ช่วงนี้เราได้เห็นการรวบรวมเรื่องราวมากมายในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น ทีมยอดเยี่ยม นักเตะยอดเยี่ยม ประตูยอดเยี่ยม ฯลฯ
ตลอดทศวรรษที่ 2010 หรือตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2010 มาจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2019 มีการรวบรวมเรื่องราวที่น่าสนใจกับทีมชาติอังกฤษเอาไว้เช่นกัน
จากผู้จัดการทีม 4 คน ฟาบิโอ คาเปลโล่, รอย ฮ็อดจ์สัน, แซม อัลลาร์ไดซ์ มาจนถึง แกเร็ธ เซาธ์เกต มีการเรียกนักเตะมากหน้าหลายตาเข้ามาอยู่ในทีม ทรี ไลออนส์ รวมทั้งสิ้น 119 คน
และในจำนวนนี้มีนักเตะที่ได้ลงสนามให้ สิงโตคำราม เพียงแค่เกมเดียวอยู่ 22 คน ลองไปไล่ดูกันว่าตลอด 10 ปีที่่ผ่านมา 22 รายชื่อดังกล่าวมีใครหน้าไหนกันบ้าง
เจย์ โบธรอยด์ (2010)
หลังจากซัลโวในลีกแชมเปี้ยนชิพอย่างสม่ำเสมอกับ คาร์ดิฟฟ์ คาเปลโล่ ก็ตัดสินใจเรียก โบธรอยด์ ที่ตอนนั้นอยู่ในวัย 28 ปี มาติดทีมชาติครั้งแรก และลงสำรองในครึ่งหลังเกมอุ่นเครื่องกับ ฝรั่งเศส กลายเป็นนักเตะจากลีกรองที่เล่นให้ สิงโตคำราม คนแรกในรอบ 3 ปีด้วย
เควิน เดวี่ส์ (2010)
แม้ถูกมองว่ามีดีที่ศีรษะเพียงอย่างเดียว และอยู่ในช่วงบั้นปลายอาชีพแล้ว แต่ คาเปลโล่ ไม่สนเสียงวิจารณ์ต่างๆ ตัดสินใจเรียก เดวี่ส์ ติดทีมชาติครั้งแรกในวัย 33 ปี เกมยูโร 2012 รอบคัดเลือก เจอ มอนเตเนโกร ที่ลงสำรองในนาที 69 กลายเป็นการประเดิม สิงโตคำราม ที่แก่ที่สุด 33 ปีกับ 200 วัน นับตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา
แม็ทธิว จาร์วิส (2011)
ปีกตัวจี๊ดที่เล่นได้ทั้งสองฝั่ง แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับ วูลฟ์แฮมป์ตัน จนถูก คาเปลโล่ เรียกมาโชว์ฝีเท้ากับทีมชาติโดยที่ไม่เคยผ่านการรับใช้ชุดเยาวชนมาก่อน แต่การลงสำรองช่วง 20 นาทีสุดท้ายเกมอุ่นเครื่องกับ กาน่า ที่ เวมบลีย์ ก็กลายเป็นเพียงเกมเดียวของปีกที่ย้ายไปดับกับ เวสต์แฮม ในปีต่อมา
เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ (2012)
แม้ทำประตูจุ๋มจิ๋ม 6 ประตูในช่วงเวลา 4 ปี แต่ แคมป์เบลล์ ที่ตอนนั้นเล่นอยู่กับ ซันเดอร์แลนด์ ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่โดยกุนซือชั่วคราว สจ๊วร์ต เพียร์ซ ที่เข้ามานั่งเก้าอี้แทน คาเปลโล่ ที่เพิ่งลาออกสดๆ ร้อนๆ และอดีตดาวรุ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลงสำรอง 10 นาทีสุดท้ายเกมอุ่นเครื่องที่แพ้ ฮอลแลนด์ 2-3
มาร์ติน เคลลี่ (2012)
ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล และมีบทบาทในฐานะตัวสำรองเป็นฤดูกาลที่สอง รอย ฮ็อดจ์สัน ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษก็เรียกตัวมาติดทีมชาติชุดใหญ่ และลงเล่นเกมอุ่นเครื่องในฐานะตัวสำรองไปเพียง 2 นาทีกับ 39 วินาที ครองสถิติรับใช้ สิงโตคำราม เป็นเวลาน้อยที่สุดมาจนถึงปี 2018
