บอลโลกที่ไร้มะกันในความเห็นคลินส์มันน์

อดีตแข้งเจ้าของฉายา 'ฉลามขาว'เปิดปากให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่โดนไล่ออกจากตำแหน่งเมื่อ พ.ย.2016 

ทั้งนี้คลินส์ซี่มองว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างมากที่ขุมมะกันไม่มีปัญญาผ่านเป็น 32 ชาติสุดท้ายที่ รัสเซีย เพราะจากรายชื่อผู้เล่นสมควรทะลุไปถึงรอบลึกๆ มากกว่ามาตกม้าตายในการคัดเลือกตัวแทน คอนคาเคฟ 

คลินส์มันน์ มองว่า สหรัฐฯชุดปัจจุบันดีถึงรอบตัดเชือก เวิลด์ คัพ 2018

"มองตามความจริง ผมเห็นผู้เล่นสหรัฐฯกลุ่มนี้เติบโตขึ้นมาเพื่อเข้าแข้งใน เวิลด์ คัพ 2018 พวกเขามีดีพอขนาดผ่านถึงรอบรองชนะเลิศ" อดีโค้ชวัย 55 กะรัตกล่าวกับ 'ยะฮู สปอร์ต' 

สำหรับสาเหตุที่ คลินส์มันน์ ตกเก้าอี้ก็เพราะผลงานในรอบคัดเลือกช่วงแรกพ่ายคารังให้กับ เม็กซิโก ต่อด้วยออกไปโดน คอสตาริกา อัดเละเละจนทำให้ฝ่ายบริหารกังวลว่าหากปล่อยไว้ทีมสุ่มเสี่ยงปิ๋วจึงชิงลงมือเชือด 

'พญาอินทรี' ตัดสินใจไปเชิญให้ บรูซ อารีน่า อดีตเทรนเนอร์กลับมานั่งตำแหน่งเดิม อาจจะสตาร์ตสวยเมื่อบุกไปขโมยแต้มจาก เอสตาดิโอ แอซเตกา ของ'จังโก้' ทว่ามาตกม้าตายด้วยการแพ้ ตรินิแดดฯ 1-2 ทั้งที่ขอแค่เจ๊าก็พอ จึงร่วงแบบสุดช้ำ พร้อมการแยกทางกับ อารีน่า ซึ่งมาเสียคนตอนแก่ 

กุนซือวัย 55 ปี โดนเด้งเมื่อ พ.ย.2016

อนึ่ง คลินส์มันน์ มองว่า ขุนพลสหรัฐฯ ขี้หมูขี้หมาก็ควรเข้ารอบสุดท้าย ไม่ใช่พลาดโอกาสแบบน่าอายมีเพียง 12 แต้ม จากการลงเตะ 10 นัด เช่นนี้

“ก่อนหน้า เวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย 4 ปี มันไม่มีอะไรให้ต้องทำก่อนนั้น เพราะเมื่อถึงรอบคัดเลือกครั้งต่อไปก็จะเป็นบทใหม่แล้ว"

“ผมขออนุญาตย้อนไปถึงตัวเองสมัยเป็นนักเตะทีมชาติ เยอรมัน เราเกือบไม่ผ่านไปเล่นฟุตบอลโลก 1990 รอบสุดท้ายที่ อิตาลี...เงื่อนไขอย่างเดียวคือต้องชนะในเกมตัดตัดสิน รอบคัดเลือกกับ เวลส์"

"และผมยังจำได้ถึงทุกวันนี้ มาร์ก ฮิวจ์ส พลาดโอกาสที่ต้องตุงตาข่ายแบบ 100% ก่อนหมดเวลา 2 นาที เขาได้โหม่งแบบไร้ตัวประกบในกรอบหกหลาทว่าดันข้ามคาน ซึ่งหาก มาร์ก โขกเข้าไป ทีมชาติเยอรมัน ก็คงปิ๋วตั๋ว เวิลด์ คัพ และจากนั้นก็ไม่ถูกจารึกว่าคือแชมป์โลก"

แมตช์คลาสสิค เยอรมัน ชนะ เวลส์ 2-1 ได้ไปบอลโลก 1990

อนึ่งความล้มเหลวของ สหรัฐฯ ที่พลาดโอกาสโม่แข้งในซัมเมอร์นี้นับเป็นหนแรกในรอบ 32 ปี ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายัเป็นเพียง 1 จาก 8 ชาติ ซึ่งหากได้ผ่านถึงรอบสุดท้าย สามารถเข้ารอบน็อคเอาต์เป็นอย่างน้อยร่วมกับ อาร์เจนตินา, บราซิล, อังกฤษ, เยอรมัน, เม็กซิโก, ฮอลแลนด์ และ สเปน ตลอดเวิลด์ คัพ 4 หนหลัง  

ขุนแข้งมะกันในมือโค้ชดอยช์ยังเป็นผู้หยุดผลงานไร้พ่าย 35 นัด ในระดับนานาชาติของ สเปน ในทัวร์นาเมนต์ ฟีฟ่า คอนเฟเดเรชั่นส์ คัพ รอบรองชนะเลิศ แม้ท้ายสุดจะได้เพียงรองแชมป์เพราะถูก บราซิล เล่นงาน  

ตลอดเวลาฐานะเจ้านายใหญ่ทีมชาติ สหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2011 คลินส์ซี่ กุมบังเหียน 98 นัด สถิติชนะ 55, แพ้ 28 และเสมอสิบห้า นับเป็นผลงานดีสุดตลอดกาลอันดับสองต่อจาก บรูซ อารีน่า รายเดียว (ชนะ 83 นัด) 

คลินส์ซี่ (แถวนั่งที่ 3 จากซ้าย) ร่วมกิจกรรมกับอดีตแข้งอินเตอร์

อย่างไรก็ดีสถิติเมื่อต้องต่อกรกับทีมระดับท็อป 20 โลก ก็ค่อนข้างแย่แพ้ถึง 8 เกม (ชนะ 2, แพ้ 2) ประตูได้-เสีย ติดลบถึง 10 เม็ด 

สำหรับทัวร์นาเมนต์สุดท้ายในตำแหน่งของ 'ฉลามขาว' ก็คือ โกปา เซนเตนารีโอ 2016 ที่ สหรัฐฯ ได้รับหน้าเสื่อเจ้าภาพ สามารถผ่านถึงรอบรองชนะเลิศ แพ้แค่สองทีมคือ อาร์เจนตินา (0-4) และ โคลอมเบีย (0-1) ได้เพียงอันดับ 4  

"มันนับเป็นประโยชน์มากที่เราได้ร่วมแข่ง โกปา อเมริกา ตอนนั้น เพราะมันทำให้นักเตะได้เสริมความมั่นใจว่าสามารถชนะทีมแกร่งจากอเมริกาใต้ อย่าง ปารากวัย หรือ เอกวาดอร์  ส่วนตัวคิดว่าเรามีกลุ่มผู้เล่นซึ่งพร้อมสุดๆ น่าเสียดายพวกเขาไม่ได้เอาของดีไปอวดในซัมเมอร์ 2018“ 

เตะเกมพิเศษกับอดีต เชลซี เพื่อรำลึกถึง เรย์ วิลกิ้นส์

ปัจจุบันทีม ซอคเก้อร์ สหรัฐฯ ยังไม่มีเทรนเนอร์ซึ่งรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ต้องให้ เดฟ ซาราคั่น อดีตผู้ช่วยของ บรูซ อารีน่า มาขัดตาทัพ ระหว่างรอผู้เหมาะสมมากอบกู้ความสำเร็จชาติ 

ขณะที่ คลินส์มันน์ ก็ว่างงานแบบยาวๆ โดยคงอาศัยกับครอบครัวในประเทศสหรัฐฯ หวังว่าจะมีแฟรนไชส์ เมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ มาว่าจ้าง