ขึ้นชื่อว่า โชเซ่ มูรินโญ่ เล็กๆ 'ไม่' ใหญ่ๆ 'ทำ' อยู่แล้ว เพราะนับตั้งแต่ก้าวเท้าออกจาก ปอร์โต้ แต่ละทีมที่ไปคุมนั้น ล้วนมีศักยภาพทางการเงินแทบทั้งสิ้น
15 ล้านปอนด์ต่อปี คือตัวเลขที่บรรดาสื่ออังกฤษคาดการณ์ว่า มูรินโญ่ จะได้รับในสัญญาที่เซ็นกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จนจบฤดูกาล 2022-23
และนั่นทำให้โค้ชฝีปากกล้าชาวโปรตุกีส กลายเป็นกุนซือที่รับค่าจ้างสูงที่สุดเป็นอันดับสองในวงการฟุตบอล รองจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คนเดียว
แน่นอน ท็อตแน่ม มีความเสี่ยงสูงกับการตัดสินใจของประธาน แดเนียล เลวี่ เพราะต้องยอมรับความจริงว่าสถานะทางการเงินของ ไก่เดือยทอง ยังไม่ได้ทัดเทียมในระดับเดียวกับสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์
ขณะเดียวกัน มูรินโญ่ ก็ได้ชื่อว่าเคยล้มเหลวที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาก่อน
กลับกัน มูรินโญ่ ก็มีความเสี่ยงไม่น้อย เพราะหากเทียบชื่อชั้นบรรดาทีมที่เคยคุมก่อนหน้านี้ ท็อตแน่ม เป็นรองทีมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เชลซี, อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แล้วอะไรที่ทำให้ เลวี่ เลือก มูรินโญ่?
ความสำเร็จ
จากการคุมทีมในพรีเมียร์ลีกสามช่วงเวลา (เชลซี 2 ครั้ง และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) มูรินโญ่ มีผลงานเก็บคะแนนในพรีเมียร์ลีกดีที่สุดเป็นอันดับ 5 (วัดจากผลงานของผู้จัดการทีมที่คุมทีม 50 เกมขึ้นไป)
มูรินโญ่ มีค่าเฉลี่ย 2.10 คะแนนต่อเกม เป็นรองแค่ เจอร์เก้น คล็อปป์ 2.12 คะแนนต่อเกม, อันโตนิโอ คอนเต้ 2.14 คะแนนต่อเกม, เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน 2.16 คะแนนต่อเกม, เป๊ป กวาร์ดิโอล่า 2.39 คะแนนต่อเกม
แต่หากนับเฉพาะช่วงเวลาที่ มูรินโญ่ คุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัวเลขหล่นลงมาอยู่ที่ 1.89 คะแนนต่อเกม และดันไปเท่ากับ โปเช็ตติโน่ ในช่วงเวลาที่คุม ท็อตแน่ม พอดีอีก
ทันทีที่ มูรินโญ่ กลับมารับงานคุมทีมอีกครั้งในรอบ 11 เดือน ประเด็นแรกที่บรรดาสื่อต่างๆ พุ่งเป้าไปก็คือเรื่องเสริมทัพ โดยที่ตลาดซื้อขายกลางฤดูกาลกำลังจะเปิดฉากขึ้นในอีกหนึ่งเดือนเศษๆ
ก่อนหน้านี้ ท็อตแน่ม เคยมีประเด็นการเสริมทัพในฤดูกาล 2018-19 ที่ไม่มีการใช้เงินซื้อนักเตะใหม่ให้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือคนก่อนเลยแม้แต่คนเดียว
จนถูกโยงไปเรื่องที่ เลวี่ ลงทุนมหาศาลไปกับการสร้างสนามแห่งใหม่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่ใช้งบประมาณในการสร้างทะลุหลัก 1,000 ล้านปอนด์ รวมถึงศูนย์ฝึกซ้อมที่ เอ็นฟิลด์ ด้วย
