ภายหลังจับสลากรอบแบ่งกลุ่ม ฟุตบอลโลก 2018 กันไปครบถ้วน หลายทีมต้องเจอคู่ปรับเก่า และบางทีมต้องโคจรกลับมาอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกันอีกครั้ง
จาก 32 ทีมที่ไป รัสเซีย มีถึง 36 คู่ที่เคยพบกันมาก่อนเฉพาะเกมรอบสุดท้าย ยังพอจะจำกันได้มั้ยว่ามีเกมไหน ใครเจอกับใคร และผลเป็นยังไงกันบ้าง
ขอคัดเอามาเรียกน้ำย่อยกันแค่ส่วนหนึ่ง ไล่เรียงจาก กลุ่มเอ ไปจนถึง กลุ่มเอช
กลุ่มเอ : รัสเซีย, ซาอุดิอาราเบีย, อียิปต์, อุรุกวัย
กลุ่มนี้ อียิปต์ กับ ซาอุฯ ไม่เคยเจอกันกับเพื่อนร่วมกลุ่มนี้มาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ และมีเพียง รัสเซีย (สหภาพโซเวียต เดิม) ที่เคยเจอกับ อุรุกวัย มา 2 ครั้ง ในปี 1962 รอบแรก โซเวียต ชนะ 2-1 และปี 1970 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ต้องเล่นถึงต่อเวลา อุรุกวัย เฉือน 1-0
กลุ่มบี : โปรตุเกส, สเปน, โมร็อกโก, อิหร่าน
น่าสนใจตรงที่สองยักษ์ของยุโรป โปรตุเกส กับ สเปน อยู่ร่วมกลุ่มกัน เพราะในอดีตเคยต่อกรกันมาในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ปี 2010 ที่ สเปน เชือด 1-0 จากประตูเดียวของ ดาบิด บีย่า ก่อนทะลุเข้าไปเป็นแชมป์ ส่วนคู่อื่นๆ ก็มีเกมรอบแรก ปี 1986 โมร็อกโก เคยชนะ โปรตุเกส 3-1 และปี 2006 โปรตุเกส ชนะ อิหร่าน 2-0
กลุ่มซี : ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, เปรู, เดนมาร์ก
สองทีมไม้ประดับของกลุ่ม ออสเตรเลีย กับ เปรู ไม่เคยเจอกับทุกทีมในกลุ่มนี้มาก่อน มีเพียง ฝรั่งเศส กับ เดนมาร์ก ที่เคยพบกันมาในรอบแรกสองครั้งติดๆ ครั้งแรกปี 1998 ฝรั่งเศส ชนะ 2-1 กอดคอกันเข้ารอบ และ 4 ปีต่อมา เดนมาร์ก ทวงคืน 2-0 พร้อมถีบ ตราไก่ ร่วงด้วยการเป็นบ๊วยกลุ่มด้วย
กลุ่มดี : อาร์เจนตินา, ไอซ์แลนด์, โครเอเชีย, ไนจีเรีย
กลุ่มนี้ตัด ไอซ์แลนด์ ที่เพิ่งเข้าร่วมรอบสุดท้ายครั้งแรก ส่วน 3 ชาติที่เหลือเคยเจอกันมาถึง 5 ครั้ง เป็นเกมรอบแรกทั้งหมด ปี 1994 อาร์เจนตินา ชนะ ไนจีเรีย 2-1, ปี 1998 อาร์เจนตินา ชนะ โครเอเชีย 1-0, ปี 2002 อาร์เจนตินา ชนะ ไนจีเรีย 1-0, ปี 2010 อาร์เจนตินา ชนะ ไนจีเรีย 1-0 และปี 2014 อาร์เจนตินา ชนะ ไนจีเรีย 3-2 เรียกได้ว่า 'ฟ้า-ขาว' รวด
กลุ่มอี : บราซิล, สวิตเซอร์แลนด์, คอสตาริกา, เซอร์เบีย
กลุ่มนี้เคยพบกันมาเพียบทีเดียว โดยเฉพาะ บราซิล กับ เซอร์เบีย ที่ก่อนหน้านี้คือ ยูโกสลาเวีย ห้ำหั่นกันมา 4 ครั้ง เสมอ 2 และผลัดกันแพ้ชนะในอดีต เกมสุดท้ายที่พบกันคือ บราซิล กับ คอสตาริกา รอบแรก ปี 2002 ซึ่งครั้งนั้น แซมบ้า ถล่มสบายเท้า 5-2
กลุ่มเอฟ : เยอรมนี, เม็กซิโก, สวีเดน, เกาหลีใต้
นี่คือกลุ่มที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกันมามากที่สุด เพราะ 4 ทีมนี้เคยพบกันมาถึง 11 เกม ที่อยู่ในความทรงจำมากที่สุดเห็นจะเป็นรอบรองชนะเลิศ ปี 2002 เยอรมนี เฉือนชนะเจ้าภาพ เกาหลีใต้ 1-0 จากประตูชัยท้ายเกมของ มิชาเอล บัลลัค, รอบ 8 ทีมสุดท้าย ปี 1986 เยอรมันตะวันตก ชนะจุดโทษ เม็กซิโก 4-1 หลังเสมอกัน 0-0, รอบ 16 ทีมสุดท้าย ปี 1998 เยอรมนี ชนะ เม็กซิโก 2-1, รอบ 16 ทีมสุดท้าย ปี 2006 เยอรมนี ซึ่งเป็นเจ้าภาพ ชนะ สวีเดน 2-0
กลุ่มจี : เบลเยียม, ปานามา, ตูนิเซีย, อังกฤษ
สองชาติใหญ่ของยุโรป เบลเยียม กับ อังกฤษ โคจรมาอยู่ร่วมกัน ซึ่งในอดีตเคยพบกันมา 2 ครั้ง ครั้งแรกปี 1954 เกมรอบแรก เสมอกัน 4-4 และครั้งหลังคือรอบ 16 ทีมสุดท้าย ปี 1990 ที่ต้องเล่นถึงต่อเวลา ก่อนที่ เดวิด แพล็ตต์ ซัลโวประตูชัยนาที 119 เฉือนเข้ารอบไปแบบบีบหัวใจ นอกนั้นเป็นเกมรอบแรก ปี 1998 อลัน เชียเรอร์ กับ พอล สโคลส์ ยิงคนละลูกให้ อังกฤษ เชือด ตูนิเซีย 2-0 และปี 2002 ตูนิเซีย เสมอ เบลเยียม 1-1
กลุ่มเอช : โปแลนด์, เซเนกัล, โคลอมเบีย, ญี่ปุ่น
ด้วยความที่มี โปแลนด์ เป็นชาติจากโถแรก ทำให้กลุ่มนี้มีเพียงเกมเดียวที่เคยพบกันมาในอดีต ซึ่งก็เกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน ที่ ญี่ปุ่น กับ โคลอมเบีย อยู่ร่วมกลุ่มเดียวกัน เกมนั้น แจ็คสัน มาร์ติเนซ กดคนเดียว 2 ที่เหลือจาก ฮวน กวาดราโด้ กับ ฮาเมส โรดริเกซ ช่วยให้ โคลอมเบีย ถล่ม 4-1 คว้าชัยชนะ 3 นัดรวด พร้อมถีบ ซามูไร กลับบ้าน