ตลอดทศวรรษ มีนักเตะถึง 119 คนที่ตบเท้าเข้าสู่ทีมชาติอังกฤษ ภายใต้โค้ช 4 คน ฟาบิโอ คาเปลโล่, รอย ฮ็อดจ์สัน, แซม อัลลาร์ไดซ์, แกเร็ธ เซาธ์เกต
และในจำนวน 119 คนนี้ มีอยู่ 22 คนที่ได้สัมผัสเกม ทรี ไลออนส์ เพียงแค่นัดเดียว ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น การทดลองดาวรุ่ง, ฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ หรือบางคนเพิ่งติดทีมครั้งแรก และยังมีโอกาสลงเล่นเกมที่ 2, 3, 4,... ต่อไปอีกในทศวรรษใหม่
ตอนแรก เราพูดถึง 11 นักเตะระหว่างปี 2010-2014 ไปแล้ว ไล่ตั้งแต่ เจย์ โบธรอยด์, เควิน เดวี่ส์, แม็ทธิว จาร์วิส, เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์, มาร์ติน เคลลี่, จอห์น รัดดี้, สตีเว่น คอลเกอร์, ไรอัน ชอว์ครอสส์, คาร์ล เจนกินสัน, เจย์ โรดริเกซ และ จอน ฟลานาแกน
มาถึงตอนสอง ไปว่ากันต่อในอีก 11 คนที่เหลือ
ไรอัน เมสัน (2015)
เด็กปั้นจากทีมเยาวชนของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ไม่ได้ ถูกปล่อยไปหาประสบการณ์ด้วยสัญญายืมตัวกับหลายทีมทั้งแชมเปี้ยนชิพและลีกวัน ก่อนกลับมายึดตำแหน่ง ในยุคที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เข้ามารับหน้าที่คุมทีมใหม่ๆ ซีซั่น 2014-15 และจากการลงเล่น 37 เกมรวมทุกรายการ ก็ทำให้ รอย ฮ็อดจ์สัน เรียกติดทีมชาติในเดือนมีนาคมปี 2015 ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องกับ อิตาลี ในฐานะตัวสำรอง และแอสซิสต์ในเกมเดียวกับ สิงโตคำราม ให้ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ยิงตีเสมอ
แดนนี่ อิงส์ (2015)
หลังจากแจ้งเกิดในซีซั่น 2013-14 ที่ยิง 21 ประตูจาก 40 เกมแชมเปี้ยนชิพ พา เบิร์นลี่ย์ เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก และยิงอีก 11 ประตูจาก 35 เกมในเวทีลีกสูงสุดซีซั่นแรกในชีวิต อิงส์ ก็เลือกย้ายไปสู่สโมสรที่ใหญ่กว่าอย่าง ลิเวอร์พูล โดยสองประตูที่ยิง นอริช กับ เอฟเวอร์ตัน ในช่วงต้นซีซั่น ก็ทำให้ ฮ็อดจ์สัน ดึงตัวร่วมทัพ สิงโตคำราม ชุดใหญ่ ครั้งแรก โดยลงเล่นเกมยูโร 2016 รอบคัดเลือกในฐานะตัวสำรองเกมที่ ลิทัวเนีย ในเดือนตุลาคม
เนธาน เร้ดมอนด์ (2017)
อดีตปีกดาวรุ่ง เบอร์มิงแฮม ที่มาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับ นอริช ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่เข้าตามตรอกออกตามประตูมากที่สุด เพราะรับใช้ทีมชาติอังกฤษมาตั้งแต่ชุดยู-16, ยู-17, ยู-18, ยู-19, ยู-20 และยู-21 แบบก้าวขึ้นบันไดทีละขั้น และในช่วงเวลาที่ เร้ดมอนด์ ย้ายไป เซาธ์แฮมป์ตัน ในปี 2016 พร้อมตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของทีมชาติอังกฤษ ชุดยู-21 แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็เรียกตัวมาติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในปีต่อมา โดยลงสำรองเกมที่เจอ เยอรมนี และไม่ได้กลับมาติดทีมอีกเลย จนกระทั่งพฤษภาคม 2019 เซาธ์เกต เรียกกลับคืนทีมอีกครั้งก่อนศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบไฟนอล แต่ก็ได้แค่มาซ้อม เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ก็ถูกตัดชื่อออกจากทีม 23 คนสุดท้าย
