"ผมน่าจะไปงานปาร์ตี้ของเด็กๆ แต่ผมตัดสินใจดูเกม แมนฯ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล แทน" ไมเคิ่ล ฟลินน์ แทบไม่อยากเชื่อ หลังพาทีมเล็กๆ จากลีกทูกรุยทางสู่รอบ 5 เอฟเอคัพ
นิวพอร์ท เคาน์ตี้ ทีมอันดับ 14 ลีกทู สโมสรจากเซาธ์เวลส์ ห่างหายจากฟุตบอลลีกอังกฤษไปนานนับตั้งแต่ปี 1988 ก่อนเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกทูในปี 2013 และมีผลงานร่อแร่อยู่สองฤดูกาล 2015-16 และ 2016-17 ที่เกือบตกชั้นกลับสู่นอกลีก หลังจากจบอันดับ 22 (จาก 24 ทีม) ทั้งสองซีซั่น
'ดิ เอ็กไซล์' สร้างชื่อด้วยการล้ม เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมจากพรีเมียร์ลีก ในรอบ 3 เอฟเอคัพ หลังจากซีซั่นก่อนเกือบล้ม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้ แต่โดนตีเสมอท้ายเกม และไปแพ้ในเกมรีเพลย์ที่ เวมบลีย์
อย่างไรก็ตาม ฟลินน์ ต้องปวดหัวกับผลงานของลูกทีมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะผลงานในลีกชนะแค่เกมเดียวจาก 9 นัดหลังสุด ก่อนหวดรีเพลย์กับ มิดเดิลสโบรช์ ในรอบ 4 เอฟเอคัพ
"ผมอยากจะบีบคอลูกทีม และผมก็อยากจะจูบลูกทีมงามๆ สักฟอดด้วย พวกเขาเดี๋ยวก็เล่นแย่ เดี๋ยวก็เล่นดี แต่ที่นี่คืนนี้ ผมคิดว่าพวกเขาสุดยอดมาก พวกเขาไม่เคยหยุดสร้างความประหลาดใจให้ผมเลย" ฟลินน์ เอ่ยทั้งรอยยิ้มบนใบหน้า หลังจาก นิวพอร์ท เคาน์ตี้ เอาชนะ มิดเดิลสโบรช์ ทีมหัวตารางแชมเปี้ยนชิพ 2-0
"ตอนนี้เรามี ซิตี้ เป็นผู้มาเยือน เราเคยมี เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กับ โคล้ด ปูแอล มาเยือนที่นี่แล้ว บรรดายอดผู้จัดการทีมที่น่าทึ่ง แต่ ซิตี้ คือที่สุดของที่สุด เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คือกุนซือระดับปรมาจารย์ เป็นคนที่ผมชื่นชอบมาก"
"ตลกดีนะ ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมน่าจะไปงานปาร์ตี้ของเด็กๆ แต่ผมตัดสินใจดูเกม แมนฯ ซิตี้ กับ อาร์เซน่อล แทน พวกเขาโคตรน่าทึ่งเลย"
ฟลินน์ พูดถึงบิ๊กแมตช์ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อสุดสัปดาห์ ทั้งที่ นิวพอร์ท ยังต้องรอเล่นเกมรีเพลย์กับ เดอะ โบโร่ หลังจากนั้น 2 วัน แต่เขาเชื่อมั่นลึกๆ ว่า สนาม ร็อดนี่ย์ พาเหรด จะได้ต้อนรับยอดทีมระดับโลกที่มีดีกรีเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นก่อนอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรอบ 5 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย เอฟเอคัพ
ในขณะที่ทุกคนในทีม นิวพอร์ท ต่างเฉลิมฉลองชัยชนะเหนือ มิดเดิลสโบรช์ ชนิดไม่อยากกลับบ้าน แต่มีอยู่คนหนึ่งที่มีความสุขแบบสองเด้ง และอยากกลับบ้านให้เร็วที่สุด นั่นคือ โจ เดย์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม
เดย์ ไม่ได้ลงเฝ้าเสาในเกมแรกที่ ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม เช่นเดียวกับเกมลีกทูที่บุกแพ้ กริมสบี้ 0-3 เมื่อวันเสาร์ แต่ได้กลับมาเป็นตัวจริงหลังจากนั้น 3 วัน
ผู้รักษาประตูวัย 28 ปี ที่ลงเล่นให้ นิวพอร์ท มาแล้วเกือบ 200 นัด นับตั้งแต่ย้ายมาเมื่อปี 2015 เหวี่ยงหมัดฉลองชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ หลังสิ้นเสียงนกหวีดยาวจากผู้ตัดสิน เพราะได้รับข่าวดีว่าภรรยาให้กำเนิดลูกแฝดแล้ว
ผลงานในเกมที่ ร็อดนี่ย์ พาเหรด เดย์ แทบไม่ได้ออกแรงเซฟอะไรมากนัก เพราะเกมรุกของผู้มาเยือนจาก แชมเปี้ยนชิพ ห่วยเกินคาด
จึงเป็นแนวรุกที่ทำผลงานสะดุดสุดๆ โดยเฉพาะ เปแดร็ก อามอนด์ กับ ร็อบบี้ วิลม็อตต์ ที่สลับกันยิงและจ่าย
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ วิลม็อตต์ ยังคงเล่นอยู่นอกลีกกับสโมสร เอ็บบ์สฟลีท, อีสต์เลห์, เชล์มสฟอร์ด ลำพังค่าแรงจากการเป็นนักฟุตบอลคงไม่พอกิน จึงต้องรับจ็อบเป็นพนักงานจัดวางสินค้าอยู่ที่เทสโก้ เป็นช่วงเวลา 20 เดือนที่แล้ว ก่อนยิงประตูสำคัญในชีวิตตัวเองเมื่อวันอังคาร
อามอนด์ ก็เป็นอีกคนที่ซัลโวประตูสำคัญได้อีกครั้ง หลังจากยิง สเปอร์ส ที่สนามแห่งนี้ซีซั่นที่แล้ว และยิง เลสเตอร์ ในรอบ 3 ที่ผ่านมา
ถึงตอนนี้ นิวพอร์ท เคาน์ตี้ จะเดินหน้าเข้าสู่รอบ 5 เอฟเอคัพ นอกจากสร้างชื่อยกระดับสโมสรขึ้นไปอีกขั้นแล้ว ยังมีเม็ดเงินมหาศาลราว 1.2 ล้านปอนด์ที่จะเข้ามาพยุงสถานะทางการเงินในช่วงเวลาที่สโมสรกำลังย่ำแย่อยู่พอดี
ไม่สำคัญว่า ผลการแข่งขันในรอบ 5 กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะออกมาเป็นเช่นไร ถึงตอนนี้ลูกทีม นิวพอร์ท ของ ไมเคิ่ล ฟลินน์ ขอสู้หนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของลีกอังกฤษให้ดีที่สุด แค่นั้นพอ
