:::     :::

'ที่สุด'จาก12นัดแรกพรีเมียร์ลีก

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2561 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
2,950
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2018-19 เดินทางมาถึง 1 ใน 3 ของฤดูกาลแล้ว นอกจากตารางคะแนน ผู้นำซัลโว ผู้นำแอสซิสต์แล้ว ยังมีสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ

สถิติบางอย่างที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะจากตำแหน่งกองหน้า กองกลาง กองหลัง หรือผู้รักษาประตู ไม่ใช่ดาวดังที่มีตัวเลขยอดเยี่ยมที่สุด หลายจังหวะ หลายเหตุการณ์ ไม่อยู่ในความสนใจของแฟนบอล แต่ทุกอย่างถูกจดบันทึกเอาไว้เรียบร้อย และไม่มีใครปฏิเสธตัวเลขเหล่านี้ได้

สร้างสรรค์โอกาสมากที่สุด
(ลงเล่นอย่างน้อย 500 นาที)
วิลเลียน - เชลซี
เชลซี ของกุนซือ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กลายเป็นทีมที่สร้างสรรค์โอกาสได้มากมายก่ายกองตลอด 12 นัดแรกพรีเมียร์ลีก เพราะมีตัวปั้นเกมชั้นยอดอย่าง วิลเลียน กับ เอแดน อาซาร์ อยู่ร่วมกัน
วิลเลียน สร้างสรรค์โอกาสทำประตูไปมากที่สุดในบรรดานักเตะทุกคนในพรีเมียร์ลีกที่ 35 ครั้ง จากการลงเล่นครบทั้ง 12 นัดแรก ตามด้วยเพื่อนร่วมทีม อาซาร์ 32 ครั้ง จาก 11 นัด (พลาดไป 1 เกมเพราะบาดเจ็บ)
ตัวเลขการสร้างสรรค์โอกาสของ วิลเลียน กับ อาซาร์ กระโดดทิ้งห่างคู่แข่งมากทีเดียว เพราะอันดับ 3 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ของ ลิเวอร์พูล มีเพียง 24 ครั้ง ตามด้วย ราฮีม สเตอร์ลิง ของ แมนฯ ซิตี้ 23 ครั้ง, เซร์คิโอ อเกวโร่ ของ แมนฯ ซิตี้ 19 ครั้ง, คัลลัม วิลสัน ของ บอร์นมัธ 18 ครั้ง, ราอูล ฮิเมเนซ ของ วูลฟ์แฮมป์ตัน กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ของ ลิเวอร์พูล เท่ากันที่ 17 ครั้ง, แดนนี่ อิงส์ ของ เซาธ์แฮมป์ตัน 15 ครั้ง และ ลูเซียโน่ เวียตโต้ ของ ฟูแล่ม กับ มาร์โก อาร์เนาโตวิช ของ เวสต์แฮม เท่ากันที่ 14 ครั้ง
งานนี้ไม่เห็นรายชื่อนักเตะจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ติดอยู่ในโผ 10 อันดับแรก
เข้าสกัดบอลมากที่สุด
(ลงเล่นอย่างน้อย 6 เกม)
อารอน วาน-บิสซาก้า - คริสตัล พาเลซ
แบ็กขวาดาวรุ่งจากรั้วเยาวชนของ คริสตัล พาเลซ ก้าวขึ้นเป็นตัวหลักของทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัวในฤดูกาลนี้ หลังจากลงชิมลางซีซั่นก่อน และทำผลงานได้เข้าตา รอย ฮ็อดจ์สัน เป็นอย่างมาก
วาน-บิสซาก้า มีตัวเลขการเข้าสกัดบอลสำเร็จมากที่สุดในบรรดากองหลังพรีเมียร์ลีกทุกคนที่ 45 ครั้ง จากการลงเล่น 11 นัด (ไม่ได้ลงเกมเดียวเพราะติดโทษแบน) มากกว่าคนที่ตามมาอย่าง ริคาร์โด้ เปเรยร่า แบ็กขวา เลสเตอร์ 39 ครั้ง, จอนนี่ ฟูลแบ็ก วูลฟ์แฮมป์ตัน 30 ครั้ง, วิลลี่ โบลี่ เซนเตอร์ วูล์ฟส์ กับ แม็ทธิว โลว์ตัน แบ็กขวา เบิร์นลี่ย์ 28 ครั้งเท่ากัน, ไรอัน เบอร์ทรานด์ กับ เลอ มาร์กชองด์ สองแบ็กซ้ายของ เซาธ์แฮมป์ตัน กับ ฟูแล่ม 27 ครั้งเท่ากัน และ คีแรน ทริปเปียร์ แบ็กขวา สเปอร์ส, ชโคดราน มุสตาฟี่ เซนเตอร์ อาร์เซน่อล, อาร์ตูร์ มาซูอาคู แบ็กซ้าย เวสต์แฮม 26 ครั้งเท่ากัน
