มาถึงตอนสอง ศูนย์หน้าที่ตำนานผู้จัดการทีม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เซ็นสัญญาเข้าสู่ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตลอดช่วงเวลาที่คุมทีมในพรีเมียร์ลีก
นับตั้งแต่คนแรกในฤดูกาล 1992-93 มาจนถึงฤดูกาลสุดท้าย 2012-13 มีศูนย์หน้าคนใดบ้างที่ถูกซื้อเข้าสู่รัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดย 'เซอร์ อเล็กซ์' และใครประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวกันบ้าง
หลังจากตอนแรกเอ่ยถึงไปแล้ว 8 ราย ในจำนวนนั้นมีตำนานของสโมสรอย่าง เอริค ก็องโตน่า, แอนดี้ โคล, โอเล่ กุนนาร์ โซลชา, ดไวท์ ยอร์ค รวมอยู่ด้วย
รุด ฟาน นิสเตลรอย
"พ่อต้องเซ็นสัญญา ฟาน นิสเตลรอย มาให้ได้ เขาสุดยอดมาก" คำแนะนำจาก ดาร์เรน เฟอร์กูสัน ลูกชายที่ช่วงปลายทศวรรษ 1990 ไปค้าแข้งอยู่ใน เอเรดิวิซี่ ช่วงสั้นๆ ทันใดนั้น 'เฟอร์กี้' ก็รีบส่งแมวมองไปดูฟอร์มในเกมถัดไปของ พีเอสวี และรวบรัดคว้าตัวมาอยู่ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
อาการบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าข้อเข่า หรือ 'เอซีแอล' ตอนซ้อม ทำให้การย้ายทีมของ ฟาน นิสเตลรอย ต้องชะลอไปเกือบปี แต่นั่นยิ่งเป็นการเพิ่มแรงกระตุ้นให้ดาวยิงดัตช์กระหายลุยพรีเมียร์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากขึ้น
36 ประตูจาก 49 เกมในซีซั่นแรก 2001-02 เพิ่มเป็น 44 ประตูจาก 52 เกมในซีซั่นที่สอง และจบ 5 ฤดูกาลในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่ 150 ประตูจาก 219 นัด เป็นเจ้าของรางวัลใหญ่ๆ อย่าง นักเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกซีซั่น 2002-03, รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีกในปีเดียวกัน, นักเตะยอดเยี่ยมของพีเอฟเอทั้งสองรางวัลซีซั่น 2001-02 และนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร (เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้) ซีซั่น 2001-02 และ 2002-03
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ฟาน นิสเตลรอย ครบเครื่องตามแบบฉบับของศูนย์หน้าตัวเป้า และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถค้นพบกองหน้าสไตล์นี้ได้อีกเลย
ดีเอโก้ ฟอร์ลัน
เป็นเพราะผลงานการถล่มประตู 33 ลูกจาก 65 เกมจากสองฤดูกาลให้กับ อินเดเพนเดียนเต้ ในลีกอาร์เจนตินา ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องปฏิบัติการฉกดาวยิงอุรุกวัยตัดหน้า มิดเดิลสโบรช์ และเปิดตัวเซ็นสัญญาในเดือนมกราคมปี 2002
การมาถึงของ ฟอร์ลัน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แฟนๆ ผีแดง ที่ส่วนใหญ่ไม่เคยได้เห็นฝีเท้าของดาวยิงฟอร์มกระฉูดจากทวีปอเมริกาใต้ แต่ในช่วงครึ่งซีซั่นแรก ทุกคนกลับมีเครื่องหมายคำถามอยู่บนใบหน้า เมื่อเห็นผลงาน 13 เกมพรีเมียร์ลีก กับ 5 เกมแชมเปี้ยนส์ลีก ที่ไร้แม้แต่ประตูเดียว
หลังจากนั้นอีกสองฤดูกาล ฟอร์ลัน ก็ยังยิงจุ๋มจิ๋ม 9 ประตูจาก 45 เกม กับ 8 ประตูจาก 32 เกม แม้ในจำนวนนั้นมีสองประตูที่ยิงใส่ ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ แต่สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องขายไป บียาร์เรอัล และไปแจ้งเกิดยิงกระจายในเวที ลาลีกา
ดาบิด แบลลิยง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จับตามองตัวรุกชาวฝรั่งเศส ที่กำลังจะหมดสัญญากับ ซันเดอร์แลนด์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2003 และในที่สุดก็ชนะใจกองหน้ากึ่งปีก เหนือคู่แข่ง ลิเวอร์พูล กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง แม้สุดท้ายแล้ว ผีแดง ต้องจ่ายเงินชดเชยให้ แมวดำ ตามกฏของ ฟีฟ่า แต่ก็ตกลงค่าตัวกันได้ที่ 2 ล้านปอนด์
แบลลิยง ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนม้านั่งสำรอง มีเพียง 8 ประตูจาก 40 เกมในสองฤดูกาล 2003-04 กับ 2004-05 เพราะซีซั่นสุดท้ายเป็นการปล่อยตัวให้ เวสต์แฮม และ นีซ ยืมใช้งานก่อนขายขาดในเวลาต่อมา
คริสเตียโน่ โรนัลโด้
หลังจากขาย เดวิด เบ๊คแฮม ไปให้ เรอัล มาดริด ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม อีกหนึ่งเดือนเศษๆ 'เซอร์ อเล็กซ์' ก็มอบเสื้อหมายเลข 7 ให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เด็กหนุ่มวัย 18 ปี ที่ซื้อมาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน
เดิมที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีแผนคว้าตัว โรนัลโด้ และส่งกลับให้ สปอร์ติ้ง ปลุกปั้นต่ออีกสักหนึ่งฤดูกาล แต่หลังจากที่ทุกคนเห็นฟอร์มในเกมอุ่นเครื่องเดือนสิงหาคม ก่อนเริ่มต้นซีซั่น 2003-04 บรรดานักเตะ ผีแดง ก็กระตุ้นให้ 'เฟอร์กี้' รีบดึงตัวปีกจอมสับรายนี้มาร่วมทีมทันที
โรนัลโด้ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แฟนๆ ด้วยลีลา เทคนิค ความเร็วที่ไม่ธรรมดา และค่อยๆ พัฒนาเรื่องการทำประตูจาก 6 เป็น 9 เป็น 12 เป็น 23 และก้าวกระโดดไปถึงฤดูกาลที่ดีที่สุด 42 ประตูจาก 49 เกมซีซั่น 2007-08 ปีที่คว้าดับเบิ้ลแชมป์พรีเมียร์ลีก และแชมเปี้ยนส์ลีก
จากกองหน้ากึ่งปีก กลายร่างเป็นศูนย์หน้าจอมถล่มประตูเต็มตัว จนถูก เรอัล มาดริด ซื้อไปร่วมทัพในปี 2009 ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติโลกในช่วงเวลานั้น 80 ล้านปอนด์
ตง ฟางโจว
ด้วยเหตุผลทางการตลาด ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเซ็นสัญญากับ ตง ฟางโจว ดาวรุ่งชาวจีนในวัย 18 ย่าง 19 ด้วยค่าตัว 500,000 ปอนด์ที่อาจเพิ่มเป็น 3.5 ล้านปอนด์ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการลงสนาม และกลายเป็นนักเตะจากเอเชียตะวันออกคนแรกที่ได้สวมชุด ผีแดง
อย่างไรก็ตาม ตง ติดปัญหาในเรื่องใบอนุญาติทำงานในอังกฤษ ทำให้ต้องปล่อยไปให้ทีมพันธมิตร รอยัล อันท์เวิร์ป ในลีกเบลเยียมยืมใช้งานสองซีซั่น
แม้ได้โอกาสโชว์ฝีเท้าในเกมปรีซีซั่นอยู่สองฤดูกาล แต่ก็ต้องรอถึงสามปีกว่าจะได้เวิร์คเพอร์มิต และถูกบรรจุรายชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่เดือนมกราคมปี 2007 แถมยังได้สัญญาฉบับใหม่ถึงปี 2010 ด้วย
แต่ท้ายสุดแล้ว เมื่อได้เห็นฝีเท้าในชุด ผีแดง เต็มๆ เบอร์ 21 ของ ตง ก็ถูกยึดไปให้ ราฟาเอล ก่อนเริ่มต้นซีซั่น 2008-09 และตกลงยกเลิกสัญญากันด้วยดีในเดือนสิงหาคม
หลุยส์ ซาฮา
เบอร์ 9 ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีใครจับจ้องนับตั้งแต่ปลายปี 2001 ที่ขาย แอนดี้ โคล ไปให้ แบล็คเบิร์น ผ่านไปสองปีเศษๆ ถึงได้ หลุยส์ ซาฮา เข้ามาสวมเสื้อหลายเลขนี้ หลังทุ่มซื้อมาจาก ฟูแล่ม ในราคา 12.82 ล้านปอนด์
63 ประตูจาก 142 เกมกับ ฟูแล่ม โดยเฉพาะครึ่งแรกของซีซั่น 2003-04 ที่ซัลโว 15 ประตูจาก 22 เกม คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องไปดึงศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศสมาสู่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ซาฮา สร้างความประทับใจได้อย่างรวดเร็ว 7 ประตูจาก 12 เกมพรีเมียร์ลีกในซีซั่นแรก (ครึ่งหลัง) แต่น่าเสียดายที่ปัญหาหลักคืออาการบาดเจ็บ ถึงกระนั้นก็ได้ภาคภูมิใจกับแชมป์พรีเมียร์ลีกสองสมัย และแชมเปี้ยนส์ลีกหนึ่งสมัย แม้ตกอยู่ภายใต้ร่มเงาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์ และ คาร์ลอส เตเวซ ก็ตาม
อลัน สมิธ
เด็กหนุ่มวัย 18 ปี แจ้งเกิดกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่เกมประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ ที่ซัลโวประตูได้ทันทีในการเผชิญหน้ากับ ลิเวอร์พูล หลังจากรับบทบาทตัวสำรองในช่วงแรก ก็กลายเป็นคู่ศูนย์หน้าตัวหลักกับ จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลแบงค์
อย่างไรก็ตาม หลังจาก ลีดส์ ตกชั้นซีซั่น 2003-04 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ฉวยโอกาสทอง จ่าย 7 ล้านปอนด์ดึง สมิธ มาเป็นสมาชิกใหม่ในโรงละครแห่งความฝัน
แต่การจะสอดแทรกเข้าสู่ทีมตัวจริงที่มีทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์, รุด ฟาน นิสเตลรอย ไม่ใช่เรื่องง่าย และด้วยสไตล์การเล่นที่ห้าวหาญ บู๊ล้างผลาญแบบถึงลูกถึงคน ทำให้ 'เฟอร์กี้' มองเห็นอะไรบางอย่างในตัว สมิธ และเริ่มทดลองจับยืนกองกลางแทนที่ รอย คีน ในฤดูกาล 2005-06
โชคร้ายที่ สมิธ เกิดขาหักสยองในเกมที่ แอนฟิลด์ และไม่สามารถกลับมาเป็นคนเดิมได้อีกเลย จนขายไปให้ นิวคาสเซิ่ล ในปี 2007 ด้วยค่าตัวที่เกือบคืนทุน 6 ล้านปอนด์
จูเซ็ปเป้ รอสซี่
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซื้อสัญญาดึงตัว รอสซี่ มาจากทีมเยาวชนของ ปาร์ม่า ตอนอายุ 17 ปี เพื่อมาปลุกปั้นต่อภายใต้การดูแลของ ริคกี้ สบราเกีย กับ ไบรอัน แม็คแคลร์
แม้รูปร่างเล็ก เตี้ย และผอมบาง แต่ 'เฟอร์กี้' ก็เห็นบางอย่างในตัว รอสซี่ จึงจับประเดิมทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปีแรกที่มาถึง ในเกมลีกคัพ ซึ่งเป็นการลงสำรองช่วงท้ายเกม หลังจากนั้นซีซั่นต่อมา ศูนย์หน้าเชื้อสายอิตาเลียนที่ไปเกิดและโตในสหรัฐอเมริกา จึงได้ประเดิมเกมพรีเมียร์ลีก และประเดิมประตูด้วยในเกมที่บุกชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-1
รอสซี่ อยู่ในทีม ผีแดง ช่วงที่เบียดตำแหน่งตัวจริงในแนวรุกยากๆ จริง จนในที่สุดต้องขายไปให้ บียาร์เรอัล และยิงกระฉูดในเวทีลาลีกา ตามรอยเท้า ดีเอโก้ ฟอร์ลัน
เวย์น รูนี่ย์
แจ้งเกิดกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อก้าวเท้าขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2001-02 ตั้งแต่อายุ 16 ขวบเศษๆ แต่การประเดิมสนามจริงๆ เกิดขึ้นในฤดูกาลถัดมา สร้างปรากฏการณ์ให้เกิดขึ้นมากมาย และที่ติดตาตรึงใจมาจนถึงทุกวันนี้คือลูกยิงไกลนาทีสุดท้ายที่ยิงดับ อาร์เซน่อล หยุดผลงานไม่แพ้ใคร 30 เกมของ ปืนใหญ่ ลง
แม้ซัลโวประตูให้ เอฟเวอร์ตัน ไม่ถึงสองหลักทั้งซีซั่น 2002-03 และ 2003-04 แต่ด้วยลีลาการเล่นที่ดุดัน เท้าหนัก และคมกริบ ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมจ่าย 27 ล้านปอนด์ เป็นค่าตัวของ รูนี่ย์ ที่กลายเป็นสถิติดาวรุ่งอายุไม่เกิน 20 ปีที่ค่าตัวแพงสุดของโลกในช่วงเวลานั้น
ผลงานและความสำเร็จของ รูนี่ย์ ตลอด 13 ฤดูกาลในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่อาจบรรยายได้ครบในพื้นที่เล็กๆ เอาเป็นว่ากวาดแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, เอฟเอคัพ 1 สมัย, ลีกคัพ 3 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, ยูโรปาลีก 1 สมัย, ฟีฟ่า คลับเวิลด์คัพ 1 สมัย
เกียรติประวัติส่วนตัวอีกยาวเหยียดที่ทำให้ชื่อของ รูนี่ย์ กลายเป็นตำนานของสโมสรไปเรียบร้อย โดยเฉพาะ 253 ประตูจากการลงเล่น 559 เกมใน 13 ซีซั่น กลายเป็นเจ้าของสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสร
*ติดตามตอนต่อไป