"คุณคิดว่าใครจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก" นี่คือคำถามที่ผมเกลียดที่สุด แต่ก็ต้องเจอบ่อยที่สุด โดยเฉพาะในเดือนสิงหาคม ช่วงเริ่มต้นฤดูกาลแบบนี้
ถ้าจะให้ตอบแบบหล่อๆ คงต้องพูดแทงกั๊กว่า ในบรรดา 'บิ๊กซิกซ์' หรือ 6 ทีมใหญ่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, ลิเวอร์พูล, เชลซี และ อาร์เซน่อล มีโอกาสใกล้เคียงกันมาก
ในเมื่อคำตอบออกมาเป็นเช่นนั้น คำถามที่เข้าท่ามากกว่า น่าจะเป็น "คุณคิดว่าใครจะจบอันดับ 7"
ย้อนกลับไปดูสัก 5 ฤดูกาลที่แล้ว มีถึง 3 ซีซั่น 2014-15, 2016-17 และ 2017-18 ที่ บรรดา 'บิ๊กซิกซ์' สลับกันจบใน 6 อันดับแรก
ยกเว้นเพียงซีซั่น 2013-14 ที่ เอฟเวอร์ตัน โผล่ขึ้นมาแทน แมนฯ ยูไนเต็ด และซีซั่น 2015-16 ที่ เลสเตอร์ คว้าแชมป์แบบช็อกโลก และ เซาธ์แฮมป์ตัน ก็พรวดขึ้นมาที่ 6 ปล่อยให้ ลิเวอร์พูล จบที่ 8 และ เชลซี จบที่ 10 ซึ่งเรื่องพลิกล็อกแบบนี้ไม่ใช่จะเกิดขึ้นกันบ่อยๆ
และหากยังคิดไม่ออกกับคำถามที่ว่า "ใครจะจบอันดับ 7" นี่คือตัวเลือกที่เหมาะสมและเข้าทีที่สุด เมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบต่างๆ
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
เดอะ แฮมเมอร์ส แทบจะกลายเป็นทีมใหม่ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่หัวจรดเท้า เริ่มจากแต่งตั้ง มานูเอล เปเยกรินี่ นั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีมต่อจาก เดวิด มอยส์ ที่ไม่ได้รับสัญญาใหม่ เรื่องดีกรีหายห่วง เพราะกุนซือชาวชิลีเคยพา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปาดหน้า ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่น 2013-14 มาแล้ว
เรื่องเสริมทัพซัมเมอร์นี้ก็ทุบสถิติค่าตัวแพงสุดของสโมสรกันไปสองรอบ เริ่มจาก อิสซ่า ดิย็อป เซนเตอร์แบ็กจาก ตูลูส 22 ล้านปอนด์ จากนั้นก็สอย เฟลิเป้ อันแดร์ซอน มิดฟิลด์จาก ลาซิโอ 36 ล้านปอนด์
ส่วนคนอื่นๆ ก็ไล่เซ็นกันตั้งแต่โค้งแรกจนถึงโค้งสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็น ลูคัส ฟาเบียนสกี้, ไรอัน เฟรเดริคส์, เซบาสเตียน เนบีล่า, แจ๊ค วิลเชียร์, อันเดร ยาร์โมเลนโก้, ฟาเบียน บัลบูเอน่า, ซานเด ซิลวา, ลูคัส เปเรซ และแทบจะชั่วโมงสุดท้ายก่อนตลาดปิด คาร์ลอส ซานเชซ
เบิร์นลี่ย์
เจ้าของเดิม อันดับ 7 ซีซั่นที่แล้ว หากไม่ยก เดอะ คลาเรตส์ เป็นตัวเลือกอีกในฤดูกาลนี้ ก็คงถือเป็นการไม่ให้เกียรติกุนซือ ชอน ไดช์ สักเท่าไหร่
ซีซั่นนี้ ไดช์ ต้องปลุกลูกทีมตื่นตั้งแต่ตี 4 เพราะมีโปรแกรมยูโรปาลีก รอบคัดเลือก ตั้งแต่รอบสองรออยู่ หากผ่านรอบสาม หากผ่านรอบเพลย์ออฟไปได้ เบิร์นลี่ย์ ก็จะเจอฤดูกาลอันหนักอึ้งแน่นอน กับการต้องเล่นรอบแบ่งกลุ่ม 6 นัด แต่นั่นคือสิ่งที่ทุกคนต้องการอยู่แล้ว การได้เล่นถ้วยยุโรปครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1967
เบิร์นลี่ย์ อาจจะเดินเข้าตลาดซื้อขายช้าหน่อย แต่ก็สอยมาได้สามคน โจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตู, เบน กิ๊บสัน เซนเตอร์แบ็ก และ มาเตย์ วีดรา กองหน้าดีกรีดาวซัลโวแชมเปี้ยนชิพฤดูกาลที่แล้ว
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
เดอะ แม็กพายส์ เจอปัญหาเดิมๆ รุมเร้าอยู่ทุกปี นั่นคือการที่ ไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของสโมสรพยายามหาทางขายกิจการ แต่การเจรจาครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ และนั่นก็ส่งผลกระเทือนถึงการทำทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ มาโดยตลอด
ซีซั่นก่อน นิวคาสเซิ่ล จบอันดับ 10 ครึ่งบนของตาราง ฟังดูเหมือนจะดี แต่แท้จริงแล้ว หลังจบนัดที่ 29 สาลิกาดง ยังจมอยู่อันดับ 16 ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นสุดชีวิตอยู่เลย แต่พอคว้าชัยติดๆ กัน 4 นัด เลยกระโดดขึ้นมาถึงอันดับ 10
ราฟา อาจมีตัดพ้ออยู่บ้างเรื่องเสริมทัพซัมเมอร์นี้ที่รายรับมากกว่ารายจ่าย กับการได้ ซาโลมอน รอนดอน, โยชิโนริ มูโตะ, คี ซอง-ยอง, เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ, ฟาเบียน เชร์ และยืม เคเนดี้ อีกรอบ ใช้เงินซื้อเพียง 20 ล้านปอนด์เศษๆ แต่ขายได้ถึง 44.25 ล้านปอนด์ หนักๆ คือ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช กับ มิเกล เมริโน่
เอฟเวอร์ตัน
เดอะ ทอฟฟี่ส์ กลายเป็นทีมอันตรายขึ้นมาทันที และเป็นเต็ง 1 ของโจทย์ที่ว่า "ใครจะจบอันดับ 7" หลังจากเสริมทัพร้อนแรงโดยเฉพาะช่วงก่อนตลาดซื้อขายปิดทำการ ดีไม่ดีอาจสอดแทรกขึ้นไปสู่ 'ท็อป 6' ด้วย
ริชาร์ลิซอน ตัวรุกบราซิลคือคนแรกที่ย้ายมา 35 ล้านปอนด์ ตามด้วย ลูก้า ดีญ แบ็กซ้ายฝรั่งเศส 18 ล้านปอนด์ และวันสุดท้ายไปสอยมาถึง 4 คน เยร์รี่ มีน่า เซนเตอร์แบ็กโคลอมเบีย 27 ล้านปอนด์, ยืม อันเดร โกเมส กองกลางโปรตุเกส กับ คูร์ท ซูม่า กองหลังเฟร้นช์ และเซ็นฟรี แบร์นาร์ด มิดฟิลด์ตัวรุกบราซิล
ภายใต้การบริหารของเจ้าของทีม ฟาร์ฮัด โมชิรี่ และผู้อำนวยการฟุตบอล มาร์เซล บรันด์ส ทำให้การเสริมทัพไหลลื่นและเป็นไปอย่างที่ผู้จัดการทีมคนใหม่ มาร์โก ซิลวา ต้องการ และสิ่งสำคัญที่สุดคือทำให้แฟนๆ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน กลับมามีชีวิตชีวาและมีความหวังอีกครั้ง
เลสเตอร์ ซิตี้
แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2015-16 ต้องเผชิญหน้ากับการหนีตกชั้นในฤดูกาลถัดมา แต่ก็กระเตื้องขึ้นในซีซั่นที่แล้วที่จบอันดับ 9 ทว่า ก็ยังไม่ได้ใกล้เคียงกับการลุ้นพื้นที่ยูโรปาลีกในอันดับ 7
ผู้จัดการทีม โคล้ด ปูแอล ยอมรับการสูญเสีย ริยาด มาห์เรซ ปีกตัวเก่ง เพราะยื้อมาได้สองฤดูกาลแล้ว และด้วยค่าตัวที่รับมาถึง 60 ล้านปอนด์ จึงทำให้ จิ้งจอกสีน้ำเงิน เสริมทัพเข้ามาเยอะเหมือนกัน ทั้ง เจมส์ แมดดิสัน, ริคาร์โด้ เปเรยร่า, ราชิด เกซซาล, จอนนี่ อีแวนส์, แดนนี่ วอร์ด และวันสุดท้ายก็รวบสอง ชากลาร์ โซยุนคู กับ ฟิลิป เบนโควิช
และด้วยขุมกำลังหลักเดิมที่มีอยู่อย่าง เจมี่ วาร์ดี้, แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ แล้ว ทำให้ เลสเตอร์ ยังมีศักยภาพมากพอที่จะไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 7 ได้ในฤดูกาลนี้
นี่คือ 5 ทีมที่พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ แล้วดูเหมาะสมที่สุด แต่ในทุกๆ ฤดูกาลก็มักจะมีอย่างน้อยหนึ่งทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์ และปีนี้ขอจิ้มไปที่น้องใหม่ วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส