สำหรับ”ริคาโด้ ซานโต้ส” หอกชาวบราซิล ถือได้ว่าเป็นศูนย์หน้าที่มากประสบการณ์ซึ่งผ่านการค้าแข้งมาทั้งในยุโรปและเอเชีย

โดยเจ้าตัวเริ่มต้นการค้าแข้งอาชีพกับสโมสร เบาวิสต้า เอสซี ทีมในลีกบ้านเกิด ก่อนที่จะย้ายข้ามฟากไปเล่นที่ยุโรปในลีกสูงสุดของประเทศสวีเดนกับ คัลมาร์ เอฟเอฟ และอีกหลายสโมสรทั้ง แอตวิดาเบิร์ก , ยอนโคปิ้งส์ โซดร้า , เยอร์การ์เดนส์ ไอเอฟ รวมไปถึงสโมสร ซองน์ดาล ทีมในลีกของประเทศนอร์เวย์

นอกจากนั้นแล้ว ”ริคาโด้ ซานโต๊ส” ก็ยังเคยผ่านเวทีลูกหนังในระดับเอเชียมาแล้วกับสโมสร ปักกิ่ง เหรินเฮอ ทีมดังในศึกไชนิส ซุปเปอร์ลีกของจีน ต่อด้วย เซเรโซ่ โอซาก้า ยอดทีมจากเจลีก 1 ญี่ปุ่น ขณะที่ซีซั่นที่ผ่านมาเจ้าตัวลงไปเล่นในลีกรองของญี่ปุ่นกับสโมสรฟาเจียโน่ โอกายาม่า

ด้าน “เฮียรุท” ผู้จัดการทีม ได้ออกมากล่าวว่า “การมาของริกกี้ ถือเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญสุดท้ายก็ว่าได้ เพราะตลอดเวลาเดือนเศษที่ผ่านมา เราพยายามหาหน้าเป้าที่เหมาะกับระบบทีมของโค้ชเดนนิส แต่ข้อจำกัดของเราคือต้องอยู่ในงบประมาณ จึงทำให้ต้องเสียเวลนานมากกว่าเราจะได้ศูนย์หนาที่เราคิดว่าเหมาะกับทีม ริกกี้ เป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์สูงมาก เขาเคยเล่นกับเซเรโซ่ โอซาก้า ยอดทีมเจลีกจากญี่ปุ่นที่คอลูกหนังรู้จักกันดี ดังนั้นการมาของเขาน่าจะแก้ปัญหาเกมรุกและการจบสกอร์ได้ไม่แพ้ฤดูกาลที่แล้ว ตอนนี้เราแค่ทำให้เขาสามารถปรับตัวได้เร็วกับสไตล์ฟุตบอลไทยลีก เรามั่นใจครับว่านับจากนี้เรจะได้ “ริกกี้” เป็นตำนานเบอร์ 11 ต่อจาก มุสตาฟา อาซัดซอย และ เฮนรี่ ดุมเบีย อย่างแน่นอนครับ”

สำหรับโควต้าต่างชาตินอกเอเซีย 3 ราย ของชัยนาท ฮอร์นบิล ในฤดูกาล 2019 ประกอบไปด้วย “ลีโอ” เลอันโดร เรซิด้า ปีกชาวฮอลแลนด์ ,กอร์ก้า อุนด้า กองกลางชาวสเปน และ “ริกกี้” ริคาโด้ ซานโต้ส ดาวยิงชาวบราซิล และ อีก 1 โควต้าเอเชีย ก็คือ “ชาลี” คาซูกิ มูราคามิ ปราการหลังชาวญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีโควต้าอาเซียนในทีมอีก 2 ราย ประกอบไปด้วย สุขอาพร วงศ์เจียงคำ สตาร์เบอร์1 ทีมชาติลาว และ มาร์โก้ คัสซัมเบร ดาวรุ่งกองหลังทีมชาติฟิลิปินส์ ดังนั้นถึงตอนนี้นกใหญ่พิฆาตจึงมีต่างชาติเข้ามาถึง 6 รายแล้ว ทั้งนี่หากดูจากโควต้าต่างชาติ 3+1+3 ตามกฎไทยลีก 1 ปีนี้ สโมสรยังเหลือโควต้าอาเซียนอีก 1 ราย