นั่งคุยกับผู้ปกครองเบอร์โรว์คนล่าแชมป์ซูเปอร์โบวล์

เบงกอลส์ ได้ชิงวินซ์ ลอมมบาร์ดี โทรฟี่ อีกครั้งในรอบเกิน 3 ทศวรรษ สร้างความคึกคักไปหลายย่อมหญ้าแห่งรัฐโอไฮโอ แล้วเครดิตส่วนหนึ่งมอบให้ความนิ่งของ เบอร์โรว์ 

แล้วยิ่งเจ้าตัวเป็นคนท้องถิ่นเติบโตที่เมืองเล็กๆที่ชื่อเอเธนส์ ก็ทำให้ชาวบ้านร้านตลาดเชียร์หนุ่มหน้าหยกวัยเบญจเพสเป็นแถวๆ 

ก่อนเกมนัดสำคัญกับ แอลเอ แรมส์ ยังโซไฟ สเตเดี้ยม เลยไปทำความรู้จัก โจ ให้มากขึ้นผ่านการบอกเล่าของ จิมมี่ เบอร์โรว์ ผู้เป็นบิดา มีอดีตเคยทำงานร่วมโค้ชเกมรับให้ทีมอเมริกันฟุตบอล โอไฮโอ ยูนิเวอร์ซิตี้ จนถึงวัยรีไทร์เมื่อมี 2018 

และมารดา โรบิน ที่ทำงานเป็นครูใหญ่ให้โรงเรียนประถมท้องถิ่น 

ล้วงลึกว่าเลี้ยงลูกแบบไหนถึงประสบความสำเร็จบนเส้นทางนักกีฬาตั้งแต่คอลเลจ 

ตอนยังเล็กโจเป็นเด็กแบบไหน?  

โรบิน เบอร์โรว์: ก็แทบจะเหมือนกับที่เป็นอย่างทุกวันนี้ มุ่งมั่นกับการเล่นกีฬามาก, จะผลักดันตัวเองทำมันออกมาให้ดีสุดไม่ว่าสิ่งไหน ตั้งแต่เล่นวิดีโอเกม, ไปโรงเรียนหรือในการแข่งขันชนิดกีฬาต่างๆ  

ผู้คนยกย่องเขาว่าคือคนที่เท่สุด- นั่นคือคุณสมบัติใหม่หรือเปล่า? 

จิมมี่ เบอร์โรว์: ผมคิดว่าเพราะหมอนั่นมั่นใจในตัวเองและเชื่อมือในความสามารถฐานะนักกีฬาฟุตบอล รวมถึงกีฬาอื่นๆด้วย เขามั่นใจเสมอ

โรบิน เบอร์โรว์: เขามักมีสมาธิเพื่อให้แน่ใจว่าเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องที่จะทำอย่างดีสุดแล้ว ไม่ว่าด้านกีฬา, ด้านวิชาการหรือด้านอื่นๆของชีวิต - ดิฉันคิดว่าด้วยนิสัยพื้นฐานพวกนั้นทำให้ลูกเป็นคนมั่นใจ

กังวลต่อความปลอดภัยของการเล่นอเมริกันฟุตบอลมากแค่ไหน? เคยคิดว่าจะไม่ปล่อยเขาเดินทางนี้ไหม? 

จิมมี่ เบอร์โรว์: ผมคิดว่า โรบิน เคยเอ่ยถึงมันบ้างตอนลูกเจ็บเข่าครั้งสำคัญเมื่อปีก่อน บางครั้งเรื่องนั้นก็กวนใจมากทีเดียว แต่เพราะผมก็โค้ชฟุตบอลอยู่หลายปี จึงเข้าใจว่าอาการบาดเจ็บคือส่วนหนึ่งของชนิดกีฬานี้ 

โรบิน เบอร์โรว์: บ้านเราค่อนข้างย้ำเตือนให้ตระหนักรู้และสอนให้รอบคอบ ว่าหมวกกันน็อคใส่แล้วพอดีอยู่ตลอด เรามีหมวกกันน็อคขนาดพอดีศีรษะเขา และเกราะเสริมไหล่ที่ใช้อุปกรณ์เสริมพิเศษเพื่อให้แน่ใจว่าใช้อุปกรณ์คุณภาพ พอดีตัว  

จิมมี่ เบอร์โรว์: โค้ชทุกคนที่ลูกผมเจอตั้งแต่อยู่เกรด 3 ให้ความใส่ใจกับความปลอดภัยเป็นสำคัญ แล้วจากนั้นก็ป้องกันอีกชั้นเพราะได้ไปรู้จึกเจ้าหน้าที่ดูแลอุปกรณ์ของมหาวิทยาลัย โอไฮโอ ซึ่งช่วยตรวจสอบหมวกกันน็อคเขาอีกที 

โรบิน เบอร์โรว์: ช่วงที่ยังละอ่อน ฉันยังแอบเสริมเกราะพิเศษ, เสริมกันกระแทกสะโพก เพราะสรีระเมื่อก่อนยังเล็กมาก 

คำแนะนำของคุณต่อโจก่อนทำศึกซูเปอร์ โบวล์ คืออะไร? 

