:::     :::

ความหวังต่อไป 'แมนเชสเตอร์ดาร์บี้'

วันพุธที่ 22 พฤศจิกายน 2560 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
7,774
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ เริ่มถูกพูดถึงบ้างแล้ว หลังเห็นชัยชนะ 10 นัดติดในพรีเมียร์ลีกของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และโปรแกรม 3 นัดถัดไปที่รออยู่

'แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์' สื่อสายเลือดแมนเชสเตอร์ พาดหัวตัวโต "ชัยชนะ 17 นัดติดของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้" เช่นเดียวกับอีกหลายสำนัก ที่ยึดถือเอาเกมเสมอ วูลฟ์แฮมป์ตัน 0-0 ใน 120 นาที (ดวลจุดโทษชนะ) ถ้วย คาราบาวคัพ รวมเข้าไปด้วย

ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังเข้าเบรคยาวๆ และน่าจะตบแดง-ดำอีก 3 ชุด เมื่อดูจากโปรแกรมพรีเมียร์ลีก 3 นัดต่อไปที่มีคิวเยือน ฮัดเดอร์สฟิลด์ สุดสัปดาห์นี้ และ 2 นัดในรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม พบ เซาธ์แฮมป์ตัน กลางสัปดาห์ และ เวสต์แฮม สุดสัปดาห์ถัดไป
จากนั้นถึงเข้าสู่ 'เกมแห่งความหวัง' ที่ทุกทีมต่างรอคอยเห็น เรือใบสีฟ้า สะดุด เพราะเป็น 'แมนเชสเตอร์ดาร์บี้' บุก โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถัดจากนี้ไปอีกไม่ถึง 3 สัปดาห์
ที่เอ่ยว่าเป็น 'เกมแห่งความหวัง' เพราะไม่ใช่แค่ ยูไนเต็ด ที่ต้องการหยุดยั้ง ซิตี้ แต่ยังมี เชลซี, สเปอร์ส, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล ที่เอาใจช่วยอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ
ถือเป็นเรื่องธรรมดาของฟุตบอลลีก ที่ใครเป็นจ่าฝูง อีก 19 ทีมที่เหลือก็ต้องรวมพลังกันโค่น ไม่ต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับ เชลซี เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
สถานการณ์เวลานี้ ซิตี้ นำโด่ง ยูไนเต็ด 8 คะแนน, เชลซี 9 คะแนน, สเปอร์ส 11 คะแนน, ลิเวอร์พูล กับ อาร์เซน่อล 12 คะแนน แต่กว่าจะถึง 'แมนเชสเตอร์ดาร์บี้' อีก 3 เกม แต้มอาจห่างออกไปมากกว่านี้อีก
เพราะถ้าประเมินตามเนื้อผ้า ซิตี้ น่าเก็บเต็มๆ 9 คะแนน จาก ฮัดเดอร์สฟิลด์, เซาธ์แฮมป์ตัน และ เวสต์แฮม ขณะที่ ยูไนเต็ด เจอบิ๊กแมตช์ก่อน 'แมนเชสเตอร์ดาร์บี้' 1 สัปดาห์ คือเกมเยือน อาร์เซน่อล ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
และ ลิเวอร์พูล กับ เชลซี มีคิวหั่นกันเองที่ แอนฟิลด์ วันเสาร์นี้ นั่นก็หมายความว่า คู่แข่งถึง 4 ทีมจะต้องมีสะดุดอย่างน้อย 2 ทีม หรือบางทีอาจสะดุดทั้งหมด หากลงเอยด้วยผลเสมอ และ สเปอร์ส อาจเป็นตาอยู่ ขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูงก่อนถึงสัปดาห์ 'แมนเชสเตอร์ดาร์บี้'
นี่เป็นแค่การคาดการณ์ถึงความน่าจะเป็นของทั้ง 6 ทีม ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะได้เห็น ซิตี้ นำคู่แข่ง (ที่ยังไม่รู้ว่าเป็นทีมไหน) เพิ่มเกิน 10 คะแนน ก่อนถึงเกมที่ โอลด์ แทร๊ฟฟอร์ด
หากย้อนกลับไปในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล คงไม่มีใครเชื่อว่า ซิตี้ จะฉีกหนีคู่แข่งขนาดนี้ เพราะ 3 เกมแรกฟอร์มยังกระท่อนกระแท่น กว่าจะยิง ไบรท์ตัน ต้องรอถึงช่วง 20 นาทีสุดท้าย กว่าจะตามตีเสมอ เอฟเวอร์ตัน ก็ต้องรอนาที 88 และกว่าจะซัดประตูชัยพลิกแซง บอร์นมัธ ก็เกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ (ที่ต่อเกินออกไปด้วย)
จุดเริ่มของความโหดเหี้ยมมาจากเกมถล่ม ลิเวอร์พูล และความหวังที่จะเห็น เชลซี กับ อาร์เซน่อล หยุดยั้งความร้อนแรงของ ซิตี้ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ความหวังต่อไปจึงอยู่ที่ ยูไนเต็ด ต่อด้วย สเปอร์ส ในอีก 1 สัปดาห์ถัดไป
อุปสรรคเดียวของ ซิตี้ คือเกมยุโรป 3 วันก่อนทำศึก 'แมนเชสเตอร์ดาร์บี้' วันเสาร์
แม้ ซิตี้ เข้ารอบในฐานะทีมอันดับ 1 ของกลุ่มไปแล้ว จากชัยชนะ 5 นัดรวด แต่การนั่งเครื่องไกลๆ ไปเยือน ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค ก็ย่อมส่งผลต่อสภาพร่างกายไม่มากก็น้อย
เราอาจได้เห็น เป๊ป พักตัวหลักอยู่บ้านกันเกือบยกชุด แล้วเปิดทางให้สำรองกับดาวรุ่งบินไป ยูเครน กันแบบเต็มทีมเพื่อลงเล่นเกมวันพุธ
ขณะที่ ยูไนเต็ด ได้เปรียบกว่าพอสมควร กับโปรแกรมในบ้านเจอ ซีเอสเคเอ มอสโก แถมยังเล่นวันอังคารอีก ซึ่ง โชเซ่ มูรินโญ่ ก็สามารถจัดสำรองลงเต็มๆ ได้เช่นกัน
นั่นคือการคาดการณ์สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 2 สัปดาห์เศษๆ ข้างหน้า
ความจริงแล้ว หาก ซิตี้ พบความปราชัยในเกม 'แมนเชสเตอร์ดาร์บี้' ก็ยังไม่ได้ทำให้บัลลังก์จ่าฝูงสั่นสะเทือน หากแต่เป็นการสร้างกำลังใจให้อีก 5 ทีมใหญ่ที่เหลือมากกว่า
เป๊ป เองก็ทราบดีว่าด้วยสถานการณ์ที่ขาดลอยแบบนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการมีสมาธิกับตัวเอง แพ้ได้เป็นเรื่องธรรมดา แค่ต้องไม่สะดุดแพ้หรือเสมอติดๆ กันเท่านั้นพอ
แต่หาก 'แมนเชสเตอร์ดาร์บี้' กลายเป็นวันสีฟ้าอีก ก็ยกแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กันไปได้เลย

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด