ผ่านสองเกมแรก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-20 ความสนใจยังคงพุ่งเป้าไปที่ 'วีเออาร์' ที่ยังใหม่สำหรับฟุตบอลอังกฤษ แต่ก็มีอีกหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจไม่น้อย
ดาวซัลโว 29 ประตูจากแชมเปี้ยนชิพซีซั่นก่อน ทีมู พุกกี้ ยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่อง แม้ยกระดับตัวเองขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก และ 4 ประตูจาก 2 เกมแรก ก็ทำให้ศูนย์หน้าฟินแลนด์ถีบตัวเองขึ้นเป็นผู้นำดาวยิงฟุตบอลลีกอังกฤษ เมื่อรวมจำนวนประตูจากซีซั่นก่อนด้วย
หนึ่งประตูที่ยิงอย่างเฉียบคมที่ แอนฟิลด์ บวกกับแฮตทริกที่ซัลโวใส่ นิวคาสเซิ่ล ต่อหน้าแฟนบอลในรัง แคร์โรว์ โร้ด ทำให้ชื่อของ พุกกี้ กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ยิง 4 ประตูจากการสัมผัสเกมพรีเมียร์ลีกเพียงสองนัดแรก
และ 4 ประตูซีซั่นนี้ บวกกับ 29 ประตูจากซีซั่นก่อน ทำให้ พุกกี้ กระโดดแซงขึ้นไปเป็นผู้นำดาวซัลโวฟุตบอลลีกอังกฤษทั้ง 4 ดิวิชั่น เมื่อรวมกับประตูในฤดูกาล 2018-19 แซงหน้า เจมส์ นอร์วูด ที่ยิง 31 ประตูตั้งแต่อยู่ ทรานเมียร์ โรเวอร์ส (29 ประตู) และทีมใหม่ อิปสวิช ทาวน์ (2 ประตู)
อันดับสามมีด้วยกันสามคน แทมมี่ อาบราฮัม ศูนย์หน้าที่เล่นกับ แอสตัน วิลล่า ซีซั่นก่อน และ เชลซี ซีซั่นนี้, นีล โมเปย์ กองหน้าที่เล่นกับ เบรนท์ฟอร์ด ซีซั่นก่อน และ ไบรท์ตัน ซีซั่นนี้ อีกคนคือ เจมส์ คอลลินส์ ศูนย์หน้าของ ลูตัน ทาวน์ ยิงเท่ากัน 26 ประตู
"ช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ เมื่อคิดว่าเขาย้ายมาแบบฟรีๆ ยิงไป 29 ประตูซีซั่นที่แล้วแบบไม่มีจุดโทษเลย นั่นคือสิ่งที่บ่งบอกทุกอย่างแล้ว คุณใฝ่ฝันที่จะก้าวขึ้นมาและมองดูตัวเองในรายการ 'แมทช์ ออฟ เดอะ เดย์' และนี่คือช่วงเวลาของเขาแล้ว" แดนนี่ เมอร์ฟี่ อดีตกองกลาง ลิเวอร์พูล ที่ปัจจุบันทำหน้าที่กูรูฟุตบอลทางช่อง บีบีซี
ก่อนย้ายมาอยู่กับ นอริช พุกกี้ ถือเป็นกองหน้าที่ไม่ประสบความสำเร็จกับหลายสโมสรในลีกใหญ่ อย่าง เซบีย่า ฤดูกาล 2008-09, ชาลเก้ ฤดูกาล 2011-12 และ 2012-13 แม้กระทั่งการเล่นกับ เซลติก ยังยิงไปจุ๋มจิ๋มเพียง 9 ประตูจาก 37 เกมรวมทุกรายการในช่วงเวลาปีเศษๆ
และการปล่อยตัวของ บรอนด์บี้ ทีมเดนมาร์ก จึงถือเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพราะนอกจากจะระเบิดฟอร์มเก่งกับ นอริช แล้ว ยังเป็นการชุบชีวิตใหม่ในทีมชาติฟินแลนด์ด้วย ซัลโวไป 8 ประตูจาก 12 เกมตั้งแต่ปีที่แล้วเป็นต้นมา ทั้งที่ก่อนหน้านั้นระหว่างปี 2009-2017 ลงเล่นมากถึง 62 นัด ยิงไปเพียง 10 ประตู
เพชรฆาตในเขตโทษ 'ชิชารีโต้'
ประตูแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ของ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ 'ชิชารีโต้' เกิดขึ้นในเกมที่ เวสต์แฮม บุกเสมอ ไบรท์ตัน 1-1 เป็นประตูที่ดาวยิงเม็กซิกันซัลโวในกรอบโทษเหมือนเช่นเคย
