ย้อนกลับไปสองฤดูกาลที่แล้ว สลาวิซ่า โยคาโนวิช เปิดโอกาสให้เด็กหนุ่มวัย 16 ปีลงเล่นเกมลีกคัพ และนั่นคือจุดเริ่มของดาวรุ่งเนื้อหอม ไรอัน เซสเซยง
ค่ำคืนที่สนาม บริสเบน โร้ด จะอยู่ในความทรงจำของ เซสเซยง ไปตลอดกาล หลังจากลงประเดิมสนามให้ชุดใหญ่ของ ฟูแล่ม ในเกมลีกคัพ รอบแรก ที่บุกชนะ เลย์ตัน โอเรียนท์ 3-2 และสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ เป็นการตอบแทนความไว้วางใจให้กับ โยคาโนวิช
ชีวิตของ เซสเซยง เป็นไปแบบก้าวกระโดด จากมีชื่ออยู่ในทีมยอดเยี่ยมแชมเปี้ยนชิพของ พีเอฟเอ ในฤดูกาลแรก กลายเป็นคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแชมเปี้ยนชิพแห่งปีในฤดูกาลที่สอง และที่สำคัญที่สุดคือการพา ฟูแล่ม เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก
เส้นทางชีวิตนักฟุตบอลกำลังโรยด้วยกลีบกุหลาบ และถูกมองว่ามีโอกาสก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จตามรอยเท้า แกเร็ธ เบล ในอนาคต แต่ เซสเซยง ก็ต้องการพัฒนาฝีเท้าตัวเองให้มากกว่านี้ และไม่ต้องการกระโดดขึ้นบันไดข้ามขั้นไปสู่ทีมใหญ่ในเวลาเร็วเกินควร
"ผมอยากอยู่ที่นี่ต่อไปเสมอ ผมต้องการอยู่ต่อ และเล่นให้กับ ฟูแล่ม นี่คือสโมสรเดียวที่ผมรู้ ผมรู้สึกสะดวกสบายไปหมดที่ ฟูแล่ม ในตอนนี้ และในช่วงเวลาที่อยู่ในสนาม ผมต้องการลงเล่น"
ในวัยเด็ก เซสเซยง เกิดและเติบโตใน โรแฮมป์ตัน และอยู่ในทีมโรงเรียนคูมบ์บอยส์ ใน นิว มัลเดน ซึ่งร่วมใช้ มอทสเปอร์ พาร์ค สนามซ้อมของ ฟูแล่ม ร่วมกัน พออายุได้ 8 ขวบ ก็ก้าวเข้าสู่ศูนย์ฝึกเยาวชนของ ฟูแล่ม ร่วมกับฝาแฝดของเขา สตีเว่น เซสเซยง
เซสเซยง ฉายแววและมีพัฒนาการที่โดดเด่นกว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่โอกาสก็อาจไม่มาถึง หาก สลาวิซ่า โยคาโนวิช ไม่ก้าวเข้ามารับงานในถิ่น คราเวน ค็อทเทจ ในปี 2015
"เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ผมได้ทำงานร่วมกับเขาเมื่อตอนอายุ 16 เราจึงสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงตอนนี้ เขาช่วยผมมามากมายจริงๆ"
"ผมคิดว่าคุณก็คงได้เห็นแล้วว่าจากฤดูกาลแรกของผมมาจนถึงตอนนี้ ผมคิดว่าตัวเองพัฒนาฝีเท้าไปมาก นั่นมาจากความเชื่อมั่นและความศรัทธาที่เขามอบให้กับผม เขาให้โอกาสผมลงเล่น เชื่อมั่นในตัวผม และผมก็ตอบแทนเขาด้วยผลงานที่ดี"
จากแบ็กซ้ายในฤดูกาลแรก โยคาโนวิช มองเห็นการเติมเกมบุกอันดุดัน จึงจับ เซสเซยง ไปยืนปีกซ้าย และประสบความสำเร็จอย่างมากในฤดูกาลที่สอง ที่ซัลโวไปถึง 16 ประตูจาก 52 นัดรวมทุกรายการ และในอนาคต เจ้าตัวก็ไม่มีปัญหากับตำแหน่งวิงแบ็กซ้าย หากมีการใช้ระบบการเล่น 3-5-2 เพราะเชื่อว่าเป็นตำแหน่งที่ถนัดที่สุด
"ผมคิดว่าในอนาคตคงเป็นวิงแบ็กซ้ายในระบบ 3-5-2 ผมคิดว่าผมมีพละกำลังเหลือเฟือที่จะวิ่งขึ้นลงๆ ตลอดเวลา ดังนั้นในสามตำแหน่ง ผมคงมีบทบาทมากกว่าในระบบการเล่นนั้น"
ถือเป็นการปูทางตัวเองได้ดีทีเดียวกับการกระโดดขึ้นสู่ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ เพราะปัจจุบัน แกเร็ธ เซาธ์เกต กำลังยึดมั่นกับระบบการเล่น 3-5-2 ที่ใช้มาตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2018
อีกปัจจัยที่ทำให้ เซสเซยง ยังไม่ถึงเวลาอำลา คราเวน ค็อทเทจ นั่นก็คือแฟนๆ เดอะ ค็อทเทเจอร์ส
"ผมให้ความเคารพแฟนๆ เสมอ สำหรับผมแล้ว มันเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ มากมาย เพราะที่นี่คือสโมสรที่ผมใช้ชีวิตอยู่ด้วยมาตั้งแต่ 8 ขวบ"
"คุณได้เห็นแฟนเข้ามาเชียร์ทุกๆ สัปดาห์ ไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นเช่นไร คุณต้องแสดงความรักต่อแฟนๆ และให้ความเคารพพวกเขาเสมอ"
แม้ชีวิตตอนนี้ของ เซสเซยง ดูลงตัวไปหมดที่ ฟูแล่ม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าตัวจะไม่มองถึงความสำเร็จในอนาคต
"ผมต้องการรับใช้ทีมชาติอังกฤษ ต้องการลงเล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ เพื่อประเทศของผม ผมอยากลงเล่นฟุตบอลโลก ชิงแชมป์ยุโรป อยากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และอีกหลายๆ รายการเท่าที่ผมจะทำได้"
และเมื่อถึงเวลาที่ ไรอัน เซสเซยง จะต้องอำลา คราเวน ค็อทเทจ ในอนาคต ถึงตอนนั้นแฟนๆ ฟูแล่ม ก็คงจะเข้าใจเป็นอย่างดี