โปรแกรมฟุตบอลอังกฤษสัปดาห์แรกของศักราชใหม่จะหลีกทางให้เอฟเอคัพ รอบ 3 ตามธรรมเนียม เป็นสัญญาณว่าพรีเมียร์ลีกได้ผ่านมาเกินครึ่งทางแล้ว
หลังผ่าน 21 นัด พรีเมียร์ลีก มีเรื่องราวน่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย ทั้งเรื่องผลงานของทีม ผลงานส่วนตัวนักเตะ สถิติต่างๆ ที่ถูกจดบันทึกเอาไว้ และนี่คือส่วนหนึ่งของข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจ
ศึกชิงรองเท้าทองคำ
แฮร์รี่ เคน ยังคงเสนอชื่อตัวเองลุ้นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกเป็นฤดูกาลที่ 4 ติดต่อกัน และซีซั่นนี้ได้ ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมยัง เข้ามาร่วมชิงรางวัลรองเท้าทองคำด้วย หลังจากทั้งคู่ยิงไปมากที่สุดเท่ากันที่ 14 ประตู ตามมาด้วยเจ้าของรางวัลซีซั่นก่อน โม ซาลาห์ ที่กดมาติดๆ 13 ประตู
ผู้ปิดทองหลังพระ
ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก หากเห็นชื่อ เอแดน อาซาร์, คริสเตียน เอริคเซ่น, เลรอย ซาเน่, ราฮีม สเตอร์ลิง, โม ซาลาห์, ปอล ป๊อกบา, อารอน แรมซี่ย์, มาร์คัส แรชฟอร์ด, แบร์นาร์โด้ ซิลวา ติดอยู่ในชาร์ตผู้นำแอสซิสต์ลำดับต้นๆ แต่มีอยู่หนึ่งคนที่สร้างเซอร์ไพรส์ และเป็นผู้นำ 9 แอสซิสต์ร่วมกับ อาซาร์ นั่นคือ ไรอัน เฟรเซอร์ มิดฟิลด์ริมเส้นของ บอร์นมัธ ที่ซีซั่นนี้โชว์ฟอร์มร้อนแรงมาก
รางวัลแด่กุนซือรากหญ้า
น่าแปลกใจที่ตลอด 4 เดือนแรกพรีเมียร์ลีก เราไม่ได้เห็นชื่อของกุนซือจากทีม 'บิ๊กซิกซ์' รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนเลย ทั้งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังรักษามาตรฐานของทีมได้ต่อเนื่อง ขณะที่ เมาริซิโอ ซาร์รี่, เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่, อูไน เอเมรี่ ก็มีช่วงเวลาพาทีมติดเครื่องเช่นกัน แต่กลายเป็นว่าซีซั่นนี้คนที่รับรางวัลไปแล้วมี ฆาบี กราเซีย ของ วัตฟอร์ด เดือนสิงหาคม, นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ของ วูลฟ์แฮมป์ตัน เดือนกันยายน, เอ็ดดี้ ฮาว ของ บอร์นมัธ เดือนตุลาคม และ ราฟาเอล เบนิเตซ ของ นิวคาสเซิ่ล เดือนพฤศจิกายน
นักสะสมใบเหลือง
จนถึงนาทีนี้ เจฟเฟร์ซอน เลร์ม่า กองกลาง บอร์นมัธ ได้ชื่อว่าเป็นฮาร์ดแมนประจำพรีเมียร์ลีกไปแล้ว ทั้งที่เพิ่งมาเล่นซีซั่นแรก หลังโดนใบเหลืองกระจายไปถึง 9 ใบแล้ว ขาดอีกเพียงใบเดียวก็จะครบ 10 ต้องติดโทษแบน 2 นัด และจากจำนวนเกมที่เหลือ ดีไม่ดีอาจได้เห็นมิดฟิลด์โคลอมเบียโดนจดชื่อถึง 15 ครั้งในฤดูกาลนี้ก็เป็นได้
ชนะต่อเนื่องนานสุด
ลิเวอร์พูล เพิ่งถูกหยุดผลงานอันร้อนแรงในเกมบุกแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2 ก่อนพักให้โปรแกรมเอฟเอคัพ รอบ 3 ทำให้ หงส์แดง หยุดสถิติชนะรวดในซีซั่นนี้เอาไว้ที่ 9 นัด นับตั้งแต่เกมชนะ ฟูแล่ม 2-0 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ตามด้วยเกมชนะ วัตฟอร์ด 3-0, เอฟเวอร์ตัน 1-0, เบิร์นลี่ย์ 3-1, บอร์นมัธ 4-0, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1, วูลฟ์แฮมป์ตัน 2-0, นิวคาสเซิ่ล 4-0 และ อาร์เซน่อล 5-1 เป็นการปิดฉากปี 2018
ไม่เดินสายกลาง
จาก 21 นัดแรก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยังเป็นทีมเดียวที่ไม่รู้จักผลเสมอ ทั้งที่ตลอดสามฤดูกาลที่่ผ่านมา ไก่เดือยทอง พลาดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในระยะยาวเพราะหนักไปทางผลเสมอ และอันที่จริง ทีมของกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็เกือบได้ผลเสมออยู่แล้ว อย่างในเกมที่แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 เพราะไม่ได้จุดโทษในช่วงทดเจ็บ หรือเกมเฉือนชนะ เบิร์นลี่ย์ 1-0 ที่ คริสเตียน เอริคเซ่น ยิงประตูชัยช่วงทดเวลา
ไร้แต้มยาวนานที่สุด
แน่นอนสถิตินี้ต้องเป็นของทีมบ๊วย ฮัดเดอร์สฟิลด์ ที่ซีซั่นนี้ ดาวิด ว้ากเนอร์ ประสบปัญหาอย่างหนัก เพิ่งชนะ 2 จาก 21 เกมแรก และแพ้ติดต่อกันมาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม จนถึงนาทีนี้รวม 8 นัดติดต่อกันแล้ว และน่าสนใจตรงที่มีการเจอกับทีมใหญ่เพียง 2 เกมคือ อาร์เซน่อล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เหลือเป็นการแพ้ทีมหนีตกชั้นด้วยกันถึง 5 เกม แล้วอย่างนี้จะรอดตกชั้นได้ยังไงละเนี่ย?
ยิงแหลกมากสุดเกมเดียว
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ บุกชนะ เอฟเวอร์ตัน 6-2 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม นอกจากจะเป็นการยิงมากที่สุด 8 ประตูในเกมเดียวของฤดูกาลนี้แล้ว ยังทำให้ ไก่เดือยทอง ยิงเกมเยือนมากที่สุดใน 1 เกมด้วย ทั้งที่ ธีโอ วัลค็อตต์ ยิงให้ ทอฟฟี่ ออกนำก่อน แต่จตุรเทพในแนวรุกของ ท็อตแน่ม ทั้ง แฮร์รี่ เคน, ซอน ฮึง-มิน, เดเล่ อัลลี, คริสเตียน เอริคเซ่น ก็มาช่วยกันรัวยิงครึ่งโหล
คนดูเยอะสุด
จนถึงตอนนี้ เกมที่ สเปอร์ส แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 ที่ เวมบลีย์ เป็นเกมที่มีแฟนบอลเข้าสนามมากที่สุดในซีซั่นนี้ 80,188 คน ยังไม่ใกล้เคียงกับสถิติพรีเมียร์ลีกที่เกิดขึ้นซีซั่นก่อนในเกมที่ ไก่เดือยทอง ชนะ อาร์เซน่อล 1-0 มีแฟนๆ เข้ามามากที่สุด 83,222 คน ขณะที่สถิติสนามเวมบลีย์ที่ใช้งานสำหรับเกมฟุตบอล ยังคงอยู่ที่ 89,874 คน เกมระหว่าง คาร์ดิฟฟ์ กับ พอร์ทสมัธ ปี 2008