ว่ากันว่า หากคุณต้องการประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลีกและถ้วยยุโรปพร้อมกันแล้ว คุณอาจต้องทิ้งบอลถ้วย แต่นั่นไม่ใช่ความคิดของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับฤดูกาลที่สามใน แมนเชสเตอร์
จากซีซั่นแรก 2016-17 ที่จบแบบมือเปล่า เป๊ป ลองผิดลองถูกหลายอย่างกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และได้เรียนรู้อะไรมากมาย โดยเฉพาะบางแท็กติกที่ใช้ได้ใน ลาลีกา, บุนเดสลีกา หรือ แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ใช้ไม่ได้ใน พรีเมียร์ลีก
เมื่อทุกอย่างลงตัว เรือใบสีฟ้า ของ เป๊ป ก็ระเบิดฟอร์มในซีซั่นสอง ที่โกยแต้มทิ้งห่างคู่แข่งกระจุยกระจาย คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก พ่วงกับแชมป์คาราบาวคัพ ที่เรียกความเชื่อมั่นให้ทีมตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
แม้ผลงานไร้เทียมทานชนิดที่ยากจะหาใครมาหยุดได้ แต่ ซิตี้ ก็มาสะดุดขาตัวเองตกบันไดในถ้วยเอฟเอคัพ รอบ 5 ที่แพ้ต่อ วีแกน ที่อยู่ในลีกวันตอนนั้น 0-1 ก่อนหน้ารอบชิง คาราบาวคัพ ที่ถล่ม อาร์เซน่อล 3-0 ได้หนึ่งสัปดาห์
และที่เจ็บปวดไปกว่านั้นคือ แชมเปี้ยนส์ลีก ที่จอดป้ายรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยการแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล ทั้งสองนัด สกอร์รวม 1-5 ซึ่งสองเกมที่ แอนฟิลด์ และ เอติฮัด แท็กติกของ เป๊ป เป็นรอง เจอร์เก้น คล็อปป์ แทบจะทุกอย่าง
เริ่มต้นฤดูกาลใหม่ เป๊ป เตรียมพร้อมมากขึ้นกว่าเดิม และเปิดตัวด้วยการชูถาด คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในชัยชนะเหนือ เชลซี 2-0 ก่อนเปิดซีซั่น และในช่วงโปรแกรมชุก โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีกที่กำลังไล่บี้จ่าฝูงกับ ลิเวอร์พูล อย่างสูสี เรือใบสีฟ้า ก็สอยแชมป์แรกรายการเดิม คาราบาวคัพ ในชัยชนะช่วงดวลจุดโทษเหนือ เชลซี
ถึงตอนนี้ เริ่มมีการพูดถึงสี่แชมป์ของ เป๊ป กับ ซิตี้ อีกครั้ง หลังจาก แชมเปี้ยนส์ลีก บุกชนะ ชาลเก้ 3-2 แหย่เท้าเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปแล้วข้างหนึ่ง ขณะที่ เอฟเอคัพ ก็ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปเจอ สวอนซี
"พวกคุณมาถามคำถามนี้กับผมในเดือนเมษายน หรือ พฤษภาคมดีกว่า ถึงตอนนั้นค่อยมาถามผม ผมจะตอบพวกคุณเอง และผมจะไม่โกหกแน่นอน แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพูดถึงเรื่องนั้นในตอนนี้" เป๊ป ตอบคำถามนักข่าวเรื่องประเด็น 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้
ก่อนหน้าเกมเยือน ชาลเก้ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางคนสำคัญของ ซิตี้ ก็เจอคำถามแบบเดียวกันนี้ไปแล้วในห้องแถลงข่าวก่อนเกมแชมเปี้ยนส์ลีก
"ผมคิดว่าเป้าหมายไม่ใช่การคว้าแชมป์ทั้ง 4 รายการ แต่เป้าหมายของเราคือการเอาชนะในทุกๆ เกม และก้าวต่อไปข้างหน้าเรื่อยๆ คุณต้องการเอาชนะในเกมต่อๆ ไป คุณไม่อาจพูดว่าเรากำลังเริ่มต้นสู่การคว้า 4 แชมป์แล้ว"
"เราต้องการก้าวเข้าสู่รอบควอเตอร์ไฟนอล และเข้าใกล้แชมป์ให้มากขึ้น แต่การคว้าแชมป์ทั้ง 4 รายการเป็นการตั้งมาตรฐานที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย"
