด์ ความกดดันต่อทีมก็จะเพิ่มมากขึ้นและความกดดันต่อโค้ชก็จะเพิ่มขึ้นด้วย"
"ผู้คนพากันพูดว่า 'เอาน่า คุณใช้เงินทั้งหมดแล้ว' ผมคิดว่าถ้าผมจะใช้มันกับ แฮร์รี่ เคน และ เดแคลน ไรซ์ ก็คงแฟร์พอ แต่ในเวลานั้นมันคือการตัดสินใจ"
"เราพยายามสนับสนุนมันให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่มันทำให้เราพบกับความท้าทายจากผู้เล่นจำนวนมากหลังจากเดือนมกราคม และหลังจากนั้นพวกเขาก็ไปไหนไม่ได้แล้ว"
