ชวนดูเอ็นบีเอ ออล-สตาร์

ศุกร์ 16 ก.พ. : ความสำคัญคือไรซิ่ง สตาร์ 

อีเวนต์มีตั้งแต่ 19:00 น. เวลาท้องถิ่น หรือเช้าวันเสาร์ตอน 7 โมง ก็จะเริ่มจาก เซเรบลิตี้ เกม ที่เอาคนดังของวงการต่างๆมาลงคอร์ท ปีนี้แว่วว่ามี จัสติน บีเบอร์ ป๊อปสตาร์ขวัญใจสาวๆมาร่วมแข่งด้วย

ไฮไลท์เกมวันแรกอยู่ที่ 'ไรซิ่ง สตาร์ส' ซึ่งจะเอาผู้เล่นรุคกี้ กับผู้เล่นประสบการณ์ปีที่สอง สัญชาติอเมริกัน มารวมทีมแข่งชน รุคกี้ กับ ผู้เล่นประสบการณ์ปีที่สอง สัญชาติอื่นที่เหลือทั้งหมด ในเวลา 21:00 น. (9 โมงเช้าวันเสาร์เมืองไทย) 

รายชื่อ ไรซิ่ง สตาร์ส เกม 2018 

ดาวเด่นทีมสหรัฐฯปีนี้คือสามรุคกี้อย่าง โดนาวาน มิทเชลล์ (ยูท่าห์ แจซ), เดนนิส สมิธ จูเนียร์ (ดัลลัส แมฟเวอริคส์ ) หรือ เจย์สัน เททั่ม (บอสตัน เซลติคส์)

ขณะที่ทีมรวมดาราโลกนำโดยสองผู้เล่น ฟิลาเดลเฟีย 76เซอร์ส เบน ซิมม่อนส์ ที่เป็นออสซี่กับ โฌแอล เอ็มบีด คนแคเมอรูน นอกจากนั้นยังมี จามาล เมอร์รี่ย์ (เดนเวอร์ นักเก็ตส์) ชาวแคนาเดี้ยน และ โลรี่ มาร์คคาเน่น (ชิคาโก บูลล์ส) นักกีฬาฟินแลนด์

มิทเชลล์ ดาวเด่น สหรัฐฯ

มาร์คคาเน่น (ซ้าย) จากทีมเวิลด์ ท้าชน สมิธ จูเนียร์ (ขวา) ทีมมะกัน

ซึ่งตามปกติเกม 'ไรซิ่ง สตาร์ส' จะเล่นกันจริงจังกว่า ออล-สตาร์ใหญ่ รวมถึงมีลูกไม้สวยๆหรือท่าดังค์โหดๆมาอัดใส่กันให้ร้องซี๊ด 

น่าเสียดายลีก เอ็นบีเอ ไม่ใส่ชื่อ แบม อเบาโย่ เด็กรุคกี้ของ ไมอามี ฮีต มาเล่นทีมสหรัฐฯด้วย เพราะหมอนี่เป็นตัวเด็ดของทีมฐานะหัวหอกชุดสองหรือกรณีตัวจริง ฮัสซัน ไวท์ไซด์ บาดเจ็บ 

เชื่อว่าถ้าผู้เล่นวัย 20 กะรัต ได้มา แป้นอาจพังเพราะหมอนี่ชอบดังค์หนักๆและโหดๆ 

เสาร์ 17 ก.พ. : ประลองทักษะดูเอาเพลิน 

ถือเป็นธรรมเนียมของคืนเชิดชูเกียรติ เริ่มการแข่งขันอีเวนต์แรก 20:00 น. (8 โมงเช้าวันอาทิตย์เมืองไทย) 

เริ่มจาก การแข่งทักษะตามสถานี แบบประกบคู่ฟร้อนท์คอร์ท -แข่ง- ฟร้อนท์คอร์ท, แบ็คคอร์ท - แข่ง -แบ็คคอร์ท 

ก๊วนตัวใหญ่มีอย่าง โฌแอล เอ็มบีด (ฟิลาเดลเฟีย 76เซอร์ส), อัล ฮอร์เฟิร์ด (บอสตัน เซลติคส์), อันเดร ดรัมมอนด์ (ดีทรอย พิสตันส์) และ  โลรี่ มาร์คคาเน่น (ชิคาโก บูลล์ส)  

ขณะที่พวกตัวเล็กประกอบ จามาล เมอร์รี่ย์ (เดนเวอร์ นักเก็ตส์), ลู วิลเลี่ยมส์ (แอลเอ.คลิปเปอร์ส), สเปนเซอร์ ดินวิ้ดดี้ (บรู้กลิน เน็ตส์) และ บัดดี้ เฮลด์ (ซาคราเมนโต คิงส์) 

