การประกาศแขวนถุงมือของ ปีเตอร์ เช็ก หลังจบซีซั่นนี้ ทำให้ฟุตบอลอังกฤษต้องจารึกชื่อเพิ่มในฐานะ 'ตำนานผู้รักษาประตูพรีเมียร์ลีก'
นับตั้งแต่พรีเมียร์ลีกยุคเริ่มแรกฤดูกาล 1992-93 จนถึงตอนนี้ฤดูกาลที่ 27 มีผู้รักษาประตูฝีมือดีหลายคนเข้ามาผลัดเปลี่ยนกันสร้างชื่อ
บางคนสัมผัสแชมป์เป็นว่าเล่น บางคนไม่เคยสัมผัสแชมป์
บางคนเก็บคลีนชีตอุตลุต บางคนนานๆ จะได้สัมผัสคลีนชีต
แต่บางครั้ง การจะเป็นสุดยอดผู้รักษาประตูที่ได้รับการยกย่องจากโค้ช, เพื่อนนักเตะด้วยกัน และแฟนบอล สิ่งสำคัญที่สุดเหนือตัวเลขสถิติต่างๆ คือผลงานในสนามที่สามารถทำให้ทุกคนลุกฮือได้ และที่เหนือไปกว่านั้นคือ ต้องมีผลงานที่สม่ำเสมอ
นี่คือ 10 อันดับตำนานผู้รักษาประตูของพรีเมียร์ลีก
10 เชย์ กิฟเว่น
อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติไอร์แลนด์ ได้รับการยกย่องอย่างมาก แม้ไม่มีความสำเร็จที่สามารถจับต้องได้ เพราะเฝ้าเสาให้กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ยุคยังเป็นทีมกลางตาราง), แอสตัน วิลล่า และ สโต๊ค ซิตี้
การลงเล่นให้กับทีมที่ไม่ใช่ระดับท็อปของลีก กิฟเว่น ต้องทำงานหนักแทบทุกนัด และสามารถเก็บคลีนชีตได้ถึง 113 เกมจากการลงเฝ้าเสาในพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 451 นัด โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือตอนอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล ที่ไม่เสียประตูถึง 89 เกม พาทีมจบครึ่งบนของพรีเมียร์ลีกได้ถึง 4 ฤดูกาล
9 ติโบต์ กูร์กตัวส์
ถึงจะมาเร็ว ไปเร็ว แต่ผู้รักษาประตูมือ 1 ทีมชาติเบลเยียมมีแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ เชลซี ถึง 2 ครั้ง ในฤดูกาล 2014-15 และ 2016-17 แถมด้วย เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2017-18 และ ลีกคัพ ฤดูกาล 2014-15 นับเฉพาะพรีเมียร์ลีก ลงเฝ้าเสาไปเพียง 126 เกม เก็บคลีนชีตได้ถึง 48 นัด
ด้วยส่วนสูง 199 เซนติเมตร ทำให้ กูร์กตัวส์ สง่าผ่าเผยในจังหวะยืดตัวไปโชว์เซฟ และจุดเด่นคือการป้องกันประตูในจังหวะดวลตัวต่อตัวกับคู่แข่ง น่าเสียดายที่สถิติตัวเลขต่างๆ ในพรีเมียร์ลีกถูกหยุดเอาไว้เพียงแค่ 4 ฤดูกาล เพราะเจ้าตัวอยากกลับไปเล่นในลาลีกา
8 โฆเซ่ มานูเอล เรน่า
ผู้รักษาประตูชาวสเปนเป็นได้แค่พระรองในนามทีมชาติ แต่กับสโมสร ลิเวอร์พูล ในช่วงเวลาเกือบ 1 ทศวรรษ เปเป้ เรน่า คือมือ 1 ที่ไม่มีใครแย่งตำแหน่งตัวจริงไปได้เลย และยังมีตัวเลขที่น่าทึ่ง เก็บคลีนชีต 134 นัดจาก 285 เกมพรีเมียร์ลีก ค่าเฉลี่ยสูงถึง 47.02 เปอร์เซนต์
แต่การมีเพียงแชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย ฤดูกาล 2005-06 กับ ลีกคัพ 1 สมัย ฤดูกาล 2011-12 ทำให้ชื่อของ เรน่า ไม่ถูกยกย่องในฐานะหนึ่งในผู้รักษาประตูแถวหน้าของพรีเมียร์ลีก เป็นความเจ็บปวดพอๆ กับการคว้าแชมป์เวิลด์คัพ 2010, ยูโร 2008 และ 2012 ร่วมกับทีมชาติสเปน แต่ไม่ได้ลงเฝ้าเสา
7 เยนส์ เลห์มันน์
