ในสายตาแฟนฟุตบอลส่วนใหญ่ เชื่อว่าไม่มีลีกรองที่ไหนแข็งแกร่งกว่า แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ในเวลานี้ เหมือนในอดีตที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เคยชื่นชมว่าเป็นลีกรองที่ดีที่สุดในโลก
มองดูสถานการณ์เมื่อเดินทางมาถึง 1 ใน 3 ของฤดูกาล 2018-19 ยิ่งยากจะคาดเดาว่าสุดท้ายแล้ว ทีมใดจะสมหวังได้เลื่อนชั้นในฐานะ 2 อันดับแรก และทีมใดจะคว้า 4 ที่นั่งเข้าสู่รอบเพลย์ออฟชิงตั๋วใบสุดท้าย
ลีดส์ ยูไนเต็ด อดีตทีมดังพรีเมียร์ลีก ภายใต้การคุมทัพของกุนซือมากประสบการณ์ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เข้ามาเปลี่ยนแปลงสภาพทีมไม่มากนัก แต่ก็ปรับตัวได้เร็ว และนำจ่าฝูงลากยาวมาถึงเกมที่ 9 ก่อนเสียบัลลังก์ไปให้ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
แต่ เดอะ แบ๊กกี้ส์ ของกุนซือ ดาร์เรน มัวร์ ก็ยืนระยะไม่ได้ เสียคืนให้ ลีดส์ ก่อนจะเปลี่ยนมือมาเป็น เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คั่นกลางโดย มิดเดิลสโบรช์ และกลับมาเป็นของ ดาบคู่ อีกครั้งหลังจบเกมที่ 15
นี่คือความสับสนวุ่นวายของหัวตาราง แชมเปี้ยนชิพ ที่มองดูตารางคะแนนแล้ว รู้ทันทีว่าฤดูกาลนี้จะเป็นซีซั่นที่ยากคาดเดา และอันดับสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วตลอดเวลา
จาก 6 อันดับแรก
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 29 คะแนน
ลีดส์ ยูไนเต็ด 27 คะแนน
มิดเดิลสโบรช์ 27 คะแนน
นอริช ซิตี้ 27 คะแนน
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 25 คะแนน
ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 25 คะแนน
นอริช ซิตี้ ของเฮดโค้ชชาวเยอรมัน ดาเนียล ฟาร์เค่ คือตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจนที่สุด จากการออกสตาร์ตฤดูกาลด้วยการแพ้ 3 จาก 5 นัดแรก จมอยู่โซนท้ายตาราง แต่พอชนะรวด 4 นัด ก็กระโดดพรวดเดียวขึ้นอันดับ 5 และชัยชนะ 7 จาก 9 นัดหลังสุด ก็ทำให้ นกขมิ้นเหลืองอ่อน ปักหลักอยู่อันดับ 4 แบบเหนียวแน่น
หรือในทางตรงกันข้าม วีแกน แอธเลติก จากที่บินสูงถึงอันดับ 3 แต่พอ 6 นัดหลัง ชนะเกมเดียว ทำให้ตอนนี้รูดลงมาอยู่ไกลถึงอันดับ 14 แต่ก็มีแต้มห่างจากพื้นที่เพลย์ออฟเพียง 5 คะแนน
นั่นแสดงให้เห็นว่า คะแนนของทุกทีมในซีซั่นนี้เบียดบี้กันมาก ยกเว้น อิปสวิช ทาวน์ ทีมบ๊วยทีมเดียวที่ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวจากชัยชนะเพียงนัดเดียวจาก 15 นัดแรก
พูดถึงจ่าฝูง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หลังจากเริ่มต้นสองนัดแรกด้วยการแพ้รวด หลังจากนั้นเก็บชัยชนะ 4 นัดรวด และชัยชนะเกมที่ 15 ก็ทำให้แซงขึ้นนำ ขณะที่คู่แข่งทีมอื่นๆ ต่างสะดุดกันหมด
คริส วิลเดอร์ กุนซือ ดาบคู่ ที่เพิ่งพาทีมเลื่อนชั้นจากลีกวันเมื่อปีที่แล้ว ผ่านประสบการณ์โชกโชนใน แชมเปี้ยนชิพ ซีซั่นก่อน หลังจากเบียดบี้จ่าฝูงกับ วูลฟ์แฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ชนิดหายใจรดต้นคออยู่พักใหญ่ และเคยแซงขึ้นเป็นจ่าฝูงหลังจบเกมที่ 14
แต่ฝันร้ายเกิดขึ้นกับทีมของ วิลเดอร์ ในช่วงตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน ลากยาวถึงปลายเดือนธันวาคมที่ไม่สามารถพาทีมเก็บชัยชนะได้เลยตลอด 6 นัด ทำให้หลุดวงโคจร แต่ไถลลงเหวแบบไม่มีใครฉุดอยู่ สุดท้ายจบฤดูกาลอันแสนบอบช้ำที่อันดับ 10
นั่นคือบทเรียนและประสบการณ์ของ วิลเดอร์ และลูกทีม ที่ส่วนใหญ่ยังเป็นตัวหลักมาจากซีซั่นก่อน และเป็นหนึ่งในไม่กี่ทีมในแชมเปี้ยนชิพ ที่ยึดมั่นกับระบบกองหลัง 3 คน แบบไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ถึงตอนนี้ แชมเปี้ยนชิพ ยังไม่อาจฟันธงอะไรได้มากนัก แม้แต่ แอสตัน วิลล่า ที่เปลี่ยนกุนซือจาก สตีฟ บรูซ มาเป็น ดีน สมิธ และยังอยู่ในขั้นตอนของการปรับจูนทีม หลังแพ้ 2 จาก 3 เกมแรกที่คุมทัพ จนรูดลงไปอยู่อันดับ 17
แต่หากมองดูที่คะแนนแล้ว วิลล่า ยังตามอันดับ 6 พื้นที่เพลย์ออฟเพียง 7 คะแนน ดังนั้นหากเข้าวินติดๆ กันสัก 4 นัด มีโอกาสไต่อันดับขึ้นไปแบบเห็นน้ำเห็นเนื้อแน่
6 อันดับแรกเวลานี้ก็นิ่งนอนใจไม่ได้เช่นกัน เพราะทีมอันดับ 7-12 กำลังดูดตูดกันมาชนิดไม่ให้หายใจหายคอกันเลยทีเดียว
เอาไว้ผ่าน 30 นัดแรก หรือ 2 ใน 3 ของฤดูกาล 2018-19 จะมาอัพเดทความเคลื่อนไหวใน แชมเปี้ยนชิพ อีกรอบ ถึงตอนนั้นน่าจะมีความชัดเจนให้เห็นมากกว่านี้
