จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม ลิเวอร์พูล สรุปภาพรวมก่อนเดินทางมาถึงนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก 2019 ว่าหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญต้องยกให้รอบรองฯ ซึ่งพบ บาร์เซโลน่า เพราะดราม่าสุดๆ แล้วจะจดจำไปชั่วชีวิต
'หงส์แดง' มีคิวโรมรันกับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ( 1 มิ.ย.) สุดสัปดาห์นี้ นับเป็นการผ่านเข้าลุ้นเจ้ายุโรปต่อเนื่องอีกปีในยุคที่ เฮนเดอร์สัน สวมปลอกแขน
โดยล่าสุดเจ้าตัวให้สัมภาษณ์กับ 'เดลี่ เมล' แท็บลอยด์เมืองผู้ดีว่ารอบตัดเชือกที่ผ่านมาซึ่งแพ้ บาร์ซ่า ในเลกแรก 0-3 จากนั้นกลับมาเอาชนะที่แอนฟิลด์ 4-0 รวมผลสองนัดเข้าชิงฯ ด้วยสกอร์รวม 4-3 คือโมเมนต์ที่ถูกบันทึกฐานความประทับใจที่สุดฐานะนักเตะ
"ผจก.ทีม กล่าวในเช้าวันแข่ง แล้วคำพูดนั้นมันเปลี่ยนทุกอย่าง มีการคุยขั้นสุดท้าย ณ โรงแรม 'โฮ้ป สตรีท' ฐานที่มั่นซึ่งใช้เก็บตัวเสมอเมื่อแข่งเกมเหย้า โดยลูกพี่พูดว่า - สิ่งที่เราจะทำคืนนี้หลายคนอาจบอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เพราะกูรู้ว่าคนที่ลงแข่งคือพวกมึง ...ดังนั้นจึงเรียกมันว่าเรายังมีโอกาส -" เฮนเดอร์สัน พูดถึงคำปลุกใจของ คล็อปป์
https://twitter.com/MailSport/status/1133402806319292416
เฮนโด้ เขียนบล็อก
"เขาทำให้เรามีเป้าหมายชัดเจน แล้วตลอดวันในหัวผมก็เอาแต่คิดว่า : สนามแอนฟิลด์, แฟนบอล และประตูขึ้นนำเร็ว ..บางทีอาจทำได้"
"แล้วก็ตามคาด เราทำงานได้สมบูรณ์แบบ เอาจริงๆผมสมควรทำสกอร์เบิกร่องแล้วแต่โดนเซฟ ต้องขอบคุณ โอริกิ้ ที่ตามซ้ำดาบสองเข้าไป เชื่อไหมตอนนั้นเสียงเฮดังไม่ได้ยินอะไรเลย"
"อนึ่งเกมแบบนั้นเราไม่ยอมพลาดมีส่วนร่วมแน่ แม้จะเจ็บเข่าเล็กน้อยเพราะโดนแท็คเกิ้ล แต่ผมสามารถบริหารจัดการมันได้ระหว่างพักครึ่ง คิดว่าโอเคแข่งไหว"
"เลยเลือกฉีดยาแก้ปวด แล้วโดดขึ้นปั่นจักรยานให้ยาออกฤทธิ์สัก 10 นาที เข่าที่เจ็บก็ชา ไม่รู้สึกอีก"
เฮนเดอร์สันสะใจ
"ส่วนสิ่งที่เกิดหลังจากนั้นจะตราตรึงผมไปตลอดกาล มันคือประสบการณ์ที่แตกต่างจากพบ โรม่า ปีก่อน เพราะหนนี้เราทะลุเข้าชิงฯด้วยฝีเท้าตัวเอง ไม่ใช่ยันสกอร์"
"จำได้เมื่อ 12 เดือนก่อนผมฉลองด้วยการดื่มน้ำอัดลมแฟนต้า แต่หนนี้เลือกดื่มน้ำเปล่า พยายามกลับบ้านไปนอน แต่มันทำไม่ได้จริงๆ"
เฮนเดอร์สัน อาจมีเรื่องมาบอกเล่าใหม่หลังเกมที่ ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ โดนเอเชี่ยนแฮนดิแคป ล่าสุดให้ ลิเวอร์พูล ต่อครึ่งลูก-10, สกอร์รวมสูง-ต่ำ สองลูกครึ่ง-10