ทั้งนี้แชมป์เก่า คริสแตปส์ พอร์ซินกิส (นิวยอร์ก นิคส์) บาดเจ็บจนต้องถอนตัว

ประคบคู่ออกมาแล้วใครเจอใครในรอบแรก

อีเวนต์ที่สอง ยิงระยะ 3-คะแนน น่าจะสูสียากคาดเดาสุดเพราะมือพระกาฬทั้งนั้น ประกอบด้วย เอริค กอร์ดอน (ฮิวสตัน ร็อคเก็ตส์) ฐานะแชมป์เก่า 

เคลย์ ธอมป์สัน (โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส) นี่ก็ดีกรีแชมป์มาก่อน ขณะที่มือปืนคนอื่นๆก็ฟอร์มกำลังแม่นทั้งสามดีกรี ออล-สตาร์ แบร้ดลี่ย์ บีล (วอชิงตัน วิเซิร์ดส์), พอล จอร์จ (โอกลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์) กับ คายล์ ลาวรี่ (โตรอนโต แรปเตอร์ส) 

เดวิน บูเกอร์ (ฟีนิกซ์ ซันส์), เวย์น เอลลิงตัน (ไมอามี ฮีต) และ โทไบแอส แฮร์ริส (แอลเอ.คลิปเปอร์ส)   

โดยทั้งแปดคนจะประกบคู่แข่งขันแบบแพ้คัดออกกระทั่งได้ผู้ชนะ 

มือปืนทั้งแปดคนใครจับเป้าแม่นสุด?

ไฮไลท์แห่งค่ำคืนคือ สแลม ดังค์ ที่คัดเอาตัวห้าวๆบ้าโชว์อย่าง วิคเตอร์ โอลาดิโป้ (อินเดียนา เพเซอร์ส),  เดนนิส สมิธ จูเนียร์ (ดัลลัส แมฟเวอริคส์), โดนาวาน มิทเชลล์ (ยูท่าห์ แจซ) และ แลร์รี่ แนนซ์ จูเนียร์ (คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส) 

ทั้งนี้เดิมที แอรอน กอร์ดอน (ออร์แลโด แมจิค) ซึ่งเคยสร้างความฮือฮาเมื่อสองปีก่อนตอบรับลงแข่งขัน ทว่าดันมบาดเจ็บสะโพก สิทธิ์จึงหล่นมาถึง มิทเชลล์ ที่ดังค์สวย และโหดไม่ต่างกัน 

หรือใครชอบเรื่องราวดราม่าก็จิ้มไปที่ แนนซ์ จูเนียร์ เพราะเป็นการกลับมาเยือน สเตเปิ้ลส์ เซนเตอร์ หลังโดนเทรดไปให้ คลีฟแลนด์ ได้แค่สัปดาห์เดียว 

ทั้งเป็นการแบกศักดิ์ศรีของ แลร์รี่ แนนซ์ ซีเนียร์ คุณพ่อของผู้เล่นวัย 25 กะรัต ซึ่งเคยเป็นแชมป์ สแลม ดังค์ เมื่อปี 1984 

โดยหนนั้นเอาชนะ 'ด็อคเตอร์.เจ' จูเลียส อีร์วิ่ง ซึ่งจะมาทำหน้าที่กรรมการชูป้ายให้คะแนนวันนี้ด้วย

อาร์ทเวิร์กสุดเก๋ของการแข่ง สแลม ดังค์ 2018 

อาทิตย์ 18 ก.พ. : ออล-สตาร์ รูปแบบใหม่ 

จากจารีตเดิมที่ ออล-สตาร์ เกม จะเอาผู้เล่นฝั่งตะวันออก - ฝั่งตะวันตก มาประลองกัน ทว่า 2-3 ปีหลัเกมขาดลอยเกินไปเนื่องจากความเหนือชั้นอย่างชัดเจนของนักยัดห่วงเวสเทิร์น คอนเฟอเรนซ์ 

นำมาซึ่งรูปแบบที่เรียกว่า 'กัปตัน ดราฟท์'

โดยก่อนนี้แรมเดือน ลีก เอ็นบีเอ ก็เปิดให้โหวตผู้เล่นซึ่งมีคะแนนมากสุด 10 คน รับสิทธิ์ออกสตาร์ตัวจริงในแมตช์ที่ สเตเปิ้ลส์ เซนเตอร์ แน่นอน ถือเป็นขุมกำลัง 'ล็อตแรก'

ส่วน 'ล็อตสอง' อีก 14 คน ซึ่งจะเป็นสำรองถูกคัดเลือกจากการผู้ฝึกสอนในลีกร่วมกันเสนอชื่อเข้ามา 