อดีตผู้รักษาประตูชาวเยอรมัน เป็นอีกคนที่ขึ้นไม่สุดกับทีมชาติ เพราะมี โอลิเวอร์ คาห์น ขวางทางอยู่ แต่การย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกปี 2003 ในฐานะตัวตายตัวแทนของ เดวิด ซีแมน ตำนานสโมสร ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดในชีวิต
เลห์มันน์ ลงเฝ้าเสาตลอดทั้ง 38 เกมพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลแรก ซึ่งเป็นซีซั่นที่ อาร์เซน่อล สร้างตำนานคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบไร้พ่ายฤดูกาล 2003-04 โดยที่นายประตูเลือดด๊อยช์โกยคลีนชีตไปถึง 21 เกม รวมแล้วตลอด 148 นัด ไม่เสียประตูมากถึง 54 เกม
6 โจ ฮาร์ท
เด็กปั้นจาก ชรูว์สบิวรี่ ทาวน์ เก็บข้าวของย้ายทีมครั้งสำคัญมาร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2006 แม้ตอนนั้น เรือใบสีฟ้า ยังไม่ใช่ทีมระดับหัวแถวพรีเมียร์ลีก แต่ถือเป็นก้าวกระโดดก้าวใหญ่ของนายประตูหนุ่มที่โชว์ฟอร์มเตะตากับทีมชาติอังกฤษชุดยู-19
ตลอด 12 ปีที่ แมนเชสเตอร์ ฮาร์ท ยึดมือ 1 แบบถาวร 6 ฤดูกาล และในช่วงเวลานั้น คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 ครั้ง ซีซั่น 2011-12 และ 2013-14 เก็บคลีนชีตกับ เรือใบสีฟ้า มากถึง 109 นัด จากทั้งหมด 127 นัดที่ทำได้จากการลงเฝ้าเสา 340 นัดกับทั้ง เบอร์มิงแฮม (ยืมตัว), เวสต์แฮม (ยืมตัว) และสโมสรปัจจุบัน เบิร์นลี่ย์
5 ดาบิด เด เคอา
ผู้รักษาประตูก้านยาวถูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คว้าตัวมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2011 และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งเดียวซีซั่น 2012-13 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายในการคุมทีมของ เฟอร์กี้ จากนั้น เด เคอา ก็ต้องทำงานหนักมาตลอดไม่ว่าจะเป็นยุคของ เดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน กัล หรือ โชเซ่ มูรินโญ่
จาก 259 นัดที่ลงเฝ้าเสาในพรีเมียร์ลีกให้กับ ปีศาจแดง เด เคอา มีตัวเลขคลีนชีตที่ไม่ค่อยสวยงามนัก เพียง 97 เกม อย่างไรก็ตาม ในแต่ละเกม เรามักได้เห็นซูเปอร์เซฟสวยๆ จากผู้รักษาประตูชาวสเปน ที่ก้าวขึ้นสวมมือ 1 ทีมชาติตั้งแต่หมดยุคของ อีเกร์ กาซียาส
4 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ดึงตัว ฟาน เดอร์ ซาร์ มาจาก ฟูแล่ม ในวัย 35 ปี แม้ถูกสบประมาทว่าใกล้หมดอายุการใช้งานแล้ว แต่มือกาววัยเก๋าก็ตอกเสียงวิจารณ์ต่างๆ นานๆ ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย ฤดูกาล 2006–07, 2007–08, 2008–09, 2010–11 และที่สำคัญที่สุดคือแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2007-08
ตลอด 313 เกมพรีเมียร์ลีกที่เฝ้าเสากับทั้ง ฟูแล่ม และ แมนฯ ยูไนเต็ด ฟาน เดอร์ ซาร์ ทำคลีนชีตไปได้ถึง 132 เกม ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 42.17 เปอร์เซนต์ และเฝ้าเสาจนถึงอายุ 41 ปีในฤดูกาลสุดท้าย 2010-11 จนได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดของ ผีแดง นับตั้งแต่หมดยุค ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล
3 เดวิด ซีแมน