จิมมี่ เบอร์โรว์: มันก็เป็นเรื่องเดิมที่โค้ชพร่ำสอนกันมา แต่ก็มักเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลแพ้-หรือ-ชนะ นั่นคือปกป้องลูกบอลไว้, เอาให้แน่ใจว่าไม่เสียเทิร์นโอเวอร์ และตัดสินใจให้ดีๆ นั่นคือสิ่งที่บอกแก่ลูกเป็นการส่วนตัว

คุณมักพยายามเดินเครื่องเอาบอลไปเล่นเกมบุก แต่ก็มีสิ่งที่เราสามารถทำได้ดีกว่านั้น นั่นคือพยายามปกป้องจอมทัพจากผู้เล่นเกมรับคู่แข่งที่กดดันเกมขว้างเก่งสุด 

ด้านยูนิตเกมป้องกัน คุณต้องหยุดเกมวิ่งคู่แข่งให้ได้ หากคุณสามารถขัดขวางผู้เล่นเจ๋งๆของคู่แข่งมันก็มีโอกาส ซึ่งคงไม่ง่ายเมื่อเผชิญหน้า แรมส์ แต่ถ้าทำได้คุณจะมีสถานะไปลุ้นเป็นผู้ชนะในควอเตอร์#4  

โรบิน เบอร์โรว์: คำแนะนำของฉันก็คงมาจากมุมคนเป็นแม่ สนุกไปกับเกม ปล่อยของ, ร่วมสนุกกับทีมเมต...มีสมาธิตามแผนที่วางมา และเล่นอย่างมั่นใจ 

ชาวซินซิเนติรับโจไว้ในอ้อมอกอ้อมใจแล้วว่าแต่เขาเคยมีเรื่องราวหรือความเชื่อมโยงในอดีตใดกับเมืองบ้าง? 

จิมมี่ เบอร์โรว์: ผมคิดว่าคนที่ซินซิเนติขยันทำงานหนัก พวกเขาเข้าใจว่าทำสิ่งใดถึงจะประสบความสำเร็จ นั่นคือสละเวลาลงมือลงแรง - แล้ว โจ ก็เป็นคนแบบนั้น 

ลูกผมขยันซ้อม ทุกคนซูฮกเรื่องดังกล่าว เขาสละเวลาเพื่อเตรียมตัวและฝึกฝนอยู่ตลอด 

โรบิน เบอร์โรว์: ฉันคิดว่าการเดินทางของ โจ ละม้ายกับของทีม เบงกอลส์ - ประสบความสำเร็จเมื่อนานแล้ว เหมือนลูกเราตอนมัธยมปลาย

แล้วก็ติดหล่มอยู่หลายปีตอนเข้าเรียนที่โอไฮโอ สเตท แล้วมาบัดนี้ก็มาถึงจุดที่หวังกันไว้ในเวลาไม่กี่ปีนับจากเข้าลีก...ทั้งที่ประเมินว่าต้องเก็บประสบการณ์เสียก่อนหลายปีจึงลุ้นประสบความสำเร็จ”

“เหมือนที่ โจ เป็นแชมป์ประเทศกับ แอลเอสยู ต่อเนื่องถึง เบงกอลส์ ดิฉันสามารถเห็นว่าเมืองนี้จะน้อมรับเขาไปเป็นพวกเดียวกันเพราะสามารถอ้างถึงอตชีวประวัติเขาได้” 

จิมมี่ เบอร์โรว์: เจ้านั่นรักเมืองซินซิเนติ และรักในการได้เล่นให้ เบงกอลส์ คนท้องถิ่นสัมผัสได้ถึงความผูกพันทางอารณ์แะบุคลิกภาพที่ โจ แสดงออกมา 

ซึ่งความจริง ลูกผมเคยพูดไว้อย่างซาบซึ้งว่าเป็นเกียรติฐานะส่วนร่วมขององค์กรนี้ 

บ่อนรับพนันยกใหเแรมส์เป็นต่อสำหรับแชมป์ซูเปอร์ โบวล์ คุณรู้สึกอย่างไร? 

จิมมี่ เบอร์โรว์:  เดอะ แรมส์ ได้เล่นที่เมืองของตัวเอง, ในสนามเเหย้าตัวเอง ซึ่ง โจ ลูกผมมันเป็นประเภทมีปมด้อย ประวัติร่องบ่อนเสมอมา 

เชื่อว่า 2 เกมรอบที่ผ่านมาก็เป็นทีมรอง 

ก็ในเมื่อต้องเป็นทีมรองอีกครั้ง ดังนั้นเชื่อว่าเขาจะเอาสภาพจิตใจเช่นนั้นมาเตรียมตัว เพื่อพิสูจน์ให้คนวงการเห็นว่าคิดผิดไปแล้ว