จอห์น รัดดี้ (2012)
รัดดี้ แจ้งเกิดกับ นอริช หลังพาทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในปี 2011 และ ฮ็อดจ์สัน ตัดสินใจเรียกติดทีมชาติครั้งแรกและเป็นครั้งสำคัญเพราะอยู่ในทีมชุดยูโร 2012 ในฐานะมือสาม แต่โชคร้ายที่กระดูกนิ้วแตกต้องถอนตัว และหลังจากนั้นถึงได้ลงเฝ้าเสาเกมแรกในเกมอุ่นเครื่องกับ อิตาลี ที่ลงสำรองในช่วงพักครึ่ง
สตีเว่น คอลเกอร์ (2012)
หลังจาก สเปอร์ส ส่งตัวไปชุบที่ บริสตอล ซิตี้ กับ สวอนซี ในที่สุด คอลเกอร์ ก็กลับมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ของ ไก่เดือยทอง ในฤดูกาล 2012-13 และไปถึงจุดสูงสุดเมื่อถูก ฮ็อดจ์สัน เรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ และส่งลงตัวจริงเกมอุ่นเครื่องกับ สวีเดน ซึ่ง คอลเกอร์ โหม่งประตูในเกมประเดิมด้วย
ไรอัน ชอว์ครอสส์ (2012)
เด็กปั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ย้ายมาอยู่กับ สโต๊ค ตั้งแต่ปี 2008 และเป็นตัวหลักของที่นี่เรื่อยมา โดยมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือปี 2012 ที่ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษครั้งแรก หลังจากไม่กี่เดือนก่อนหน้า เพิ่งปฏิเสธการทาบทามจาก เวลส์ แต่เกมเดียวที่ได้ลงเล่นคือเกมอุ่นเครื่องที่แพ้ สวีเดน โดยลงสำรองแทน คอลเกอร์ นั่นเอง
คาร์ล เจนกินสัน (2012)
เจนกินสัน เคยมีอนาคตรุ่งโรจน์หลังย้ายจาก ชาร์ลตัน มาอยู่กับ อาร์เซน่อล แบบก้าวกระโดดในปี 2011 และแม้เคยเล่นให้ ฟินแลนด์ ชุดเยาวชน แต่ ฮ็อดจ์สัน ก็โน้มน้าวแบ็กขวารายนี้ให้มาติดทัพ ทรีไลออนส์ จนได้ในช่วงปลายปี 2012 และเกมเดียวที่ลงเล่นก็คือการลงสำรองเกมแพ้ สวีเดน อีกคน
เจย์ โรดริเกซ (2013)
อำลา เบิร์นลี่ย์ มาอยู่กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ในปี 2012 และหนึ่งปีต่อมา ก็ถูก ฮ็อดจ์สัน เรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ พร้อมสองเพื่อนร่วมทีม นักบุญ ริคกี้ แลมเบิร์ต กับ อดัม ลัลลานา โดยเกมเดียวที่ 'เจย์-โร' ได้ลงสนาม คือเกมอุ่นเครื่องกับ ชิลี ที่ เวมบลีย์
จอน ฟลานาแกน (2014)
ในฐานะฟูลแบ็กดาวรุ่งจาก ลิเวอร์พูล ฟลานาแกน ถูก ฮ็อดจ์สัน เรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษครั้งแรก หลังจากได้รับใช้ต้นสังกัดไปถึง 25 เกมตลอดฤดูกาล 2013-14 และในที่สุดก็ได้ลงสำรองเกมอุ่นเครื่องกับ เอกวาดอร์ ที่ สหรัฐอเมริกา เป็นการเตรียมทีมสู้ศึกเวิลด์คัพที่ ฟลานาแกน มีชื่อเป็นแค่ตัวสแตนด์บาย
(รอติดตามอีก 11 คนที่เหลือในตอนสอง)