ทีมชาติอังกฤษ แซงนำจ่าฝูงของกลุ่ม ในศึกเนชั่นส์ ลีก หลังเอาชนะทีมชาติเบลเยียมไปได้ 2-1
ฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
ลีก เอ กลุ่ม 2
อังกฤษ 2 - เบลเยียม 1
สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
อังกฤษ กลับมาใช้งานผู้เล่นชุดใหญ่อีกครั้งแต่ แฮร์รี่ เคน กองหน้ากัปตันทีมเป็นเพียงสำรองเพราะเจ็บเล็กน้อยตอนซ้อม แนวรุกจึงนำโดย มาร์คัส แรชฟอร์ด ส่วน เบลเยียมมี เควิน เดอ บรอยน์ กับ โรเมลู ลูกากู เป็นแกนหลัก ขณะที่ เอแด็น อาซาร์ บาดเจ็บไม่ติดทีม
เริ่มเกมมาได้ 10 นาที เบลเยียมส่งบอลตุงตาข่ายอังกฤษได้จากการยิงในเขตโทษของ การ์ราสโก้ ที่รับบอลจากการเปิดฝั่งขวาของ โธมัส เมอนิเยร์ แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้า ผู้ตัดสินจึงไม่ให้เป็นประตู
ทว่าอีก 6 นาทีถัดมา เบลเยียม ได้จุดโทษในจังหวะลุยเข้าถึงเขตโทษของ โรเมลู ลูกากู ก่อนโดน เอริค ดายเออร์ เสียบล้ม ลูกากู รับหน้าที่สังหารเองไม่พลาด เบลเยียม นำ 1-0
เกมรุกของอังกฤษแทบทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่แล้วนาที 39 กลับมาได้จุดโทษในจังหวะที่ โธมัส เมอนิเย่ร์ ไปเหนี่ยว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ล้มในเขตโทษ มาร์คัส แรชฟอร์ด รับหน้าที่ยิงเสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาด เปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1
นาที 43 ทีมเยือนหวิดออกนำอีกครั้ง โรเมลู ลูกากู ชงบอลไปให้ ยานนิก การ์ราสโก้ วิ่งมายิงหักข้อหลุดเสาไกลออกไปแบบน่าผิดหวัง จบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1
ครึ่งหลัง อังกฤษ แก้เกมดีครองเกมบุกมากขึ้น มาร์คัส แรชฟอร์ด ไหลให้ โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน โยกซัดหน้าเขตโทษบอลโด่งข้ามคาน
นาที 64 อังกฤษ แซงนำ 2-1 เมื่อ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลโค้งลึกไปเสาไกลถึง คีแรน ทริปเปียร์ โหม่งชงคืนให้ เมสัน เมาท์ จับแล้วยิงไปแฉลบ โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ ก่อนบอลย้อยข้ามหัว ซิมง มิโญเลต์ เสียบสามเหลี่ยมเสาไกล
เบลเยียม เกือบตีเสมอได้ในนาที 72 เมื่อ เดอ บรอยน์ ดีดบอลสุดเหนือชั้นเข้าเขตโทษให้ ยานนิก การ์ราสโก้ สอดไปยิงสวนตัว พิคฟอร์ด ได้แล้ว แต่บอลหลุดถากเสาไกลออกหลังไปอีก
ช่วงเวลาที่เหลือ เบลเยียม พยายามตามตีเสมอให้ได้แต่ไม่สำเร็จ ทำให้จบเกม อังกฤษ เปิดบ้านชนะ เบลเยียม 2-1
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อังกฤษ : จอร์แดน พิคฟอร์ด, ไคล์ วอล์คเกอร์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, เอริค ดายเออร์, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ดีแคลน ไรซ์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, คีแรน ทริปเปียร์, เมสัน เมาท์, โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน, มาร์คัส แรชฟอร์ด
เบลเยียม : ซิมง มิโญเลต์, โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, เดดริค โบยาต้า, เจสัน เดนาเยอร์, โธมัส เมอนิเย่ร์, ยูริ ตีเลอมันส์, อักเซล วิตเซล, ติโมธี คาสตานเญ่, เควิน เดอ บรอยน์, โรเมลู ลูกากู, ยานนิก การ์ราสโก้
ผู้ตัดสิน : โทเบียส สตีเลอร์ (เยอรมัน)
