2ส.สื่อกีฬาฯยื่นหนังสือจี้เพจFAIRเผยตัวหนอนบ่อนไส้
"2 สมาคมสื่อกีฬา" ยื่นหนังสือถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ขอให้ชี้แจงกรณีแถลงการณ์ในเพจ Fair ที่ระบุว่ามีสื่อมวลชนไทยสายกีฬาเป็น "ไส้ศึก" ล้วงความลับทีมชาติไทย ก่อนการแข่งขันกับ ทีมชาติเวียดนาม ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง โดยขอให้ "พล.ต.อ.ดร.สมยศ" เปิดเผยรายละเอียดว่าบุคคลดังกล่าวนั้นเป็นใคร และเป็นสื่อมวลชนไทยสายกีฬาจริงหรือไม่ รวมทั้งต้องออกแถลงการณ์สาธารณะ ให้ประชาชนทั่วไปรับทราบข้อเท็จจริง ในทุกช่องทางการสื่อสาร
นายเอกพงศ์ โพธิ์อ่อง เลขาธิการสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย และ นายภานพ ใจเกื้อ เลขาธิการสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมกันเปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ออกแถลงการณ์ ทางเฟซบุ๊ก แฟนเพจ : Fair เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 ใจความโดยสรุปว่า มีคนไทยเป็น “หนอนบ่อนไส้” หรือ “ไส้ศึก” หรือ “คนขายชาติ” หลังจากเกิดเหตุผู้สื่อข่าวชาวเวียดนาม ไปเช่าห้องพักเพื่อแอบบันทึกภาพการฝึกซ้อมของทีมฟุตบอลชาติไทย ซึ่งกำลังจะแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม G กับ ทีมชาติเวียดนาม ในวันที่ 5 กันยายน 2562 ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พร้อมระบุด้วยว่า มีคนไทยให้การช่วยเหลือผู้สื่อข่าวเวียดนาม ในการติดต่อเช่าห้องพัก โดยสงสัยว่าบุคคลดังกล่าวนั้น เป็นผู้สื่อข่าวกีฬา สายฟุตบอล จากสำนักข่าวใด สำนักข่าวหนึ่ง (ตามเอกสารแนบท้ายที่คัดลอกมาจากเพจ Fair)
ในการนี้ สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย และ สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็น 2 องค์กรหลักของสื่อมวลชนสายกีฬา มีความห่วงใย และไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงขอให้ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยข้อมูล เพื่อให้สังคมได้รับรู้เป็นที่กระจ่างชัด ดังนี้
1. ขอให้ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยรายละเอียดว่า บุคคลที่ติดต่อประสานงานเช่าห้องพักให้แก่ผู้สื่อข่าวชาวเวียดนาม เป็นใคร มาจากไหน และเป็นสื่อมวลชนชาวไทยจริง ตามที่เพจ Fair ซึ่งเป็นเพจอย่างเป็นทางการของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวหาหรือไม่
2. พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ต้องออกแถลงการณ์สาธารณะ ให้ประชาชนทั่วไปรับทราบข้อเท็จจริง ในทุกช่องทางการสื่อสาร โดยเฉพาะเพจ Fair ที่ลงข้อความ หรือแถลงการณ์ ที่สร้างความเข้าใจผิดให้แก่สังคม และประชาชนทั่วไป
เนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น เป็นการกล่าวเหมารวม โดยไม่ได้ระบุให้ชัดเจนว่า บุคคลที่ประสานงานให้กับผู้สื่อข่าวชาวเวียดนามนั้น เป็นใคร สังกัดสื่อสำนักใด ที่สำคัญ หากบุคคลดังกล่าว ไม่ใช่สื่อมวลชนสายกีฬา ก็ส่งผลกระทบทำให้เกิดเสื่อมเสียชื่อเสียง และทำลายความน่าเชื่อถือ ของสื่อมวลชนสายกีฬาเป็นอย่างมาก
สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย และ สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย มีความเป็นห่วงภาพลักษณ์ของสื่อมวลชนกีฬา ในสายตาประชาชน จึงได้ทำจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ขึ้นมา เพื่อขอให้ท่านได้โปรดพิจารณาดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริงต่อประชาชน อันจะนำมาซึ่งความเชื่อมั่นต่อองค์กรและวิชาชีพสื่อมวลชน ที่ทำหน้าที่ในการถ่ายทอดความรู้ข่าวสารให้แก่ประชาชนทั่วไป