ออล-สตาร์ เกม 2018 ระบบ กัปตันดราฟท์

เมื่อรวมทั้งสองล็อตจะได้ 24 คน แบ่งให้ฝ่ายละ 12 รายพอดี 

ซึ่งผู้จะมีสิทธิ์เลือกสมาชิกเข้าทีมก็คือนักบาสฯตัวจริ  ซึ่งมีโหวตสูงสุดแต่ละฝั่ง ได้รับสิทธิ์เป็น กัปตันทีม

ผลออกมาคือ เลอบรอน เจมส์ ท็อปโหวตฝั่งตะวันออก และ สตีเฟ่น เคอร์รี่ โหวตสูงสุดฝั่งตะวันตก 

ในการเลือกจะสลับจิ้มเอาผู้เล่นเข้าทีม ทีละคน เริ่มจากตัวจริง จากนั้นก็สำรอง จนครบฝั่งละ 12 หน่อ สำหรับพิธี ทำเป็นแบบปิดซองเพื่อไม่ให้เสียหน้าเวลาต้องโดนเลือกเป็นคนท้าย  

รายนามสมาชิกแต่ละฝั่งประกอบด้วย 

ทีม เลอบรอน เจมส์

ทีมกัปตัน เลอบรอน เจมส์ (คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส) : เควิน ดูแรนท์ (โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส), แอนโธนี่ เดวิส (นิว ออลีนส์ เพลิแกนส์), คายรี่ เออร์วิ่ง (บอสตัน เซลติคส์), เดอมาร์คัส เคาซิ่นส์ (นิว ออลีนส์ เพลิแกนส์)

สำรอง : ลามาร์คัส อัลดริดจ์ (ซาน แอนโทนิโอ สเปอร์ส), แบร้ดลี่ย์ บีล (วอชิงตัน วิเซิร์ดส์), เควิน เลิฟ (คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส), รัสเซลล์ เวสต์บรู้ก (โอกลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์), วิคเตอร์ โอลาดิโป้ (อินเดียนา เพเซอร์ส), พอล จอร์จ (โอกลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์), อันเดร ดรัมมอนด์ (ดีทรอยท์ พิสตันส์)

คริสแตปส์ พอร์ซินกิส (นิวยอร์ก นิคส์), จอห์น วอลล์ (วอชิงตัน วิเซิร์ดส์), โกรัน ดรากิช (ไมอามี ฮีต) และ เคมบ้า วอลเกอร์ (ชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์) 

ทั้งนี้ทีมของ เจมส์ โชคร้ายมีผู้เล่นบาดเจ็บหนักถึง 4 ราย ได้แก่ เคาซิ่นส์, วอลล์, พอร์ซินกิส และ เลิฟ ซึ่งก็เรียกตัวแทนมาหมดแล้ว 

สี่ผู้เล่นดวงแตกทีม เจมส์ บาดเจ็บก่อนแข่งต้องถอนตัวทั้งหมด

ทีมกัปตัน สตีเฟ่น เคอร์รี่ (โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส) : เจมส์ ฮาร์เด้น (ฮิวสตัน ร็อคเก็ตส์), เดอมาร์ เดอโรซาน (โตรอนโต แรปเตอร์ส), จานนิส อันเทโทคุมโป้ (มิลวอลกี้ บัคส์), โฌแอล เอ็มบีด (ฟิลาเดลเฟีย 76เซอร์ส)

สำรอง : ดาเมี่ยน ลิลเลิร์ด (ปอร์ทแลนด์ เทรล เบลเซอร์ส), จิมมี่ บัตเลอร์ (มินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์), เดรย์มอนด์ กรีน (โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส), คายล์ ลาวรี่ (โตรอนโต แรปเตอร์ส), เคลย์ ธอมป์สัน (โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส), คาร์ล-แอนโธนี่ ทาวน์ส (มินเนโซต้า ทิมเบอร์วูล์ฟส์) และ อัล ฮอร์เฟิร์ด (บอสตัน เซลติคส์)

ทีม เคอร์รี่ เน้นทักษะผสมความแม่น

การแข่งขันมีขึ้นเวลา 20:00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (8 โมงเช้าวันจันทร์เวลาไทย) โดยมีการเปิดเผยว่าทีมชนะจะได้โบนัส สร้างแรงจูงใจสูงถึงคนละ 1 แสนเหรียญ สหรัฐฯ มองแล้ววิ่งลืมตาย 

ออล-สตาร์ ที่แสนดุเดือดพร้อมกลับมาทวงแฟนานุแนยัดห่วงกลับมาชมเกมอีกครั้ง