แต่ เลวี่ ก็ปฏิเสธเหตุผลนี้มาโดยตลอด และยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ด้วยการจ่ายไปเฉียดๆ 100 ล้านปอนด์ในการซื้อ ตองกีย์ เอ็นดงเบเล่, ไรอัน เซสเซยง และยืม โจวานี่ โล เซลโซ่ ในซีซั่นถัดมา
ครั้งหนึ่ง โปเช็ตติโน่ เคยตัดพ้อผ่านสื่อว่า อย่ามาถามอะไรเขา เรื่องการเสริมทัพของสโมสร เพราะเขาไม่มีอำนาจอะไรอยู่ในมือ และไม่ทราบการตัดสินใจของ เลวี่ นั่นจึงเป็นจุดหนึ่งที่สร้างรอยร้าวให้เกิดขึ้น
ไม่ต่างอะไรจาก มูรินโญ่ ที่เคยตั้งข้อสงสัยในการเสริมทัพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เช่นกัน และในช่วงที่ว่างงานอยู่ ก็เคยให้สัมภาษณ์ในทำนองที่ว่า ตนเองถูกบีบให้ต้องซื้อ เฟร็ด ดีกว่าไม่ได้ใครเลย
ถึงกระนั้น ในวันที่ ท็อตแน่ม เปิดตัว มูรินโญ่ เป็นเฮดโค้ชคนใหม่ แหล่งข่าววงในระบุว่า กุนซือชาวโปรตุกีสยังไม่ต้องการเสริมทัพหนักๆ ซื้อดาวดังมาสร้างทีมใหม่ในช่วงตลาดซื้อขายวินเทอร์
เหตุผลคือ ต้องการจัดการเคลียร์ปัญหาภายในสโมสรเสียก่อน และมองว่าศักยภาพและตัวเลือกของทีมที่มีอยู่ ก็มากและแข็งแกร่งพอที่จะสู้ต่อไปจนจบฤดูกาล 2019-20
และหนึ่งในปัญหาที่รอให้ มูรินโญ่ เข้ามาจัดการอยู่ก็คือเรื่องสัญญาใหม่ของ คริสเตียน เอริคเซ่น, โทบี้ อัลเดอร์แวเรลด์, ยาน แฟร์ทองเก้น เป็นต้น
ถึงตอนนี้ มูรินโญ่ จะต้องเริ่มต้นคุยกับ เอริคเซ่น เป็นอย่างแรกก่อน หากกองกลางทีมชาติเดนมาร์กยังยืนยันคำตอบเดิม เหมือนช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก็ต้องปล่อยให้สโมสรดำเนินการขายในช่วงตลาดปีใหม่
แต่หากโน้มน้าวให้ เอริคเซ่น เปลี่ยนใจได้ สิ่งที่สโมสรต้องทำคือการเสนอสัญญาใหม่ และสิ่งที่ มูรินโญ่ ต้องทำคือการปลุกฟอร์มเก่งของนักเตะให้กลับมาให้ได้โดยเร็ว
อีกคนที่เชื่อว่า มูรินโญ่ อยากให้อยู่ในถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ต่อไป นั่นก็คือ อัลเดอร์แวเรลด์ เพราะเซนเตอร์แบ็กรายนี้คือหนึ่งในตัวเลือกที่ 'มู' อยากดึงตัวไปร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซีซั่นก่อน
นั่นคือประเด็นแรกๆ ที่ มูรินโญ่ จะต้องทำ ควบคู่ไปกับผลการแข่งขัน ที่ก่อนหน้านี้ โปเช็ตติโน่ ทิ้งผลงานชนะเพียง 29.41 เปอร์เซนต์เอาไว้ จากการลงเล่น 17 เกมรวมทุกรายการในซีซั่นนี้
เชื่อว่าในช่วงตลาดเดือนมกราคม เลวี่ คงต้องจัดศูนย์หน้าป้ายแดงสักคนมาเป็นตัวเลือกให้ มูรินโญ่ ได้ใช้งานในช่วงครึ่งซีซั่นหลังด้วย ในฐานะแบ็กอัพของ แฮร์รี่ เคน
เพราะตอนนี้ทีมมีเพียง เคน เป็นศูนย์หน้าตัวเป้าคนเดียว หลังจากปล่อยตัว เฟร์นานโด ยอเรนเต้ กับ วินเซนต์ ยานส์เซ่น ออกไปเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา
และเมื่อประคองสถานการณ์จบซีซั่นนี้ให้ดีที่สุดแล้ว มูรินโญ่ คงได้จัดหนักในตลาดซื้อขายซัมเมอร์ เพื่อสร้างทีมของตัวเองสำหรับฤดูกาลแรกแบบเต็มตัว 2020-21
จากนี้ไปมีเวลาอีกราวๆ 6-7 เดือน เลวี่ เตรียมงบประมาณให้ มูรินโญ่ ช็อปปิ้งเอาไว้ได้เลย
