8 ประตูจาก 10 นัดหลังสุด เอแดน อาซาร์ ใกล้เคียงกับฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเองแล้วในเวลานี้
ด้วยระบบการเล่น 3-5-2 ที่ อันโตนิโอ คอนเต้ เลือกใช้หลายๆ นัดในช่วงหลัง ดูเหมือนจะเข้ากับ อาซาร์ มากทีเดียว เพราะแท็กติกนี้ทำให้จอมทัพเบลเยียมมีอิสระอย่างเต็มที่ในการขึ้นเกมรุก
ย้อนกลับไปในเกมเฉือนชนะ สวอนซี 1-0 เมื่อวันพุธ คอนเต้ โรเตชั่นทีมในช่วงเวลาที่โปรแกรมแน่นเอี้ยด และ อาซาร์ ถูกพักไว้ข้างสนาม จึงต้องกลับมายึดระบบเดิมคือ 3-4-3 หรือจะเรียก 3-4-1-2 ก็ไม่ผิด
ตัวปั้นเกมรุกถูกวางเอาไว้สองคน วิลเลียน กับ เปโดร โรดริเกซ โดยที่มิดฟิลด์คู่กลาง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กับ เชส ฟาเบรกาส
แต่ในเกมที่ชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-1 เมื่อวันเสาร์ พอมี อาซาร์ กลับมาลงสนามอีกครั้ง คอนเต้ ก็สามารถเลือกอัดแดนกลางเพิ่มอีก โดยส่ง แดนนี่ ดริงค์วอเตอร์ ลงมาผนึกกับ ก็องเต้ และให้อิสระ ฟาเบรกาส ในการช่วยเกมรุกเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวรุกแท้ๆ ถูกถอดออกไป 1 คน ความหวังในการสร้างสรรค์โอกาสทำประตู ก็ต้องตกอยู่บนบ่า อาซาร์ เพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ปัญหาที่ คอนเต้ ต้องกังวล
"ผมคิดว่าเขามีเกมที่ดี เขาสนุกกับการเล่นในเกมแบบนี้ เขาคือนักเตะคนสำคัญของเรา ขณะที่เราก็สามารถเปลี่ยนระบบการเล่นได้ วันนี้ เอแดน กับ อัลบาโร่ แสดงให้เห็นถึงการประสานงานที่ดีมาก" คอนเต้ เอ่ยถึงลูกทีมคนโปรด
แม้ยิง 2 ประตู และเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ แต่ อาซาร์ ก็อดทำแฮตทริก หลังถูกเปลี่ยนตัวออกในนาที 78 ให้ วิลเลียน ลงไปแทน ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่มีปัญหากับประเด็นนั้น
"ไม่เลย นั่นมันไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม มันเป็นปัญหาสำหรับ เชส ฟาเบรกาส มากกว่า เพราะเขาน่าจะทำได้อีกสักแอสซิสต์" อาซาร์ กล่าวติดตลก
"แต่อย่างน้อย เราคว้าชัยชนะ นั่นเป็นเรื่องสำคัญที่สุด นักเตะทุกคนต่างต้องการลงเล่น เรายังมีเกมวันอังคารรออยู่ ผมคิดว่าบางครั้งมันก็เป็นเรื่องดีที่ได้พัก"
"แต่แน่นอน เมื่อคุณยิงสองประตูแล้ว คุณย่อมอยากยิงแฮตทริก แต่ถ้าคนอื่นๆ ยิงได้ ผมก็ไม่มีปัญหา"
จาก 2 ประตูของ อาซาร์ เมื่อวันเสาร์ ทำให้ นิวคาสเซิ่ล กลายเป็นทีมที่ถูกโฉลกกับตัวรุกเบลเยียมมากที่สุด เพราะยอดรวมเพิ่มเป็น 6 ประตูแล้ว จากการลงเผชิญหน้ากับ สาลิกาดง 8 นัด แซงผ่าน บอร์นมัธ กับ เวสต์บรอมวิช ที่จอมทัพเบอร์ 10 ยิงไปทีมละ 5 ประตูเรียบร้อย
เวลานี้ สถานการณ์ของ เชลซี ยังอยู่อันดับ 3 ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 2 อยู่ 3 คะแนนเท่าเดิม ส่วนจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ควรพูดถึง ตามความคิดของ คอนเต้
"คุณรู้ดีอยู่แล้วว่าตอนนี้มีทีมที่ทำผลงานโดดเด่นเป็นพิเศษ นั่นคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เรายังเกาะกลุ่มอยู่กับทีมอื่นๆ มันสำคัญมากที่เราต้องมีสมาธิกับผลงานของตัวเอง และมองไปแบบเกมต่อเกม" คอนเต้ พูดถึงสถานการณ์ในตารางเวลานี้
ผลงานของ เชลซี ถือว่าเดินไปตามเป้าหมายทุกประการ เพราะก่อนหน้าเกมที่บุกเสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 ทีมของ คอนเต้ เก็บ 12 คะแนนเต็มจาก 4 นัด และหลังจากเกมที่ แอนฟิลด์ พวกเขาสามารถมองยาวๆ ถึงชัยชนะ 8 นัดรวด ซึ่งทำได้ไปแล้ว 2
โปรแกรมต่อจากนี้ เอาเฉพาะพรีเมียร์ลีกในเดือนธันวาคม เกมต่อไป เยือน เวสต์แฮม, เยือน ฮัดเดอร์สฟิลด์, เหย้า เซาธ์แฮมป์ตัน, เยือน เอฟเวอร์ตัน, เหย้า ไบรท์ตัน, เหย้า สโต๊ค จะมียากที่สุดก็คือเกมที่ กูดิสัน พาร์ค หลังจากนั้นจึงเป็นเกมใหญ่ เยือน อาร์เซน่อล ในศึกลอนดอนดาร์บี้ วันที่ 3 มกราคม
หากเป็นไปตามแผนที่ คอนเต้ วางเอาไว้ เชลซี จะมีเพิ่มเป็น 50 คะแนน (หรืออาจจะ 48 คะแนน) ตอนสิ้นสุดปี 2017 ถึงเวลานั้น ค่อยมาดูกันว่า สองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ มีใครสะดุดกันบ้าง