งานนี้ ต้นสังกัด คริสตัล พาเลซ ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจไปกับ วาน-บิสซาก้า ดี เพราะแสดงให้เห็นว่าแนวรับของทีมต้องทำงานอย่างหนักหน่วงตลอด 12 นัดแรกฤดูกาลนี้
ผ่านบอลเข้าเป้ามากที่สุด
(ลงเล่นอย่างน้อย 500 นาที)
จอร์จินโญ่ - เชลซี
นี่คือกองกลางในแบบฉบับของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ เพราะหนีบกันมาเป็นแพ็กเกจคู่จาก นาโปลี และบีบให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ตัวหลักของทีมต้องปรับเปลี่ยนไปเล่นบทบาทใหม่
มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลี ที่เกิดและโตในบราซิล มีตัวเลขการผ่านบอลแม่นยำมากถึง 1,083 ครั้ง มากที่สุดในบรรดากองกลางทุกคนในพรีเมียร์ลีก จากการลงเล่นครบทั้ง 12 นัดแรกพรีเมียร์ลีก ทิ้งห่างอันดับ 2 กรานิต ชาก้า ของ อาร์เซน่อล มากถึง 264 ครั้ง
รองจาก ชาก้า ที่ผ่านบอลเข้าเป้า 819 ครั้งแล้ว ก็มี แฟร์นันดินโญ่ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 749 ครั้ง, ฌอง-มิเชล เซรี่ ของ ฟูแล่ม 620 ครั้ง, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ของ เชลซี 617 ครั้ง, ดาบิด ซิลบา ของ แมนฯ ซิตี้ 614 ครั้ง, รูเบน เนเวส ของ วูลฟ์แฮมป์ตัน 610 ครั้ง, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ของ ลิเวอร์พูล 602 ครั้ง, ปอล ป็อกบา ของ แมนฯ ยูไนเต็ด 582 ครั้ง และ ชูเอา มูตินโญ่ ของ วูล์ฟส์ 564 ครั้ง
ตัวเลขดังกล่าวของ จอร์จินโญ่ และ ก็องเต้ (อันดับ 5) แสดงให้เห็นถึงแนวทางการทำทีมของ ซาร์รี่ อย่างชัดเจน ที่เน้นการครอบครองบอลเอาไว้กับตัวให้มากที่สุด และตัวเลขการผ่านบอลที่มากขนาดนี้ ก็นับรวมจังหวะเคาะคืนไปมากับแผงหลังด้วย
ยิงประตูเฉลี่ยต่อนาทีดีที่สุด
(ลงเล่นอย่างน้อย 500 นาที)
อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
กองหน้าฝรั่งเศส ต้องเผชิญช่วงเวลาอันยากลำบาก หลังมีปัญหากับเจ้านาย โชเซ่ มูรินโญ่ ในช่วงปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา เพราะขอลาทีมบินกลับไปเฝ้าภรรยาคลอดลูก แล้วไม่ยอมบินกลับไปร่วมทีม
มาร์กซิยาล ทำท่าว่าจะหมดอนาคต แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่มีการย้ายทีมเกิดขึ้น หลังปิดตลาดวันที่ 9 สิงหาคม
แม้ออกสตาร์ตช้ากว่าคนอื่นๆ แต่กองหน้าวัย 22 ปี มาเร่งเครื่อง ยิง 6 ประตูในพรีเมียร์ลีก จาก 5 นัดหลังสุด เมื่อคำนวณกับจำนวนนาทีที่อยู่ในสนามแล้ว มาร์กซิยาล มีค่าเฉลี่ยดีที่สุด 103.5 นาที ต่อ 1 ประตู
อันดับ 2 คือผู้นำดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกหลังผ่าน 12 นัดแรก เซร์คิโอ อเกวโร่ ของ แมนฯ ซิตี้ ตัวเลขอยู่ที่ 110.5 นาที ต่อ 1 ประตู ตามด้วย เอแดน อาซาร์ ของ เชลซี 111.86 นาที ต่อ 1 ประตู, ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมยัง ของ อาร์เซน่อล 122.43 นาที ต่อ 1 ประตู, เปโดร โรดริเกซ ของ เชลซี 126.75 นาที ต่อ 1 ประตู, อัลบาโร่ โมราต้า ของ เชลซี 139.2 นาที ต่อ 1 ประตู, ริชาร์ลิซอน ของ เอฟเวอร์ตัน 140 นาที ต่อ 1 ประตู, ราฮีม สเตอร์ลิง ของ แมนฯ ซิตี้ 143.67 นาที ต่อ 1 ประตู, เกล็น เมอร์รี่ย์ ของ ไบรท์ตัน 150.83 นาที ต่อ 1 ประตู, ซาดิโอ มาเน่ ของ ลิเวอร์พูล 162 นาที ต่อ 1 ประตู
