อดีตแก๊งเพื่อน'ป็อก'

'บัสบี้ เบ๊บส์' คือจุดเริ่มต้นของการสร้างนักเตะเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงทศวรรษที่ 1950 ที่คว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ 5 ปีติดต่อกัน และที่สร้างชื่อโดดเด่นที่สุดมาจนถึงปัจจุบันก็คือ 'คลาส ออฟ 92' ที่ปลุกปั้น ไรอัน กิ๊กส์, เดวิด เบ๊คแฮม, พอล สโคลส์, นิคกี้ บัตต์, แกรี่ เนวิลล์ ป้อนทีมชุดใหญ่

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เชลซี คือทีมที่ประสบความสำเร็จในการปลุกปั้นดาวรุ่งเป็นอย่างมาก จากการคว้าแชมป์รายการนี้ 5 ปีติดต่อกัน (2014-2018) ก่อนจะเป็น ลิเวอร์พูล ที่คว้าแชมป์ซีซั่นที่แล้ว ขณะที่แชมป์ครั้งสุดท้ายของ ปีศาจแดง ต้องย้อนกลับไปในปี 2011

ทีมชุดนั้นประกอบด้วยดาวดังอย่าง ปอล ป็อกบา, เจสซี่ ลินการ์ด, วิลล์ คีน และที่เป็นดาวเด่นที่สุดในทีมคือ เรเวล มอร์ริสัน ที่ในวัยเด็ก หมอนี่ได้รับการยกย่องว่าเก่งกว่า ไรอัน กิ๊กส์ หรือ เดวิด เบ๊คแฮม เสียอีก

และจากทีมตัวจริงในรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ ยูธ คัพ ปี 2011 นอกจาก ป็อกบา ที่ครั้งหนึ่งเคยครองสถิตินักเตะค่าตัวแพงสุดในโลก กับ ลินการ์ด ที่อยู่ในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบันแล้ว มีนักเตะคนใดไปทำอะไรอยู่ที่ไหนกันบ้าง?

จากความสำเร็จในชุดเล็กเมื่อช่วงเวลานั้น จอห์นสตัน ถูกผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ พร้อมกับปล่อยยืมไปหลายสโมสรทั้ง โอลด์แฮม, สคันธอร์ป, วอลซอลล์, โยวิล, ดอนคาสเตอร์, เปรสตัน มาจนถึง แอสตัน วิลล่า สุดท้าย ปีศาจแดง ก็ต้องยอมคายทิ้งในวัย 26 ปีไปให้ เวสต์บรอมวิช แบบถาวรเมื่อปีที่แล้ว ชนิดที่ไม่เคยลงเฝ้าเสาให้ทีมชุดใหญ่ เร้ด เดวิลส์ เลยแม้แต่นาทีเดียวไม่ว่าจะรายการใดก็ตาม

สมัยก้าวขึ้นมาใหม่ๆ คีน เล่นได้ทั้งแบ็กขวาและเซนเตอร์แบ็ก ได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่จาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน 3 นัด แต่ไม่ได้รับโอกาสในยุค เดวิด มอยส์ ก่อนได้เล่นอีกทีในช่วงเวลาของ หลุยส์ ฟาน กัล และนั่นก็คือซีซั่นสุดท้ายก่อนขายขาดให้ เบิร์นลี่ย์ จนก้าวขึ้นติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ แม้มีข่าวว่า ปีศาจแดง ต้องการใช้เงื่อนไขซื้อกลับ แต่สุดท้ายก็ย้ายไป เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัวมหาศาล 30 ล้านปอนด์

เซนเตอร์แบ็กเจ้าของส่วนสูง 196 เซนติเมตร ถูกดึงตัวมาจาก ชาร์ลตัน และปลุกปั้นต่อในทีมเยาวชนของ แมนฯ ยูไนเต็ด จนคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ แต่โอกาสในทีมชุดใหญ่ก็ยังคงเหมือนกับอีกหลายคน จนกระทั่งปี 2013 ก็ขายขาดไปให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แต่ดูเหมือนยิ่งเล่นยิ่งแย่ ย้ายไป รอชเดล, อัลเดอร์ช็อต, ทอร์คีย์ จนปัจจุบันอยู่กับ พาร์ทิค ธิสเทิล ในลีกรองสกอตแลนด์

กัปตันทีมชุดแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ ทำท่าว่าจะมีอนาคตที่ดีรออยู่ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่กว่าจะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ ก็ปาเข้าไปปี 2014 และได้โอกาสลงเล่นไปเกมเดียวในยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล ก่อนขายให้ ร็อทเธอร์แฮม ในปีต่อมา ปัจจุบันอนาคตของ ธอร์ป กำลังริบหรี่ลงเรื่อยๆ หลังจากย้ายไปเล่นกับ เอทีเค ในอินเดีย และไร้สังกัดมาตั้งแต่ออกจากดินแดนโรตีเมื่อปีที่แล้ว

แมนฯ ยูไนเต็ด ดึงเซนเตอร์แบ็ก (เล่นแบ็กซ้ายได้ด้วย) มาปลุกปั้นจาก ฟิออเรนตินา แต่ไม่มีโอกาสก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ปีศาจแดง เลยแม้แต่ครั้งเดียว สุดท้ายก็ต้องปล่อยไปให้ ซามพ์โดเรีย ในปี 2013 และไปอยู่ เปสคาร่า ในอีกสองปีต่อมา ปัจจุบันฟอร์มของกองหลังวัยเบญจเพศตกลงไปเยอะมาก จนถูกปล่อยยืมไปอยู่กับ เวเนเซีย ในเซเรียบี แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ

มิดฟิลด์ตัวรับชุดแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ และในปีนั้น ทันนิคลิฟฟ์ ก็คว้ารางวัล 'จิมมี่ เมอร์ฟี่ ยัง เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์' หรือนักเตะดาวรุ่งแห่งปีของสโมสร แต่โอกาสในทีมชุดใหญ่เป็นไปได้ยาก เพราะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาเป็น เดวิด มอยส์ สุดท้ายก็ต้องปล่อยขาดไปให้ ฟูแล่ม ก่อนย้ายไป มิลล์วอลล์ และล่าสุดเพิ่งย้ายไป ลูตัน ทาวน์ น้องใหม่แชมเปี้ยนชิพ

ครั้งหนึ่ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยคิดว่า มอร์ริสัน คือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดที่เคยเห็นฝีเท้าในช่วงวัยนั้น และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เร็วกว่าเพื่อนร่วมทีมรุ่นนั้นตั้งแต่ปี 2010 อย่างไรก็ตาม หลังจากลงเล่นถ้วยลีกคัพไป 3 นัดใน 2 ฤดูกาล ก็เก็บข้าวของย้ายทีมหลังหมดสัญญาในอีกสองปีต่อมา ซึ่งภายหลังมีการเปิดเผยว่าเป็นเพราะพฤติกรรมของนักเตะทั้งในและนอกสนามจนทำให้ช่วงอาชีพค้าแข้งตกต่ำลงเรื่อยๆ หลังจากพเนจรไปเล่นในลีกอิตาลี, เม็กซิโก, สวีเดน ในที่สุดก็กลับคืนสังเวียนพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง โดย เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด พร้อมเสี่ยงเดิมพันด้วยสัญญา 12 เดือน

แมนฯ ยูไนเต็ด วาดฝันว่า ฟาน เฟลเซ่น จะกลายเป็นดาวรุ่งอนาคตไกลตอนดึงตัวมาจาก อาแจ็กซ์ เพื่อปลุกปั้นต่อในทีมเยาวชน และมีโอกาสอยู่ในทีมชุดใหญ่เล็กน้อยในซีซั่นสุดท้ายของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่หลังจากนั้นก็ปล่อยปีกชาวดัตช์กลับ ฮอลแลนด์ ไปอยู่กับ อูเทร็คท์, โฟเลนดัม และ โรดา เจซี กลายเป็นอีกคนที่ไม่เคยลงเล่นในทีมชุดใหญ่ ปีศาจแดง เลย

ฝาแฝดของ ไมเคิ่ล คีน (ด้านบน) ถูกจับตามองตอนฝึกปรือฟุตบอลอยู่กับ เซาธ์ แมนเชสเตอร์ จูเนียร์ส และเข้าสู่อาเคเดมี่ของ ปีศาจแดง พร้อมกันตอนอายุ 11 ขวบ วิลล์ ยิงกระจายในทีมเยาวชนหลายต่อหลายรุ่น และคว้ารางวัล 'จิมมี่ เมอร์ฟี่ ยัง เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์' หรือนักเตะดาวรุ่งแห่งปีของสโมสรในปี 2010 และยิงกระจายในทีมชุดแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ ปี 2011 กดไป 8 ประตูจาก 6 เกม น่าเสียดายที่ได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่เพียง 3 เกมเท่านั้น และถูกปล่อยไป ฮัลล์ แต่ก็พิสูจน์ตัวเองไม่ได้ในลีกแชมเปี้ยนชิพ