การเกิดเป็นลูกนักฟุตบอลชื่อดัง มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่จะเป็นเครื่องวัดว่า 'สอบผ่าน' หรือ 'สอบตก' นั่นก็คือ 'ฝีเท้า' และผลงานในสนาม
การได้มีนามสกุลเดียวกับพ่อที่เป็นอดีตนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ หลายคนได้เปรียบตรงโอกาสที่ได้รับในฐานะนักเตะเยาวชนของสโมสรใหญ่ หรือส่วนใหญ่ถูกจับเข้าศูนย์ฝึกเยาวชนของสโมสรที่ผู้เป็นพ่อเคยสร้างชื่อ
ฤดูกาลนี้ บุนเดสลีกา กำลังแจ้งเกิด เออร์ลิง เบราท์ ลูกชายของ อัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์, มาร์คุส ตูราม ลูกชายของ ลีลียอง ตูราม, โจวานนี่ เรย์น่า ลูกชายของ เคลาดิโอ เรย์น่า เป็นต้น
แต่ลูกนักฟุตบอลชื่อดังหลายต่อหลายคนปลุกปั้นยังไงก็ปั้นไม่ขึ้น จนต้องกระเสือกกระสนรักษาเส้นทางอาชีพของตัวเองอยู่แบบเงียบๆ กับสโมสรเล็กๆ หรือไม่ บางคนก็เลิกเล่นก่อนวัยอันควร
และนี่คือส่วนหนึ่งของ 'ลูก' นักฟุตบอลที่ไม่ประสบความสำเร็จเหมือน 'พ่อ'
มัทเธอุส โอลิเวร่า
ท่าดีใจ 'อุ้มลูก' สุดคลาสสิกของ เบเบโต้ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติบราซิล ถูกจดจำไปตลอดกาล เพราะประตูสำคัญที่ยิง ฮอลแลนด์ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในศึกฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นสองวันหลังจากภรรยาคลอดลูกชายอยู่ที่ รีโอ เด จาเนโร
เวลาผ่านไป 25 ปี มัทเธอุส เด อันดราเด้ กาม่า เด โอลิเวร่า หรือ มัทเธอุส โอลิเวร่า เดินตามรอยเท้าพ่อด้วยการเล่นตำแหน่งกองหน้า หรือมิดฟิลด์ตัวรุก แต่ไม่ประสบความสำเร็จในเวทียุโรป หลังจากอำลา ฟลาเมงโก้ มาตั้งแต่ปี 2015 และเป็นที่ฮือฮาไม่น้อย ตอนเซ็นสัญญากับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในปี 2017
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ สปอร์ติ้ง ปลุกปั้นและผลักดันนักเตะเยาวชนขึ้นสู่ชุดใหญ่อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ มัทเธอุส ถูกปล่อยให้ วิตอเรีย กีมาไรส์ ยืมใช้งานซีซั่นก่อน และฤดูกาลนี้ก็ถูกดองเค็มอยู่ในทีม ขณะที่มีสัญญายาวไปจนถึงปี 2022 แถมยังมีค่าฉีกสัญญา 60 ล้านยูโร แต่ดูแล้วคงไม่ได้ใช้แน่นอน
คาลิม อาโมคาชี่, นาซิม อาโมคาชี่
มาแบบแพ็กคู่ "ไปไหนไปด้วย" สำหรับสองลูกชายคู่แฝดของ ดาเนียล อาโมคาชี่ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไนจีเรีย ที่เคยมาสร้างชื่ออยู่ในพรีเมียร์ลีกกับ เอฟเวอร์ตัน ระหว่างปี 1994-1996 และสโมสรสุดท้ายในลีกยุโรปคือ เบซิคตัส ระหว่างปี 1996-1999