แย่งชิงบอลตัวต่อตัวมากที่สุด
(ลงเล่นอย่างน้อย 500 นาที)
วิลเฟรด เอ็นดีดี้ - เลสเตอร์
นับตั้งแต่เสียคู่กองกลางชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กับ แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ ย้ายออกจากทีมไป เลสเตอร์ ไม่อาจควานหาตัวแทนได้สองฤดูกาลแล้ว แต่ดูเหมือนหลายสิ่งหลายอย่างจะเริ่มดีขึ้น
เอ็นดีดี้ ย้ายจาก เกงค์ มาร่วมถิ่น คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม ตั้งแต่ตลาดมกราคมปี 2017 แม้ลงเล่นเป็นตัวหลักตลอดหนึ่งฤดูกาลครึ่ง แต่ดูเหมือนฝีเท้ายังไม่เข้าตา เหตุผลสำคัญเพราะในสายตาแฟนบอล ยังคงเปรียบเทียบกับ ก็องเต้
แต่อย่างที่บอกไปว่าอะไรเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากกองกลางวัย 21 ปี มีตัวเลขการเอาชนะคู่แข่งในจังหวะแย่งชิงบอลแบบตัวต่อตัวมากที่สุดถึง 100 ครั้ง รองลงมาคือ ฟิลิป บิลลิง ของ ฮัดเดอร์สฟิลด์ 92 ครั้ง, อิดริสซ่า เกย์ ของ เอฟเวอร์ตัน 90 ครั้ง, โมฮาเหม็ด ดิยาเม่ ของ นิวคาสเซิ่ล 83 ครั้ง, เฟลิเป้ อันแดร์ซอน ของ เวสต์แฮม 80 ครั้ง, เอเตียน กาปู ของ วัตฟอร์ด 77 ครั้ง, ปอล ป็อกบา ของ แมนฯ ยูไนเต็ด 75 ครั้ง เท่ากับ วิลล์ ฮิวจ์ส ของ วัตฟอร์ด, ลูคัส มูร่า ของ สเปอร์ส 74 ครั้ง และ มาริโอ เลมิน่า ของ เซาธ์แฮมป์ตัน 72 ครั้ง
ป้องกันประตูมากที่สุด
(ลงเล่นอย่างน้อย 6 เกม)
โจ ฮาร์ท - เบิร์นลี่ย์
ฮาร์ท ย้ายเข้ารัง เบิร์นลี่ย์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา พร้อมเครื่องหมายคำถาม เพราะมี นิค โพ๊ป กับ ทอม ฮีตัน สองผู้รักษาประตูตัวเลือกทีมชาติยืนหัวโด่อยู่ในทีมของ ชอน ไดช์
ปัญหาบาดเจ็บของ โพ๊ป และสภาพร่างกายที่ยังไม่ฟิตของ ฮีตัน ทำให้ ฮาร์ท ได้รับโอกาสลงเฝ้าเสาก่อนในช่วงต้นซีซั่น กลับกลายเป็นว่า อดีตผู้รักษาประตู แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องทำงานหนักเพราะแนวรับที่หลุดรั่ว
ตลอด 12 นัดในพรีเมียร์ลีก ฮาร์ท มีจังหวะเซฟไปแล้วมากถึง 53 ครั้ง งานชุกที่สุดเหนือ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ของ เวสต์แฮม 51 ครั้ง, แม็ทธิว ไรอัน ของ ไบรท์ตัน 46 ครั้ง, ดาบิด เด เคอา ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 42 ครั้ง, อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ของ เซาธ์แฮมป์ตัน 40 ครั้ง, นีล เอเธอริดจ์ ของ คาร์ดิฟฟ์ 39 ครั้ง, รุย ปาทริซิโอ ของ วูลฟ์แฮมป์ตัน 37 ครั้ง, จอร์แดน พิคฟอร์ด ของ เอฟเวอร์ตัน 36 ครั้ง, มาร์ติน ดูบราฟก้า ของ นิวคาสเซิ่ล 34 ครั้ง และ อัสเมียร์ เบโกวิช ของ บอร์นมัธ กับ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ ของ คริสตัล พาเลซ เท่ากัน 33 ครั้ง
จะเห็นได้ว่าในบรรดา 10 อันดับแรก ล้วนแล้วแต่เป็นทีมระดับล่างหรือระดับกลางแทบทั้งสิ้น แต่เอ๊ะ!!! ดาบิด เด เคอา มาได้ไง???

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด