จากเกมเสมอ วูลฟ์แฮมป์ตัน แบบไม่มีประตู กลายเป็นเกมศูนย์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีกสามนัดติดต่อกันแล้ว เราได้เห็นอะไรจากเกมนี้?
นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2020 นี่คือเกมที่ 4 จาก 5 เกมพรีเมียร์ลีกที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของหัวหน้าโค้ช โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยิงประตูคู่แข่งไม่ได้
2 จาก 4 เกม ยังพอแก้ตัวได้ เพราะเป็นเกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม กับ แอนฟิลด์ (แม้จะเล่นไม่เป็นทรง และต่อกรสู้ อาร์เซน่อล กับ ลิเวอร์พูล ไม่ได้เลยก็ตาม)
แต่สองเกมหลังที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นี่สิ! คู่แข่งของพวกเขาคือ เบิร์นลี่ย์ กับ วูลฟ์แฮมป์ตัน ที่จะต้องเก็บหกคะแนนเต็มแบบไม่มีข้อแก้ตัว
จากผลการแข่งขัน สะท้อนถึง ผลงานของนักเตะ
จากผลงานของนักเตะ สะท้อนถึง แผนการทำทีม
จากแผนการทำทีม สะท้อนถึง สภาพทีมปัจจุบัน
จากสภาพทีมปัจจุบัน สะท้อนถึง แผนการเสริมทัพ
จากแผนการเสริมทัพ สะท้อนถึง แนวทางการทำงานของบอร์ดบริหาร
สุดท้าย การเก็บเพียง 4 คะแนน (จาก 15 คะแนนเต็ม) ในปี 2020 ก็ถูกโยงขึ้นไปตั้งคำถามถึงการทำงานของทีมบริหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเสริมทัพ และคนที่ต้องออกหน้ารับก็คือ เอ็ด วูดเวิร์ด
แม้การได้ บรูโน่ แฟร์นันเดส เสริมแดนกลาง สร้างความพึงพอใจให้กับแฟนๆ ปีศาจแดง ได้มาก
แต่ความไม่พร้อมในการมองหาศูนย์หน้าตัวใหม่ นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และแนวทางการทำงานของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ยังสอบตก (ซ้ำแล้วซ้ำเล่า) ในตลาดซื้อขายรอบหลายปีที่ผ่านมา
อดีตแบ็กขวา ผีแดง แกรี่ เนวิลล์ ยังคงวิจารณ์ทีมอย่างเผ็ดร้อน และจี้ตรงจุดถึงการทำงานของแผนกสรรหานักเตะใหม่ว่ามัวไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมา เพราะมีเวลาเกือบๆ 9 เดือนในการควานหาศูนย์หน้าตัวใหม่ แต่สิ่งที่ได้มาคือ โอเดียน อีกาโล่ ซึ่งไม่ตรงสเป็คทีมมหาอำนาจอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ตลอดช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว (หรือก่อนเริ่มต้นฤดูกาล) สโมสรมีเวลาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมในการมองหาศูนย์หน้าตัวใหม่ (หากวางแผนร่วมกับ โซลชา เอาไว้แล้วว่าจะปล่อย โรเมลู ลูกากู กับ อเล็กซิส ซานเชซ) แต่ก็ไม่มีสัญญาณอะไรเกิดขึ้นจนถึงวันสุดท้าย
และในช่วงตลาดวินเทอร์ ก็ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปถึง 30 วัน หลังจากพลาดหวังในการดึงเด็กเก่า โจชัว คิง กลับ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จึงไม่มีเวลาและทางเลือกเหลือมากพอ อีกาโล่ จึงกลายเป็นศูนย์หน้าที่ถูกเลือก หลังมีข่าวว่าเอเยนต์นักเตะกำลังเร่หาสโมสรใหม่ก่อนตลาดปิด
สาเหตุที่ อีกาโล่ ถูกเสนอตัวกลับอังกฤษแบบเร่งด่วน (เช่นเดียวกับอีกหลายคน) เป็นเพราะการเลื่อนเปิดซีซั่นใหม่ 2020 แบบไม่มีกำหนดของศึกไชนีสซูเปอร์ลีก จากเหตุ 'ไวรัสโคโรน่า' ที่กำลังแพร่ระบาดหนักในจีน
อีกาโล่ จึงเป็นการเสริมทัพศูนย์หน้าคนแรกของสโมสรในรอบ 2 ปีเศษๆ ต่อจาก อเล็กซิส ที่เป็นการเซ็นสัญญาที่ล้มเหลวเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2018
คงไม่เพียงแค่ แกรี่ ที่มองว่าการเซ็นสัญญากับ อีกาโล่ เป็นการเสริมทัพแบบ 'ขอไปที' ของทีมบริหาร ปีศาจแดง แต่แฟนบอลก็คงมองเห็นเช่นกัน ขนาด แอสตัน วิลล่า ที่ถูกนายหน้าเสนอให้ก่อนหน้านี้ ยังปฏิเสธโอกาส
แต่หากตัดประเด็นอื่นๆ ทิ้งไปให้หมด แล้วหันมามองปัญหาที่เกิดขึ้นในเกมแพ้ เบิร์นลี่ย์ 0-2 และเสมอ วูลฟ์แฮมป์ตัน 0-0 ว่าอะไรที่จะต้องถูกปรับปรุงแก้ไข หรือมีการเปลี่ยนแปลง
ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือ 'ทัศนคติ' ของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่กำลังฉุดฟอร์มของตัวเองดิ่งลงเหว
สีหน้าและแววตาของ มาร์กซิยาล นาทีนี้บ่งบอกถึงความไม่มีกระจิตกระใจที่จะลงเล่น ที่จะทำประตู เก็บบอลไม่ได้ ขาดการมีส่วนร่วมกับเกม และที่สำคัญที่สุดขาดสิ่งที่ศูนย์หน้าตัวเป้าควรต้องมี
หลายจังหวะอดหงุดหงิดไม่ได้ที่ทำไม ฆวน มาต้า ยึกยักๆ ไม่ยอมวางบอลข้ามแนวรับซึ่งเป็นลูกเก่ง ทำไม อันเดรียส เปเรร่า ไม่ยอมครอสบอลทั้งที่มีจังหวะแล้ว
แต่พอได้เห็น บรูโน่ แฟร์นันเดส ตักบอลขึ้นหน้าหลายๆ ครั้ง จึงได้เห็นว่า ปัญหาอยู่ที่ศูนย์หน้าตัวเป้าไม่เคลื่อนที่ ไม่ชิงจังหวะ ไม่หาที่ว่าง และอื่นๆ อีกมากมาย
นี่คือเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของ โซลชา ในช่วงเวลาที่ต้องเสีย มาร์คัส แรชฟอร์ด พักฟื้นอีกสักพักใหญ่ๆ
แฟนๆ ผีแดง จึงหวังจะได้เห็นความเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าจาก อีกาโล่ ในช่วงเวลาที่ไม่มีตัวเลือกมากนัก เพราะดาวรุ่งอีกคนที่มีอยู่ เมสัน กรีนวูด ก็เป็นสไตล์ตัวต่ำที่สามารถเล่นริมเส้นได้ ไม่ใช่ตัวเป้าในแบบฉบับ ลูกากู
เกียรติประวัติของ อีกาโล่ ถือว่าไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะเพิ่งครองดาวซัลโว 5 ประตู ในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ร่วมกับ ไนจีเรีย เมื่อปีที่แล้ว บวกกับอีก 7 ประตูในรอบคัดเลือก
และสมัยเล่นอยู่กับ วัตฟอร์ด เคยเป็นนักเตะที่ยิงประตูได้มากที่สุดในบรรดาลีกอังกฤษ (4 ลีก พรีเมียร์ลีก-ลีกทู) ปี 2015 จำนวน 29 ประตู คาบเกี่ยวระหว่าง แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2014-15 และพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015-16
อีกาโล่ จึงอาจได้ลงสนาม หรือยึดตัวจริงเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ หากทัศนคติของ มาร์กซิยาล ยังย่ำแย่แบบนี้
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดซื้อขายเดือนมกราคม อาจทำให้เก้าอี้ของ โซลชา แข็งแรงขึ้น เพราะบอร์ดบริหารน่าจะมองหาตัวเลือกกุนซือใหม่ไม่เจอ เหมือนกับการควานหาศูนย์หน้า