ในช่วงเวลาที่ เวิลด์คัพ 2018 เดินทางถึงรอบรองชนะเลิศ ในช่วงเวลาที่ทุกสายตาจับจ้องไปที่การย้ายทีมระดับโลกของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ยูเวนตุส
เฟร์นานโด ตอร์เรส ในวัย 34 ปี ตัดสินใจเลือกทางเดินใหม่ของตัวเอง และภายหลังประกาศอำลา แอตเลติโก มาดริด ต้นสังกัดที่แจ้งเกิดขึ้นมาในฐานะดาวรุ่ง ก็ได้รับความสนใจจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น ทีมจากบุนเดสลีกา เยอรมนี, เมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา, เอลีก ออสเตรเลีย และ เจลีก ญี่ปุ่น
ตลอดช่วงเวลา 17 ปีนับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาจากทีมเยาวชนของ แอต.มาดริด กราฟชีวิตของ ตอร์เรส พุ่งขึ้นจนเกือบติดเพดาน หลังจากกระหน่ำ 91 ประตูจาก 244 นัด ก็ย้ายไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล ในปี 2007 สโมสรที่ถือเป็นจุดสูงสุดในชีวิต ระหว่างปี 2007-2011
แต่กราฟก็กลับดิ่งลงแบบหัวทิ่ม หลังความผิดพลาดในการย้ายไปร่วมทีม เชลซี ด้วยค่าตัวมหาศาล 50 ล้านปอนด์เมื่อปี 2011 ชนิดที่ ตอร์เรส ก็ยังไม่ทันตั้งตัว ซ้ำร้ายยังถูกปล่อยไปให้แฟนๆ มิลาน ได้ส่ายหน้าเมื่อเห็นประตูเดียวจาก 10 นัดที่ลงเล่น ก่อนที่ แอต.มาดริด จะอ้าแขนรับกลับบ้าน และผลงานก็อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ไม่ใช่ตัวหลักที่ฝากความหวังได้ในการทำประตู
นั่นเองที่ทำให้ ตอร์เรส ต้องการความท้าทายใหม่ๆ ในชีวิต และการค้าแข้งในยุโรปต่อไปก็เป็นทางเลือกที่ถูกตัดทิ้งไปเป็นอันดับแรก เพราะเคยผ่านทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวมาหมดแล้ว
ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเจลีก ประกาศการย้ายทีมของ ตอร์เรส กับ ซางัน โทสึ จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก แต่หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง เว็บไซต์เดิมก็ลบโพสต์ดังกล่าวออกไป พร้อมลงข้อความขอโทษจากความผิดพลาดในการรายงานข่าว
แต่ในที่สุด ความผิดพลาดในครั้งนั้น กลับกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา หลังจาก ตอร์เรส ตัดสินใจเลือก เจลีก ญี่ปุ่น เป็นจุดหมายปลายทางต่อไป และ ซางัน โทสึ ก็คือบ้านหลังใหม่ หลังเซ็นสัญญา 18 เดือน (พร้อมเงื่อนไขขยายต่ออีก 12 เดือน) กับทีมที่จมอยู่รองบ๊วยเวลานี้
ศูนย์หน้าทีมชาติสเปน ชุดแชมป์ยูโร 2008, แชมป์โลก 2010 และแชมป์ยูโร 2012 พูดถึงการย้ายทีมครั้งนี้ว่า "ผมได้รับข้อเสนอมากมายจากทั่วทุกทวีป นับตั้งแต่ที่ผมประกาศอำลาจาก แอตเลติโก มาดริด (ช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว) ผมตัดสินใจไม่เล่นในยุโรปต่อไปแล้ว เพราะผมไม่อาจปิดฉากได้ดีไปกว่าที่ผมมีกับทีมในตอนนี้แล้ว"
"ซางัน โทสึ คือหนึ่งในสโมสรแรกๆ ที่ให้ความสนใจในตัวผม พวกเขาทำให้ผมเชื่อมั่นถึงแผนการของทีม ผมคิดว่า ญี่ปุ่น และเจลีก คือประสบการณ์อันยอดเยี่ยม พวกเขามีความพยายามอย่างมาก และเชื่อมั่นว่าผมสามารถแก้สถานการณ์พาทีมกลับมาอยู่ในพื้นที่ที่ควรจะเป็น"
ด้าน มิโนรุ ทาเคฮาระ ประธานสโมสร ซางัน โทสึ ก็กล่าวแสดงความยินดีและต้อนรับกองหน้าคนใหม่ว่า "ถือเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เซ็นสัญญากับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ซางัน โทสึ เป็นทีมที่ทำงานหนัก ที่พยายามพัฒนาผลงานขึ้นตลอดเวลา เราคือสโมสรเล็กๆ แต่ต้องการเติบโตขึ้น และการเซ็นสัญญากับ ตอร์เรส ก็จะช่วยตอบโจทย์ในเรื่องนั้น"
ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของ เจลีก ฤดูกาล 2018 แฟนๆ จะได้ตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ อันเดรส อีเนียสต้า กองกลางทีมชาติสเปนรุ่นราวคราวเดียวกับ ตอร์เรส ก็เซ็นสัญญาย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาเปิดตัวกับ วิสเซล โกเบ ไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากชื่อชั้น ขุมกำลัง และผลงานของ ซางัน โทสึ ในฤดูกาลนี้แล้ว น่าหนักใจแทน ตอร์เรส ที่ไม่รู้ว่าจะโชว์ฟอร์มออกมาได้ดีหรือเปล่า แต่เหนือสิ่งอื่นใด เป้าหมายคือการพาทีมหนีตกชั้นให้ได้เป็นอันดับแรก ไม่งั้นงานกร่อยแน่ หากต้องลงไปเล่นในเจลีก 2 ซีซั่นหน้า
