ผ่านไป 2 ปีกับอีก 7 เดือน นับตั้งแต่เกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก คู่แรก เปิดฉากขึ้นที่ ดิลี เมืองหลวงของ ติมอร์-เลสเต
เราได้เห็นอะไรมากมายจาก 210 ชาติ ใน 6 ทวีปทั่วโลก ทั้งสุข เศร้า สมหวัง ผิดหวัง รอยยิ้ม และน้ำตา มีหลายประเด็นเกิดขึ้น โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงเส้นชัย
ชาติแรก
แชมป์โลก 5 สมัย บราซิล กลายเป็นชาติแรกที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในบรรดาทีมที่เล่นรอบคัดเลือก หลังจากชัยชนะเหนือ ปารากวัย 3-0 ที่ เซา เปาโล ตั้งแต่เดือนมีนาคม
ในเกมดังกล่าว ยังเป็นการชัยชนะ 8 นัดติด นับตั้งแต่ได้ ตีเต้ เข้ามาคุมทีมด้วย ซึ่งหลังจากเริ่มต้นด้วยการบุกแพ้ ชิลี 0-2 บราซิล ก็ไม่แพ้ทีมใดอีกเลยตลอด 17 นัดที่เหลือของรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้
ทำให้ทัพ 'กานารินโญ่' เดินหน้าทำสถิติปรากฏตัวใน เวิลด์คัพ รอบสุดท้ายตลอด 21 ทัวร์นาเมนต์ ซึ่งเป็นชาติเดียวที่ทำได้
ประตูเร็วที่สุด
เป็นของ คริสติย็อง เบนเตเก้ ศูนย์หน้าเบลเยียม ที่ยิง ยิบรอลตาร์ ในชัยชนะ 6-0 ที่สนามเป็นกลางประเทศโปรตุเกส เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2016
เกมดังกล่าวจบลงด้วยแฮตทริกของ เบนเตเก้ จากประตูแรกที่เป็นสถิติใหม่ ใช้เวลาเพียง 8.1 วินาที ไม่ใช่แค่สถิติใน ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ปี 2018 เท่านั้น แต่ยังเป็นสถิติใหม่ของฟุตบอลโลกรวมทุกรอบด้วย
สถิติเดิมเป็นของ ดาวิเด้ กวาลทิเอรี่ ของซาน มารีโน่ ที่ยิง อังกฤษ ในฟุตบอลโลก 1994 รอบคัดเลือก เมื่อปี 1993 ใช้เวลา 8.3 วินาที
น้องใหม่
ถึงเวลานี้ เราได้เห็นทีมที่สร้างประวัติศาสตร์เข้าสู่ ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกแล้ว 2 ชาติ คือ ไอซ์แลนด์ กับ ปานามา
ไอซ์แลนด์ ยังคงมุ่งสู่ความสำเร็จต่อเนื่อง หลังทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูโร 2016 และการปรากฏตัวหนแรกที่ รัสเซีย ก็ทำให้พวกเขากลายเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในบรรดาทุกชาติที่เคยผ่านเข้ารอบสุดท้าย เมื่อเทียบจากจำนวนประชากรเพียง 340,000 คน
ส่วน ปานามา ก็ทำความฝันให้เป็นจริงครั้งแรก หลังจาก 4 ปีก่อน ทำตั๋วเพลย์ออฟหลุดมือในช่วงทดเวลา จากที่นำ สหรัฐอเมริกา 2-1 กลับมาเสีย 2 ประตู นาที 90+2 และ 90+3 ปล่อยให้ เม็กซิโก ชิงตั๋วเพลย์ออฟไปหน้าตาเฉย
หายหน้านานสุด
หากไม่นับทีมที่เข้ารอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกแล้ว อียิปต์ คือทีมที่หายหน้าหายตาไปนานที่สุด นับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1990 ที่ อิตาลี