คาลิม และ นาซิม เกิดที่เมืองลิเวอร์พูล เมื่อปี 1996 ปัจจุบันอายุ 23 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนอนาคตของทั้งคู่ที่เล่นตัวรุกเหมือนกัน จะไม่สดใสในลีกยุโรปเอาเสียเลย แม้โชคดีกว่าคนอื่นตรงที่ เบซิคตัส เคยหยิบยื่นโอกาสเซ็นสัญญาระยะสั้น 1 ปี เมื่อปี 2016 แต่กลับสอบตกทั้งคู่ในทัพเยาวชนของทีมดังตุรกี
ปัจจุบัน ทั้ง คาลิม และ นาซิม บินกลับไนจีเรียไปแล้ว และเซ็นสัญญากับสโมสร ควาร่า ยูไนเต็ด ทีมฟุตบอลอาชีพในลีกสูงสุดของบ้านเกิด และคงต้องเริ่มต้นพิสูจน์ตัวเองใหม่ที่นี่
ลอเรนโซ่ ดิ ลิวิโอ
ในช่วงเวลาที่ อังเจโล่ ดิ ลิวิโอ กำลังสร้างชื่ออย่างมากกับ ยูเวนตุส ระหว่างปี 1993-1999 ที่คว้าสคูเด็ตโต้ร่วมกัน 3 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 1 สมัยเป็นต้น ลอเรนโซ่ ลูกชายได้ลืมตาดูโลกที่ ตูริน ในปี 1997
หลังจาก อังเจโล่ แขวนสตั๊ดกับ ฟิออเรนตินา ก็กลับมาทำงานกับ โรม่า สโมสรแรกในฐานะนักเตะเยาวชน โดยรับหน้าที่โค้ชในศูนย์ฝึกเยาวชนของ จัลโลรอสซี่ จึงไม่แปลกที่จะหนีบเอาลูกชาย ลอเรนโซ่ เข้ามาร่วมสังกัด
ลอเรนโซ่ ทำท่าว่าจะฉายแววสดใส เมื่อถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ฤดูกาล 2015-16 และได้ประเดิมเกมเซเรียอาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2016 ในฐานะตัวสำรองแทน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในช่วง 20 กว่านาทีสุดท้าย และนั่นคือเกมเดียวที่ได้ลงเล่น
กราฟชีวิตของ ลอเรนโซ่ เริ่มดิ่งลงเรื่อยๆ หลังถูก โรม่า ปล่อยยืม และกลายเป็นข่าวดังเมื่อตรวจโด๊ปไม่ผ่านระหว่างเล่นกับ เรจจิน่า เมื่อปี 2017 จนถูกแบนยาว 5 เดือน
ปัจจุบัน ลอเรนโซ่ ในวัย 23 ปี เล่นอยู่กับ คาตานซาโร่ สโมสรในเซเรียซี กลุ่มซี โดยเซ็นสัญญาระยะเวลาสามปีกันไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว
เบนจามิน เคียร์สเทน
การเริ่มต้นเส้นทางสายฟุตบอลของ เบนจามิน หรือ เบนนี่ เคียร์สเทน ลูกชายของ อูล์ฟ เคียร์สเทน อดีตกองหน้าทีมชาติเยอรมนี มีความคล้ายคลึงกับพ่อ แต่หลังจากนั้นก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เบนนี่ เกิดในเยอรมนีตะวันออกเฉกเช่นผู้พ่อ ก้าวเข้าสู่ทีมเยาวชนของ ดินาโม เดรสเดน ต่อด้วย ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น สโมสรที่ อูล์ฟ กลายเป็นตำนานที่นั่น
แต่เส้นทางของลูกชายที่เล่นตำแหน่งผู้รักษาประตูไม่เคยง่าย หลังจากมีโอกาสลงเฝ้าเสาให้กับทีมสำรองเท่านั้น จากนั้นก็ย้ายไป วาลด์โฮฟ มานน์ไฮม์, ดินาโม เดรสเดน, เอ็นอีซี และสโมสรปัจจุบัน โลโคโมทีฟ ไลป์ซิก ในวัย 33 ปี
คัลลัม เฮนดรี้
สองปีเศษๆ หลังจาก โคลิน เฮนดรี้ อดีตเซนเตอร์แบ็กกำลังหลักของ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ชูโทรฟี่ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 1994-95 เจ้าลูกชาย คัลลัม ซึ่งเป็นคนที่สาม ก็โผล่ออกมามองดูความสำเร็จของพ่อ
