ศึกแชมเปี้ยนชิพ ใกล้จะเดินทางมาถึงครึ่งทางของฤดูกาล 2019-20 กันแล้ว เวสต์บรอมวิช กับ ลีดส์ ยังคงเป็นสองทีมนำ แต่ก็เกาะกลุ่มตามหลังกันมาอีกชุดใหญ่
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แชมเปี้ยนชิพ ยกระดับตัวเองขึ้นมาใกล้เคียงทีมเกรดซีและดีของ พรีเมียร์ลีก เช่นเดียวกับผู้จัดการทีม และนักเตะ ที่สามารถก้าวขึ้นสู่ลีกสูงสุดได้แบบไม่มีเคอะเขิน
ฤดูกาล 2019-20 ผ่านไป 19 เกม มีนักเตะหลายต่อหลายคนที่โชว์ฟอร์มได้สะดุดตา และนี่คือสิบเอ็ดตำแหน่งที่ (คิดว่า) ดีที่สุดหลังจบเกมสุดสัปดาห์เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม
ผู้รักษาประตู - กีโก้ กาซีย่า
ลีดส์ ยูไนเต็ด ถูก มาร์เซโล่ บิเอลซ่า สร้างให้เป็นทีมที่มีเกมรับแข็งโป๊กขึ้นกว่าฤดูกาลที่แล้ว หลังผ่าน 19 เกมแรก เสียประตูน้อยที่สุดเพียง 10 ลูกเท่านั้น (อันดับ 2 เบรนท์ฟอร์ด กับ ฟอเรสต์ 14 ประตู, อันดับ 3 เว้นส์เดย์ 18 ประตู) นอกจากแผงแบ็กโฟร์ที่ต้องยกนิ้วให้แล้วก็คือ ผู้รักษาประตู กาซีย่า ที่ลงเฝ้าเสาครบทั้ง 19 เกมแรก หลังย้ายมาจาก เรอัล มาดริด และยึดมือหนึ่งจาก เบลี่ย์ พีค็อก-แฟร์เรลล์ กลางซีซั่นที่แล้ว
แบ็กขวา - คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์
ฤดูกาลที่แล้ว แบ็กขวาทีมชาติเวลส์ ถูกจับเล่นปีกขวาภายใต้การคุมทีมของ แกรม พ็อทเทอร์ หลายต่อหลายนัด แต่พอเข้าสู่ยุคของ สตีฟ คูเปอร์ ในฤดูกาลนี้ โรเบิร์ตส์ กลับมายึดตำแหน่งถนัด และกลายเป็นตัวหลักถาวรแบ็กขวา มีจุดเด่นอยู่ที่ความเร็ว และการเติมเกมรุก ตามสไตล์ของฟูลแบ็กยุคโมเดิร์น หาก สวอนซี ไม่สามารถเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีก แต่กองหลังวัย 24 ปี ก็ยังมีโอกาสแจ้งเกิดในเวทีลีกสูงสุดซีซั่นหน้า
เซนเตอร์แบ็ก - เบน ไวท์
กองหลังที่เล่นได้ทั้งเซนเตอร์แบ็กและแบ็กขวา ถูก ลีดส์ ยืมตัวมาจาก ไบรท์ตัน ตลอดฤดูกาลนี้ กลายเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับที่เหนียวหนึบของ ยูงทอง เพราะเป็นกองหลังคนเดียวในทีมที่เล่นครบ 19 นัดแรก ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีข่าวว่าทีมพรีเมียร์ลีกจับตามองกองหลังวัย 22 ปีที่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม แชมเปี้ยนชิพ ของพีเอฟเอ ในเดือนสิงหาคม และมีจุดเด่นครบเครื่องทั้ง เทคนิค สกัดหนักหน่วง เยือกเย็น และมีความเร็ว
เซนเตอร์แบ็ก - เชย์ ดังค์ลี่ย์
ดังค์ลี่ย์ คือตัวอย่างที่ดีของนักเตะที่ไต่เต้าขึ้นบันไดทีละขั้นจากคอนเฟอเรนซ์ ลีกทู ลีกวัน และแชมเปี้ยนชิพ ที่เป็นตัวหลัก 36 เกมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และเข้าสู่ซีซั่นที่สอง เซนเตอร์แบ็กวัย 27 ปี ไม่เพียงแข็งแกร่งในเกมรับเท่านั้น แต่เกมรุกเจ้าของส่วนสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว ยังทำไปแล้วถึง 5 ประตูจาก 18 เกม และหากยังรักษาฟอร์มเก่งไปจนจบซีซั่น บันไดขั้นต่อไปคือพรีเมียร์ลีกคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
แบ็กซ้าย - ไรอัน แมนนิ่ง
แม้ผลงานของ ควีนส์ปาร์ค ขึ้นๆ ลงๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่มีนักเตะคนหนึ่งที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นเตะตาทีมพรีเมียร์ลีก นั่นคือ แมนนิ่ง กองกลางที่เล่นได้ทั้งปีกซ้าย เล่นไปเล่นมาถูกจับยืนแบ็กซ้าย อีกตำแหน่งที่สามารถเล่นได้ และกลายเป็นทำผลงานได้ดีจนยึดตัวจริงถาวรมาจาก ลี วัลเลซ โดยซีซั่นก่อนได้ลงตัวจริงเกมลีกไปเพียง 7 นัด หลังปล่อยให้ ร็อทเธอร์แฮม ยืมใช้งานในช่วงครึ่งซีซั่นแรก และผลงานไม่เข้าตา