ใน เวิลด์คัพ 1990 อียิปต์ จอดป้ายรอบแรกอย่างน่าเสียดาย จากการแพ้ อังกฤษ 0-1 ในนัดสุดท้าย ส่วนครั้งแรกที่ได้เล่นรอบสุดท้ายต้องย้อนกลับไปไกลถึงปี 1934
นี่จึงเป็นการกลับคืนสังเวียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกหนแรกในรอบ 28 ปี ซึ่งฮีโร่ของพวกเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าฝีเท้าจัดจากลิเวอร์พูล ที่ยิงคนเดียว 2 ประตูในชัยชนะล่าสุดเหนือ คองโก และเป็นประตูที่ 5 นำดาวซัลโวของโซนแอฟริกาด้วย
เจ้าพ่อเพลย์ออฟ
เราได้เห็น 2 ชาติจากทวีปเดียวกันในรอบเพลย์ออฟ นั่นคือ ออสเตรเลีย กับ นิวซีแลนด์ ที่เป็นตัวแทนจากโซนเอเชียกับโซนโอเชียเนีย
ในด้านภูมิศาสตร์ ออสเตรเลีย คือประเทศหลักของทวีปออสเตรเลีย ขณะที่ นิวซีแลนด์ เป็นเกาะที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทวีปออสเตรเลียก็จริง แต่ก็ถูกเรียกเป็นส่วนหนึ่งของโซนโอเชียเนีย
ในด้านฟุตบอล ออสเตรเลีย ย้ายวิกมาอยู่โซนเอเชียตั้งแต่ปี 2006 เพราะผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าในรอบเพลย์ออฟ เวิลด์คัพ ปล่อยให้ นิวซีแลนด์ กลายเป็นเต้ยของโซนโอเชียเนียบ้าง
แต่ไหนกลับกลายเป็น จิงโจ้ ต้องมาเพลย์ออฟอีกแล้ว หลังไปสะดุดขาตัวเองเกือบหน้าทิ่มในรอบคัดเลือก โซนเอเชีย ถือเป็นการเสียหน้าอย่างแรง ยังดีที่ไม่ถูกวางมาจ๊ะเอ๋กับ นิวซีแลนด์ ในรอบเพลย์ออฟ
ประตูผี
เป็นประตูที่เกิดขึ้นในเกมระหว่าง ปานามา กับ คอสตาริกา ในโซนคอนคาเคฟ นัดสุดท้าย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
บอลจากส้นเท้าของ กาเบรียล ตอร์เรส กระดอนไปชนเสา แล้วมาโดนศีรษะ แบลส เปเรซ ที่ล้มไปกองอยู่กับพื้น บอลหยุดนิ่งอยู่กับเสาประตู ก่อนถูกผู้เล่น คอสตาริกา เคลียร์ทิ้งออกหลัง และผู้ตัดสิน วอลเตอร์ โลเปซ จากกัวเตมาลา เป่าให้เป็นประตู โดยที่เว็บไซต์ ฟีฟ่า ให้เครดิต กาเบรียล ตอร์เรส เป็นคนทำประตูได้แบบงงๆ
ประตูนี้ต้องได้รับการชี้แจงจาก ฟีฟ่า อย่างเร่งด่วน เพราะนั่นหมายถึงการตกรอบของ สหรัฐอเมริกา ชาติมหาอำนาจของโลก ที่พลาดตั๋วรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1986
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่หยิบยกมาเท่านั้น จริงๆ ยังมีประเด็นอีกมากมายที่เกิดขึ้นไปแล้ว และอาจจะเกิดขึ้นอีกในโปรแกรมเดือนสุดท้าย
จนถึงเวลานี้ เหลืออีกเพียงไม่กี่ชาติที่ยังมีโปรแกรมแข่ง ตั๋วที่เหลืออีก 9 ใบจะเป็นของใคร จะได้คำตอบครบถ้วนในวันที่ 14 พฤศจิกายน