ตลอดช่วงเวลา 13 ปีกับ อาร์เซน่อล ซีแมน ยึดมือ 1 ในถิ่นไฮบิวรี่มาโดยตลอด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 2 สมัย ฤดูกาล 1997-98 และ 2001-02 รวมกับยุคที่ยังเรียกดิวิชั่น 1 อีก 1 สมัยในซีซั่น 1990-91 และยังมีแชมป์เอฟเอคัพ 4 สมัย, ลีกคัพ 1 สมัย และ คัพ วินเนอร์ส คัพ อีก 1 สมัย
ซีแมน ไม่ใช่ผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าได้ดี แต่เรื่องความสม่ำเสมอ ทำให้แผงแบ็กโฟร์อุ่นใจได้ตลอด จาก 344 เกมพรีเมียร์ลีกที่เฝ้าเสากับ อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อดีตมือ 1 ทีมชาติอังกฤษเก็บคลีนชีตได้ถึง 140 ครั้ง แต่ก็ต้องเจ็บปวดใจไม่น้อย เมื่ออำลา ปืนใหญ่ ไปเล่นให้ เรือใบสีฟ้า (ซีซั่นสุดท้าย) แล้วเพื่อนร่วมทีมเก่าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบไร้พ่ายในทันที
2 ปีเตอร์ เช็ก
พระเอกของคอลัมน์นี้ถูกยกย่องให้เป็นตำนานผู้รักษาประตูอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีก
นับตั้งแต่ย้ายจาก แรนส์ มาอยู่กับ เชลซี เมื่อปี 2004 เช็ก คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ฤดูกาล 2004–05, 2005–06, 2009–10, 2014–15 และยังมีแชมป์เอฟเอคัพ 4 สมัย ฤดูกาล 2006–07, 2008–09, 2009–10, 2011–12, แชมป์ลีกคัพ 3 สมัย ฤดูกาล 2004–05, 2006–07, 2014–15, แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2011-12 และแชมป์ยูโรปาลีก ฤดูกาล 2012-13
จาก 443 เกมพรีเมียร์ลีกที่ลงเฝ้าเสา เช็ก ครองสถิติเก็บคลีนชีตได้มากที่สุด 202 เกม ฤดูกาลที่ดีที่สุดคือ 2004-05 ซีซั่นแรกที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกพร้อมตัวเลขคลีนชีตที่เป็นสถิติ 24 เกมในฤดูกาลเดียว และยังทำผลงานไม่เสียประตูติดต่อกัน 10 เกมด้วย เป็นตัวเลขที่ยากจะหาใครมาทำลายสถิติลงได้ และยังครองตัวเลขการเซฟประตูมากที่สุด 1,005 ครั้ง ก่อนย้ายไปอยู่ อาร์เซน่อล ในปี 2015
1 ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล
แม้ตัวเลขสถิติต่างๆ เป็นรอง ปีเตอร์ เช็ก แต่ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ถูกยกย่องว่าเป็นตำนานผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 1991 คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกร่วมกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน 5 สมัย ฤดูกาล 1992–93, 1993–94, 1995–96, 1996–97, 1998–99 โดยที่ซีซั่นสุดท้ายเป็นการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
หลังจากปิดตำนานในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ชไมเคิ่ล กลับมาลุยพรีเมียร์ลีกอีกครั้งกับ แอสตัน วิลล่า และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงสั้นๆ ทำให้ตลอด 310 เกมพรีเมียร์ลีก 'ยักษ์เดนส์' ทำคลีนชีตไป 128 ครั้ง และยังจารึกชื่อเป็นผู้รักษาประตูคนแรกที่ยิงประตูเกมพรีเมียร์ลีก ตอนสวมชุด แอสตัน วิลล่า ในเกมชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-2 ในปี 2001 ก่อนหน้านั้นกับ ผีแดง เคยมีหนึ่งประตู แต่เป็นเกมยูฟ่าคัพที่ไล่ตีเสมอ โรเตอร์ โวลโกกราด ปี 1995
