เวลานี้ยังไม่มีใครตอบได้ว่า พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-20 จะกลับมาเตะกันต่อวันเสาร์ที่ 4 เมษายนได้หรือไม่ หรือจะต้องยืดเวลาออกไปอีก หรือ หรือ หรือ...?
มีคำถามในใจเกิดขึ้นมากมาย ไม่เพียงแค่แฟนบอล นักฟุตบอล บุคลากรของสโมสร แต่ยังรวมถึงผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจเอง อย่าง พรีเมียร์ลีก ฟุตบอลลีก สมาคมฟุตบอล และ รัฐบาล ก็ยังคงมองหาคำตอบที่แน่ชัดอยู่
ฤดูกาล 2019-20 จะกลับมาเตะกันต่อได้มั้ย?
ถ้าเตะกันต่อได้ แล้วกระเทือนไปถึงศึกใหญ่ ยูโร 2020 จะทำอย่างไร?
ศึกยูโร 2020 จะเลื่อนไปเตะปีหน้าแทนมั้ย?
หรือศึกยูโร 2020 จะขยับเวลาเลื่อนออกไป แล้วนักเตะจะเอาเวลาที่ไหนไปพักร้อน?
แต่ถ้าเกมลีก เตะต่อไม่ได้ แล้วจะตัดสินอันดับในตารางกันอย่างไร?
ใครจะได้ไปเล่นถ้วยยุโรป ตกชั้น และเลื่อนชั้นจากลีกรอง?
ที่สำคัญที่สุด ลิเวอร์พูล จะได้แชมป์มั้ย?
และคำตอบอื่นๆ อีกมากมายก่ายกอง
ตอนนี้ยังมีเพียงการคาดการณ์ การเสนอแนะจากหลายฝ่าย เพราะปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะเป็นคำตอบให้ทุกอย่าง นั่นก็คือ อังกฤษ จะควบคุมสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ตอนไหน?
ในกรณีที่ซีซั่น 2019-20 ไม่สามารถไปต่อได้แล้ว เป็นเรื่องยากที่ พรีเมียร์ลีก และ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ จะตัดสินบทสรุปไปในทางใดทางหนึ่ง เพราะถ้าเลือก 'ซ้าย' ก็จะต้องมีทีมที่ได้ประโยชน์ และเสียประโยชน์ ถ้าเลือก 'ขวา' ก็จะมีทีมได้ประโยชน์ เสียประโยชน์เช่นกัน
สปอร์ตเมล ลงรายละเอียดว่าเวลานี้ บรรดา 20 ทีมพรีเมียร์ลีกเกิดเสียงแตก มีทั้งพวกที่อยากให้กลับมาเตะต่อในเดือนหน้า และพวกที่อยากให้ซีซั่นนี้ตัดตอนลงเลย (แต่เป็นส่วนน้อย) ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป
แต่ที่แน่ๆ มีสโมสรที่ได้รับผลกระทบ และยังไม่อยากคิดเรื่องอะไรทั้งนั้น นอกจากความปลอดภัยของนักเตะและบุคลากรทุกคนของสโมสรมาเป็นอันดับแรก นั่นก็คือ อาร์เซน่อล, เชลซี, เลสเตอร์, บอร์นมัธ, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เวสต์แฮม, ไบรท์ตัน และ เอฟเวอร์ตัน
มีทั้งทีมที่ติดเชื้อแล้วอย่าง มิเกล อาร์เตต้า เฮดโค้ช อาร์เซน่อล, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ปีก เชลซี ทีมที่มีอาการต้องสงสัย และทีมที่ลงสนามเผชิญหน้ากับทีมที่ติดเชื้อ
จากการประกาศระงับเกมฟุตบอล 4 ลีกใหญ่ และ วีเมน ซูเปอร์ลีก จนถึงวันที่ 3 เมษายน เกิดขึ้นหลังจากการประชุมร่วมกันของทุกฝ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ 13 มีนาคม ซึ่ง เกร็ก คล้าร์ก ประธานสมาคมฟุตบอลอังกฤษเชื่อว่าฤดูกาล 2019-20 มีโอกาสแข่งไม่จบสูง เพราะช่วงเวลาเพียงสามสัปดาห์ ไม่น่าจะรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อร้ายอยู่
และหากรัฐบาลมีคำสั่งให้เลื่อนการทำกิจกรรมทุกอย่างที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มากออกไปอีก องค์กรลูกหนังก็ไม่มีทางเลือกอื่น
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นร้ายแรงกว่านักฟุตบอล และบุคลากรต่างๆ ของสโมสร นั่นคือแฟนบอล เพราะอย่างเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกลางสัปดาห์ (ก่อนมีคำสั่งระงับเกมหลายลีกใหญ่) ไม่มีใครรับประกันได้ว่า กองเชียร์ 52,000 คนเศษที่ แอนฟิลด์ และ 42,000 เศษที่ เร้ดบูลล์ อารีน่า ไม่มีใครติดเชื้อ และไม่มีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นบนอัฒจันทร์
ดังนั้นการเลื่อนศึกยูโร 2020 ออกไปเตะปีหน้า แล้วขยับฟุตบอลลีกยุโรปให้ไปเตะจนถึงเดือนมิถุนายนหรือกรกฏาคมแทน ก็มีความเป็นไปได้ แต่ก็จะมีอีกประเด็นตามมา นั่นก็คือนักเตะที่กำลังจะหมดสัญญาหลังสิ้นสุดเดือนมิ.ย. ที่ตอนนี้บรรดาทีม 20 ทีมพรีเมียร์ลีก มีนักเตะถึง 69 คนรวมกันที่กำลังจะกลายเป็นฟรีเอเยนต์
หรือจะเป็นประเด็นซื้อขายที่อาจจะต้องระงับการเสริมทัพเอาไว้จนกว่าซีซั่นจะปิดลงเสียก่อน เพื่อไม่ให้เป็นการได้เปรียบเสียเปรียบสำหรับการลุ้นตกชั้น และการลุ้นทำอันดับไปลุยถ้วยยุโรป
สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป จะเรียกสมาคมฟุตบอลทุกประเทศร่วมประชุมเพื่อหาบทสรุปวันอังคารนี้ จากนั้นพรีเมียร์ลีกก็จะเรียกประชุมทุกสโมสรต่อในวันพฤหัสบดี เพื่อลงมติและหาคำตอบร่วมกัน
ในฐานะแฟนบอล ทางเดียวที่จะสามารถคาดเดาคำตอบ หรือทิศทางในอนาคตของฤดูกาล 2019-20 นั่นก็คือการเช็กยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบวันต่อวัน ว่าพุ่งสูงขึ้นมากน้อยแค่ไหนในช่วงเวลาอีกสามสัปดาห์นับจากนี้
และถ้าบทสรุปออกมาว่า "ซีซั่นนี้เตะไม่จบ" ก็เตรียมรอรับความวุ่นวายที่จะตามมาเพียบเอาไว้ได้เลย
