ชัยชนะ 7-2 ของ บาเยิร์น มิวนิค เหนือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กลายเป็นผลการแข่งขันมโหฬารในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่นี่ยังไม่ใช่สถิติของรายการนี้
เกมที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม สร้างความอับอายให้กับแฟนบอล สเปอร์ส เพราะเป็นสถิติใหม่ที่้เลวร้าย เสีย 7 ประตูในบ้านครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรเมื่อ 137 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งยังใช้สนามเก่า ไวท์ ฮาร์ท เลน และยังเป็นความปราชัยในสกอร์ที่เยอะที่สุดเป็นสถิติใหม่ของทีมจากอังกฤษในถ้วยยุโรปรวมทุกรายการ
หากคิดว่า 9 ประตูที่ ลอนดอน เมื่อคืนวันอังคารที่ 1 ตุลาคม เป็นสถิติยิงประตูเยอะสุดในถ้วยใหญ่ของฟุตบอลยุโรปแล้ว คำตอบคือ...ผิด
เพราะสถิติดังกล่าวอยู่เกมที่ เฟเยนูร์ด ชนะ เคอาร์ เรคยาวิค 12-2 รอบแรก ยูโรเปี้ยนคัพ ซีซั่น 1969-70
แต่ถ้านับเฉพาะเมื่อเข้าสู่ยุค ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้ว สกอร์ 7-2 ที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม เป็นเพียงอันดับสามร่วมเท่านั้น
โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) 7 - แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมนี) 2
รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2004-05
นี่อาจจะเป็น ลียง ชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร และเกมแชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง ที่เปิดบ้านถล่ม แวร์เดอร์ เบรเมน 7-2 คือหนึ่งในเกมที่อยู่ในความทรงจำไปตลอดกาล
ซิลแว็ง วิลตอร์ ตะบันแฮตทริก, สองประตูจาก ไมเคิ่ล เอสเซียง และหนึ่งประตูจาก ฟลอร็องต์ มาลูด้า และจุดโทษของ เฌเรมี่ แบร์กโตด์ คือ 7 ประตูจากฝั่ง ลียง บวกกับอีก 2 ประตูฝั่ง เบรเมน จาก โยอัน มีกูด์ และจุดโทษของ วาเลเรียง อิสมาแอล กลายเป็น 9 ประตูที่เกิดขึ้นที่ สต๊าด เดอ แชร์กล็องด์ พร้อมส่งทีมดังลีกเอิงเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยสกอร์รวมถึง 10-2
ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง (ฝรั่งเศส) 7 - โรเซนบอร์ก (นอร์เวย์) 2
รอบแบ่งกลุ่ม รอบแรก ฤดูกาล 2000-01
9 ประตูที่ ปาร์ก เดส์ แปร็งซ์ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ปี 2000 กลายเป็นสถิติยิงประตูมากที่สุดในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในช่วงเวลานั้น และส่ง ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม รอบสอง
6 ประตูในครึ่งแรกเป็นของ เปแอสเช 4 ประตูจาก เฟรเดริก เดอู, คริสเตียน, นิโกล่าส์ อเนลก้า, ปีเตอร์ ลุกแซ็ง และฝั่ง โรเซนบอร์ก ได้จาก คริสเตอร์ จอร์จ คนเดียวทั้งสองประตู รวมกับอีกสามประตูในครึ่งหลังจาก เฌอโรม เลอรัว, จุดโทษของ โลร็องต์ โรแบร์ และประตูปิดท้าย 7-2 ที่ทำให้กลายเป็นสถิติใหม่จาก อเนลก้า
โมนาโก (ฝรั่งเศส) 8 - เดปอร์ตีโบ ลา กอรุนญ่า (สเปน) 3
รอบแบ่งกลุ่ม รอบแรก ฤดูกาล 2003-04
สถิติยิงประตูสูงสุด 9 ประตูในเกมระหว่าง เปแอสเช กับ โรเซนบอร์ก ถูกทำลายลงในอีกสามปีต่อมา แต่สถิติครั้งใหม่ก็ยังเกิดขึ้นในสนามของทีมลีกเอิง ฝรั่งเศส
เกมที่ สต๊าด หลุยส์ เดอซ์ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี นัดที่สี่ มี 7 ประตูตั้งแต่ครึ่งแรก ในสกอร์ 5-2 บวกกับอีก 4 ประตูในครึ่งหลัง ทำให้สกอร์ไปจบที่ชัยชนะของ โมนาโก เหนือ เดปอร์ตีโบ ลา กอรุนญ่า 8-3 ซึ่งมาจาก 4 ประตูของ ดาโด้ เปอร์โซ่ ที่เหลือจาก เฌอโรม โรเตน, ลูโดวิก ชูลี่, ยาโรสลาฟ พลาซิล, เอดูอาร์ ซิสเซ่ ส่วนผู้มาเยือนจากสเปนมีประตูจาก ดีเอโก้ ตริสตัน 2 ประตู และ ลีโอเนล สกาโลนี่
และนี่คือหนึ่งในทีมชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ โมนาโก ที่ไปถึงรอบชิงชนะเลิศในฤดูกาลนั้น
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี) 8 - ลีเกีย วอร์ซอว์ (โปแลนด์) 4
รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2016-17
ผ่านไป 13 ปีสถิติยิงประตูเยอะสุดที่ สต๊าด หลุยส์ เดอซ์ ก็ถูกทำลายลงในเกมที่ ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค
8 ประตูฝั่ง ดอร์ทมุนด์ จาก ชินจิ คางาวะ (2 ประตู), นูริ ซาฮิน, อุสมาน เดมเบเล่, มาร์โก รอยส์ (2 ประตู), เฟลิกซ์ พาสลัค และ ยาคุบ เรซนิชัค ยิงประตูตัวเองในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ส่วนฝั่ง ลีเกีย มี 4 ประตูจาก อเล็กซานดาร์ พริโยวิช (2 ประตู), มิชาล คูชาร์ชิค และ เนมานย่า นิโคลิช
นอกจากสถิติยิงเยอะสุดในแชมเปี้ยนส์ลีกแล้ว ยังเป็นเกมแรกที่มี 5 ประตูเกิดขึ้นตั้งแต่ 25 นาทีแรกของเกม ก่อนจบครึ่งแรกที่ 7 ประตูเหมือนเกมระหว่าง โมนาโก กับ เดปอร์ตีโบ และเกมนี้ยังมีคนยิงประตูมากถึง 9 คนเป็นอีกหนึ่งสถิติด้วย