แจ๊ค คอร์ก (2017)
หลังจากสร้างชื่อเบาๆ กับ เซาธ์แฮมป์ตัน, สวอนซี จนได้ย้ายมา เบิร์นลี่ย์ ในปี 2017 คอร์ก ก็ถูก เซาธ์เกต เรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในชีวิต หลังจากก่อนหน้านั้นลงเล่นมาหมดแล้ว ตั้งแต่ชุดยู-16, ยู-17, ยู-18, ยู-19, ยู-20 และยู-21 รวมไปถึงทีมสหราชอาณาจักร ในศึกซัมเมอร์ โอลิมปิก 2012 แต่การประเดิมสนามในเกมอุ่นเครื่องที่เสมอ เยอรมนี 0-0 เป็นการลงสำรองในนาที 86 เท่านั้น และเป็นเพียง 4 นาที บวกกับทดเจ็บที่ได้สัมผัสเกมกับ ทรี ไลออนส์
โดมินิก โซลันกี (2017)
ในฐานะศูนย์หน้าดาวรุ่งที่ยิงแหลกกับทีมชาติอังกฤษ โดยเฉพาะชุดยู-17, ยู-20 และยู-21 โซลันกี ได้รับการจับตามองว่าจะมีอนาคตในทีมชาติอีกยาวไกลแน่นอน หลังจากเลือกอำลา เชลซี มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ช่วงเวลาเดียวกับที่พา สิงโตคำราม คว้าแชมป์โลก รุ่นยู-20 และ โซลันกี คว้ารางวัลโกลเด้นบอลประจำทัวร์นาเมนต์ ให้หลังไม่กี่เดือน เซาธ์เกต จึงไม่รอช้า เรียกสัมผัสทีมชุดใหญ่ทันที และจับลงสำรองเกมอุ่นเครื่องที่เสมอ บราซิล 0-0 แต่หลังจากนั้นไม่ได้รับโอกาสกับ หงส์แดง บวกกับฟอร์มตก จนไม่ได้กลับมาติดทีมชาติอีกเลย
ลูอิส คุ้ก (2018)
เป็นนักเตะอีกคนที่ก้าวขึ้นมาในทีมชาติอังกฤษชุดเยาวชนทุกชุดพร้อมๆ กับ โซลันกี โดยเป็นกัปตันทีมชาติชุดยู-20 ที่คว้าแชมป์โลกปี 2017 ด้วย หลังย้ายจาก ลีดส์ มาอยู่กับ บอร์นมัธ ได้เพียงปีเดียว หลังจากนั้นก็ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่พร้อมกันในเดือนพฤศจิกายน แต่กว่าจะได้ประเดิมสนาม ต้องรอถูกเรียกในครั้งต่อไป เดือนมีนาคม ปี 2018 ในเกมเสมอ อิตาลี 1-1 โดยลงสำรองช่วง 20 นาทีสุดท้าย หลังจากนั้นมีโอกาสเพียงเป็นตัวสแตนด์บายทีมชุดฟุตบอลโลก 2018
เนธาเนียล ชาโลบาห์ (2018)
ในอดีตเคยได้ชื่อว่าเป็นดาวรุ่ง 'ลูกรัก' ของเอฟเอ ที่ผ่านการเล่นทีมเยาวชนมาทุกชุดเช่นกัน และเป็นตัวหลักอย่างชุดยู-17 ลงเล่น 34 เกม, ยู-19 ลงเล่น 13 เกม และยู-21 ลงเล่นมากถึง 40 เกม ตั้งแต่ปี 2012-2017 หรือติดทีมชุดนี้มาตั้งแต่อายุ 18 แต่อนาคตของ ชาโลบาห์ กับสโมสร ไม่เคยมีความแน่นอน เพราะถูก เชลซี ปล่อยยืมทุกฤดูกาล จนกระทั่งขายให้ วัตฟอร์ด ปี 2017 และการประเดิมทีมชาติชุดใหญ่ก็เกิดขึ้นในเดือนตุลาคมปี 2018 ทว่า เป็นโอกาสที่อาจจะไม่อยากจดจำ เพราะถูกส่งลงสำรองในนาที 91 เพื่อไปถ่วงเวลาคู่แข่ง ในเกมบุกชนะ สเปน 3-2 ศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รวมเวลาอยู่ในสนาม 6 นาทีกับ 54 วินาที เป็นอันดับสองที่ได้สัมผัสเกม สิงโตคำราม น้อยที่สุด