นี่คือประตูที่ 53 ในพรีเมียร์ลีก รวมตั้งแต่ตอน 'ชิชารีโต้' ยังค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดย 37 ประตูกับ ปีศาจแดง และ 16 ประตูกับ ขุนค้อน เกิดขึ้นในกรอบเขตโทษ 18 หลาแบบ 100 เปอร์เซนต์
แต่นั่นก็ยังไม่ใช่สถิติทำประตูในกรอบเขตโทษมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก เพราะเจ้าของสถิติคือ ทิม เคฮิลล์ อดีตกองกลางจอมถล่มประตูของ เอฟเวอร์ตัน ที่ทำเอาไว้ 56 ประตู เหลืออีกเพียง 3 ประตู 'ชิชารีโต้' ก็จะยิงทาบสถิติ และเชื่อว่าจะทำได้ภายในฤดูกาลนี้
อันดับ 3 กับ 4 ถือว่าเซอร์ไพรส์ทีเดียว เพราะเป็นกองหลัง จอห์น เทอร์รี่ อดีตกัปตันทีม เชลซี ทำไป 41 ประตูในพรีเมียร์ลีก และเป็น 41 ประตูในเขตโทษล้วน ตามด้วย เดวิด อันสเวิร์ธ อดีตกองหลัง เอฟเวอร์ตัน, เวสต์แฮม, พอร์ทสมัธ, วีแกน 38 ประตู
นอกจาก 'ชิชารีโต้' ที่ยังคงค้าแข้งอยู่ในปัจจุบัน รองๆ ลงมาต่างเลิกเล่นกันไปหมดแล้ว (เควิน ดอยล์ 37 ประตู, เอียน ดาววี่ กับ แอชลี่ย์ วอร์ด 33 ประตู, คาร์ล คอร์ท 28 ประตู) แต่ยังมีอีกคน กาเบรียล เชซุส กองหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยิงไป 28 ประตูในพรีเมียร์ลีก และทั้งหมดเกิดขึ้นในกรอบเขตโทษล้วนๆ
มูร่า สัมผัสแรกเป็นประตู
สัปดาห์เปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก โฟลริน อันโดเน่ กองหน้าตัวสำรองของ ไบรท์ตัน ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแล้วใช้เวลา 62 วินาที ทำประตูที่สองให้ทีมในชัยชนะ 3-0 ที่บ้าน วัตฟอร์ด แต่สถิติดังกล่าวถูกทำลายลงในหนึ่งสัปดาห์ถัดมา
เกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ลูคัส มูร่า ถูก เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ส่งลงสนามแทน แฮร์รี่ วิงส์ ในนาที 56 และใช้เวลาวิ่งจู้ดไปโหม่งลูกเตะมุม เพียงสัมผัสแรกเป็นประตูในเวลาเพียง 19 วินาที กลายเป็นสถิติของฤดูกาลนี้ตั้งแต่สัปดาห์ที่สอง
หากคิดว่านี่คือการลงสนามแล้วทำประตูเร็วที่สุด คำตอบคือเป็นเพียงอันดับ 7 เท่านั้น จากการบันทึกสถิติในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา
เจ้าของสถิติลงสนามแล้วทำประตูเร็วที่สุดเป็นของ แซมมี่ อาเมโอบี้ ตอนเล่นอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล ใช้เวลาเพียง 8 วินาทีเท่านั้น
อันดับสองเป็นของ อองตวน ซีเบียร์สกี้ อดีตกองหน้า วีแกน 15 วินาที
อันดับสามร่วม มีสองคน แอนดรูว์ จอห์นสัน ตอนเล่นกับ ฟูแล่ม และ เคราร์ด เดวโลเฟว ของ วัตฟอร์ด 17 วินาที
อันดับห้าร่วม มีสองคนเช่นกัน ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ ตอนเล่นกับ แบล็คเบิร์น และ อพอสโตลอส เวลลิออส อดีตดาวรุ่ง เอฟเวอร์ตัน 18 วินาที
จากนั้นถึงเป็นอันดับเจ็ดร่วม มูร่า ใช้เวลา 19 วินาที เท่ากับ อ็องเดร บิเคย์ อดีตกองหลัง เร้ดดิ้ง และ สเตลิออส จานนาโคปูลอส อดีตปีก โบลตัน
อันที่จริงยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าสนใจ ทั้งที่เพิ่งผ่านไปเพียงสองสัปดาห์แรกของพรีเมียร์ลีกเท่านั้น ถือเป็นการเรียกน้ำย่อยสำหรับฤดูกาลใหม่ 2019-20