คัลลัม เกิดที่เมืองแบล็คเบิร์น และเป็นลูกคนเดียวที่หวังเอาดีในฐานะนักฟุตบอลเหมือนพ่อ และถือเป็นโอกาสดีที่ กุหลาบไฟ ดึงตัวไปเข้าทีมเยาวชน ในฐานะลูกชายของตำนานสโมสร
แต่ คัลลัม ที่รับบทกองหน้า ก็ถูกปล่อยตัวถาวรเมื่อปี 2017 และเซ็นสัญญากับ เซนต์ จอห์นสโตน หลังจากนั้น โดยปัจจุบันยังมีสัญญาถึงปี 2022 อย่างไรก็ตาม ซีซั่นที่ผ่านมาผลงานของ เฮนดรี้ ถือว่าทรงๆ ลงเล่นไป 27 เกม (ตัวจริง 9 ตัวสำรอง 18) ยิงไป 9 ประตู
ซาเมียร์ ฮัดจิ
หลังจาก มุสตาฟา ฮัดจิ อพยพย้ายถิ่นฐานตามพ่อกับแม่จากโมร็อกโกมาอยู่ฝรั่งเศสตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ก็ถือเป็นโชคดีของรุ่นหลาน ซาเมียร์ ฮัดจิ ที่ได้ลืมตาดูโลกในประเทศฝรั่งเศส ขณะที่ผู้เป็นพ่ออายุเพียง 18 เท่านั้น
ซาเมียร์ ย้ายจาก ซาร์บรู๊คเค่น ในลีกเยอรมนี กลับมาอยู่ในฝรั่งเศส ในทีมเยาวชนของ น็องซี่ สโมสรแรกของ มุสตาฟา ผู้พ่อด้วย แต่ยังไม่ทันขึ้นชุดใหญ่ ก็ย้ายไปดับกับ สตราส์บูร์ก จนต่อมาต้องย้ายไปเล่นในโมร็อกโกหนึ่งปี และกลับยุโรปมาเล่นในลีกลักเซมเบิร์ก
ปัจจุบัน ซาเมียร์ ที่เล่นกองหน้า อยู่กับสโมสร เอ็กซ์เซลเซอร์ เวียร์ตอน ทีมลักเซมเบิร์ก ที่เล่นอยู่ในลีก เบลเจียน ดิวิชั่น 1 บี ในวัยแตะหลัก 30 ปีแล้ว และไม่น่าจะไปได้ไกลกว่านี้อีกแล้ว
โจนาธาน คลิ้นส์มันน์
ลูกชายของศูนย์หน้าระดับตำนานทีมชาติเยอรมนี เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ลืมตาดูโลกตอนที่พ่อกำลังโด่งดังสุดๆ กับ บาเยิร์น มิวนิค ในปี 1997 ซีซั่นที่ 'คลิ้นซี่' ได้ชูถาดแชมป์บุนเดสลีกา
แต่การเป็นลูกครึ่งเยอรมัน-อเมริกัน (แม่) และการเติบโตและใช้ชีวิตในวัยเด็กอยู่ที่ แคลิฟอร์เนีย ทำให้ คลิ้นส์มันน์ เลือกที่จะรับใช้ทีมชาติสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ชุดเยาวชนยู-18 ไม่คิดตามรอยเท้าพ่อในทีมชาติเยอรมนี แม้มีนามสกุลที่โด่งดังสุดๆ ก็ตาม
เจอร์เก้น หนีบ โจนาธาน ลูกชายมาอยู่ในเยอรมนี ตอนที่รับงานคุมทีม บาเยิร์น ซีซั่น 2008-09 และในช่วงเวลานั้นเองที่เจ้าหนูวัย 11 ขวบ ถูกเปลี่ยนจากศูนย์หน้ามาฝึกหัดตำแหน่งผู้รักษาประตู แต่หลังจากพ่อถูกไล่ออก ทั้งคู่ก็บินกลับมาใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกาเช่นเดิม
โจนาธาน เริ่มมีชื่อเสียงตอนเป็นมือ 1 สหรัฐอเมริกา ทำศึกยู-20 ชิงแชมป์โลก 2017 จนถูก แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ซื้อไปร่วมทีม แต่ตลอดซีซั่น 2017-18 ได้ลงเฝ้าเสาให้ทีมชุดใหญ่เกมเดียว ปัจจุบัน ผู้รักษาประตูวัย 23 ปี เล่นอยู่กับ เซนต์ กัลเลน ในลีกสวิตเซอร์แลนด์ แต่ก็ยังเป็นแค่มือสองเท่านั้น