กองกลาง - แดเนียล จอห์นสัน
มิดฟิลด์จาเมก้า อยู่กับ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ เป็นฤดูกาลที่ 6 ก่อนหน้านี้ยิงไปเพียง 21 ประตูจาก 151 เกมใน แชมเปี้ยนชิพ 4 ซีซั่น แต่มาถึงซีซั่น 2019-20 กองกลางวัย 27 ปี กลับเข้าฟอร์มยิงแหลก 8 ประตูจาก 17 นัดแรก เป็นผู้นำดาวซัลโวของทีมจนถึงเวลานี้ และเป็นเจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม แชมเปี้ยนชิพ ประจำเดือนของฤดูกาล สิงหาคม ด้วย จึงถือเป็นคนสำคัญของ อเล็กซ์ นีล ที่จับเล่นได้ทั้งตัวรับและตัวรุก
กองกลาง - ทอม แคร์นี่ย์
กัปตันทีมผู้ยิงประตูชัยนัดชิงเพลย์ออฟ สองฤดูกาลที่แล้ว ไม่ประสบความสำเร็จกับการเล่นในพรีเมียร์ลีก แต่ก็เป็นตัวหลักของ ฟูแล่ม อีกคนที่กลับลงมาเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ อีกครั้ง และซีซั่นนี้กลายเป็นปีที่ดีของกองกลางหมายเลข 10 เพราะนอกจากบทบาทคุมเกมแดนกลางแล้ว ยังสอดขึ้นมายิงไปแล้ว 6 ประตูจากการลงเล่น 18 เกม กลายเป็นอาวุธเด็ดในการทำประตูของ ฟูแล่ม นอกจากสามประสานแดนหน้า
ปีกขวา - จาร์รอด โบเวน
โบเวน ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ฮัลล์ ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมนัก เพราะกำลังจะตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก แต่ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ลงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในช่วงท้ายซีซั่น และนั่นเองที่เป็นจุดเริ่มการเป็นดาวยิงกับ เดอะ ไทเกอร์ส ในเวที แชมเปี้ยนชิพ ตัวรุกวัย 22 ปี ยิง 14 ประตูจาก 42 นัด ตามด้วย 22 ประตูจาก 46 นัด และซีซั่นนี้ยิงไปแล้ว 12 ประตู ทั้งที่เพิ่งเล่นแค่ 19 นัด กลายเป็นเพชรเม็ดงามที่ได้รับการจับตามองอย่างมาก
กองกลางตัวรุก - แบร๊ดลี่ย์ แด๊ค
หลังจาก แบล็คเบิร์น เลื่อนชั้นกลับสู่ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อซีซั่นที่แล้ว แด๊ค ถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ ในฐานะกองกลางที่เป็นดาวซัลโวประจำทีม 18 ประตูในเวทีลีกวัน และมิดฟิลด์มาดเซอร์วัย 25 ปี ก็ตอกย้ำอีก 15 ประตูใน แชมเปี้ยนชิพ ซีซั่นที่แล้ว บวกกับอีก 9 ประตูจาก 19 เกมในฤดูกาลนี้ เป็นการยืนยันถึงการเป็นมิดฟิลด์จอมถล่มประตูตัวจริง ไม่มีฟลุ้ค ในบทบาทที่ดีที่สุด เพลย์เมคเกอร์อยู่ด้านหลังศูนย์หน้า
ปีกซ้าย - โอลลี่ วัตกิ้นส์
เบรนท์ฟอร์ด เจอรูโหว่เบ้อเร่อ หลังจากขายศูนย์หน้าตัวเป้า นีล โมเปย์ ไปลุยพรีเมียร์ลีกกับ ไบรท์ตัน และตัวที่ดึงมาแทนอย่าง นิคอส คาเรลิส ก็เดี้ยงจนพึ่งพาไม่ได้ ดังนั้น โธมัส แฟร้งค์ จึงจับปีกซ้าย วัตกิ้นส์ ไปยืนหอกตัวกลางแทนที่ และดันเข้าล็อกแบบเป๊ะๆ ซัลโวไปแล้ว 12 ประตูจาก 19 นัดที่ได้ลงเล่นแบบไม่มีขาด สมแล้วกับที่มี เธียร์รี่ อองรี เป็นไอดอล ในฐานะปีกซ้ายที่กลายมาเป็นดาวซัลโวประจำทีม
ศูนย์หน้า - อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช
หัวหอกร่างใหญ่ทีมชาติเซอร์เบีย ที่แบก ฟูแล่ม เลื่อนชั้นในฤดูกาล 2017-18 ซัลโว 11 จาก 34 ประตูของทีมในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นถัดมา ถูกมองว่าคงย้ายทีมแน่ๆ หลังจากตกชั้นกลับแชมเปี้ยนชิพ เพราะมีหลายทีมติดต่อยื่นข้อเสนอ โดยเฉพาะจากบุนเดสลีกา แต่สุดท้าย ฟูแล่ม กัดฟันยอมจ่ายค่าเหนื่อยทะลุเพดานเก็บไว้ใช้งานต่อ ขณะที่ศูนย์หน้าวัยเบญจเพศก็ยินดีลงไปเล่นในลีกรองอีกครั้ง จนถึงตอนนี้ลงไป 18 เกม ยิง 15 ประตู