"อย่างแรกเลย ระดับของเกมแชมเปี้ยนส์ลีกสูงขึ้นกว่าพรีเมียร์ลีก นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมต้องใช้ทีมที่ดีที่สุดเท่านั้นลงสนาม"
"อย่างที่สอง มันไม่สำคัญว่าคุณแพ้ไปมากแค่ไหน แต่คุณต้องการชนะให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สุดท้ายแล้วมันเป็นเรื่องของการคว้าแชมป์ และพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด"
เมื่อถูกถามว่า ให้เปรียบเทียบทีมชุดนี้กับทีมชุดสองแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เดอ บรอยน์ ตอบว่า "ผมคิดว่ามันก็ยังคงเหมือนเดิม ในลีกเราแพ้มากขึ้น แต่เรายังคงต่อสู้ทุกๆ ด้าน"
"ผมคิดว่าทีมอื่นๆ คงหาทางออกกับผลงานของเราที่ดีขึ้น หลายทีมแข็งแกร่งขึ้น ขณะที่เราเพิ่มนักเตะเข้ามาแค่คนเดียว (ริยาด มาห์เรซ)"
"แนวทางที่เราเล่นก็ยังเป็นแนวทางของ เป๊ป เหมือนเดิม เราไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไร เราโกยแต้มได้เยอะ และยังคงตั้งมาตรฐานเอาไว้สูง บางทีอาจไม่เหมือนกับปีที่แล้ว แต่บางทีเราอาจจะได้แชมป์มากขึ้นก็ได้ ถ้าเราได้สามแชมป์ ก็ถือว่ามีผลงานดีขึ้นกว่าปีก่อนแล้ว"
"การคว้าแชมป์ลีกคือสิ่งสำคัญที่สุด แต่เราก็จะทำในสิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมด้วย เรามีแนวทางหนักสำหรับสิ่งที่เราทำเสมอ แต่เราก็พยายามปรับตัวอยู่ตลอดเวลาด้วย บางครั้งในเกมมีความยากลำบากมากขึ้น เราก็ต้องพยายามเอาชนะด้วยวิธีอื่น"
"เราต้องการเอาชนะให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่จะไม่คิดถึงเรื่อง 4 แชมป์ ถ้าเราคว้า 3 แชมป์ได้แล้ว และรอเล่นรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก ถึงตอนนั้นเราอาจพูดถึงเรื่องนั้น แต่ตอนนี้นะเหรอ ไม่มีทาง" เดอ บรอยน์ ให้สัมภาษณ์หมดเปลือก
และนั่นคือสิ่งที่ เป๊ป ต้องการปลูกฝังลูกทีม เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุซ้ำรอย ตกรอบ เอฟเอ คัพ และ แชมเปี้ยนส์ลีก เหมือนฤดูกาลก่อน
"เควิน พูดได้ดีมากในห้องแถลงข่าวที่เยอรมนี"
"เป้าหมายต่อไปของเราก็คือเกมต่อไป เชื่อผมสิ มีกี่ครั้งที่ทีมอังกฤษคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียว? อย่ามาโยนความกดดันใส่เรา เราไม่ควรต้องเจอเรื่องนั้น"
"ความสำเร็จของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก แต่เขาก็ไม่เคยทำได้มาก่อน ลิเวอร์พูล ก็เช่นกัน ทุกครั้งที่คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ พวกเขาก็ไม่เคยทำได้"
"ดังนั้น อย่ามาโยนความกดดันให้ทีมๆ หนึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ หรือพฤศจิกายน, ธันวาคม คุณต้องคว้าแชมป์ทั้ง 4 รายการ มันเป็นไปไม่ได้หรอก"
"ในเดือนพฤษภาคม เราจะได้เห็นกัน และถ้ามันไม่เกิดขึ้น หลังจากนั้นคุณคงบอกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ล้มเหลว เพราะพวกเขาคว้า 4 แชมป์ไม่ได้ หรือ 3 แชมป์ที่เคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในประเทศนี้"
"นั่นคงไม่ยุติธรรมกับเราสักเท่าไหร่ เราจะพยายามเอาชนะเกมต่อไปไปเรื่อยๆ และหลังจากนั้นในเดือนเมษายน พฤษภาคม เราจะมาดูกันว่าเราจะยืนอยู่ตรงจุดไหน"