ลูอิส ดังค์ (2018)
เซนเตอร์แบ็กพันธ์แกร่ง เจ้าของส่วนสูง 192 เซนติเมตร อยู่กับ ไบรท์ตัน ทีมเดียวมาตั้งแต่ก้าวขึ้นมาจากทีมชุดเยาวชนเมื่อปี 2010 (ปล่อยยืมไป บริสตอล ซิตี้ ลงเล่น 2 เกมในปี 2013) ลงเล่นระดับลีกวันกับแชมเปี้ยนชิพมาถึง 8 ฤดูกาล ก่อนก้าวขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกในปี 2017 และตุลาคม 2018 ดังค์ ก็ถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษครั้งแรกในวัยใกล้ๆ จะ 27 ปี แต่เกมประเดิมเกิดขึ้นในเดือนต่อมา ที่อุ่นเครื่องชนะ สหรัฐอเมริกา 3-0
อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ (2018)
ผู้รักษาประตูอดีตเด็กปั้นของ เร้ดดิ้ง เคยถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2013 หลังจากลงสัมผัสเกมพรีเมียร์ลีกไป 13 เกม แต่ตอนนั้นยังไม่ได้โอกาสประเดิม เช่นเดียวกับในปี 2016 ที่ แซม อัลลาร์ไดซ์ เรียกมาอยู่ในทีมแทน เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ที่เจ็บ ในเกมแรกและเกมเดียวที่ 'บิ๊กแซม' คุมทีม จนกระทั่ง สิงหาคม 2018 แม็คคาร์ธี่ ก็ได้ประเดิมเฝ้าเสาจนได้ ในฐานะตัวสำรองที่ลงตั้งแต่ช่วงพักครึ่งเกมที่ อังกฤษ ชนะ สหรัฐอเมริกา 3-0 สิ้นสุดการรอคอยอย่างยาวนานถึง 5 ปีครึ่ง
เจมส์ แมดดิสัน (2019)
เลสเตอร์ จ่ายเงิน 20 ล้านปอนด์ซื้อ แมดดิสัน มาจาก นอริช เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2018 และกลายเป็นการเสริมทัพที่คุ้มค่าอย่างมาก เพราะตอนนี้ค่าตัวพุ่งขึ้นมาอย่างน้อย 4 เท่าตัวแล้ว กับทีมชาติ จอมทัพเนื้อหอมรายนี้ถูกเรียกติดชุดใหญ่ครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2018 แต่ไม่ได้ประเดิม หลังจากนั้นหนึ่งปี โอกาสกับทีมชาติชุดใหญ่หลุดลอยไปอีกหนเพราะป่วย แต่ในที่สุด ก็ได้สัมผัสทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในฐานะตัวสำรองเกมยูโร 2020 รอบคัดเลือก ที่ถล่ม มอนเตเนโกร 7-0 โดยลงแทน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ในนาที 56 เป็นการนับหนึ่งในทีมของ เซาธ์เกต และเชื่อว่าเกมต่อๆ ไปจะตามมาอีกมากมายแน่นอน
ฟิคาโย่ โทโมรี่ (2019)
กองหลังเชื้อสายไนจีเรีย ที่เกิดที่แคนาดา และเคยเล่นให้ทีมชาติแคนาดา ชุดยู-20 มาก่อนเมื่อปี 2016 แต่หลังจากนั้นก็หันมารับใช้ทีมชาติอังกฤษ ตั้งแต่ชุดยู-19, ยู-20 และยู-21 และหลังจากโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมกับ ดาร์บี้ ซีซั่นก่อน แฟร้งค์ แลมพาร์ด ก็ให้โอกาสในทีมชุดใหญ่ของ เชลซี ฤดูกาลนี้ จนเป็นที่มาของการถูก เซาธ์เกต เรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในเดือนตุลาคม ก่อนจะประเดิมสนามในเดือนถัดมา เกมชนะ โคโซโว รอบคัดเลือก ยูโร 2020 เป็นจุดเริ่มการก้าวเข้าสู่ทีมชุดใหญ่แบบต่อเนื่อง