:::     :::

ลูกชายหล่นไกลพ่อ(ตอน3)

วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน 2563 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
7,584
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ยังอยู่กันในตอนที่สามของเรื่องทายาทของบรรดานักฟุตบอลชื่อดังหลายคน ที่พยายามเข็นยังไงก็ปลุกปั้นไม่ขึ้น ทั้งที่หลายคนได้รับโอกาสที่ดีกว่าคนอื่นๆ

จากสองตอนที่แล้ว มีการพูดถึงลูกชายของ เบเบโต้, เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์, ไมเคิ่ล กับ ไบรอัน เลาดรู๊ป, ริวัลโด้, เปาโล มัลดินี่, แอนดี้ โคล, ดาเนียล อาโมคาชี่, อังเจโล่ ดิ ลิวิโอ, ฟร็องซัวส์ โอมัม-บียิค, เฟร็ดดี้ รินคอน, มุสตาฟา ฮัดจิ, อูล์ฟ เคียร์สเทน, โคลิน เฮนดรี้ ที่ต่างไม่ประสบความสำเร็จตามรอยเท้าพ่อ

และนี่คือส่วนหนึ่งของ 'ลูก' นักฟุตบอลที่ไม่ประสบความสำเร็จเหมือน 'พ่อ' (ตอนสาม)
ดีเอโก้ โปเยต์
หลังจากที่ กุสตาโว่ โปเยต์ ย้ายมาจาก ริเวอร์เพลท สโมสรในลีกอุรุกวัย บ้านเกิด มาเล่นกับ ซาราโกซ่า ในลีกสเปน เจ้าลูกชาย ดีเอโก้ โปเยต์ ก็ลืมตาดูโลกที่นั่น และพอสองขวบก็ย้ายตามพ่อไปลอนดอน
ในช่วงเวลาที่ กุสตาโว่ ค้าแข้งกับ เชลซี และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ รวมกันนานถึง 7 ปี ก็ส่งลูกชายไปเข้าสังกัดเยาวชนของ ชาร์ลตัน แอธเลติก ที่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอนเช่นกัน โดยหวังว่าจะได้รับโอกาสลงเล่นชุดใหญ่เร็วขึ้นกว่าไปร่วมทีมยักษ์ใหญ่
และมันก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ดีเอโก้ มีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่ ชาร์ลตัน ครั้งแรกตั้งแต่อายุ 18 เพียงซีซั่นเดียวก็ได้ย้ายสู่พรีเมียร์ลีก ร่วมทัพ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แต่นั่นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะด้วยฝีเท้าที่ยังเพาะบ่มไม่สุกได้ที่พอ จึงแทบไม่ได้รับโอกาสจาก เดอะ แฮมเมอร์ส
จากนั้นกราฟนักฟุตบอลของ ดีเอโก้ ก็ดิ่งลงๆ เพราะการยืมตัวไปเล่นกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์, เอ็มเค ดอนส์, ชาร์ลตัน ในแชมเปี้ยนชิพทั้งหมด ไม่อาจเค้นฟอร์มเก่งเพื่อลงสนามได้เท่าที่ควร
หลังจากสองสโมสรสุดท้าย โกดอย ครูซ ในลีกอาร์เจนตินา และ ปาฟอส ในลีกไซปรัส ดีเอโก้ ก็ไร้สังกัดมาเกือบสองฤดูกาล และสุดท้ายก็ตัดสินใจแขวนสตั๊ดตั้งแต่อายุ 24
ติอาโก้ ปินโต้
ในช่วงวัยรุ่นที่เพิ่งก้าวจากทีมเยาวชนขึ้นสู่ชุดใหญ่ของ เบาวิสต้า ชูเอา ปินโต้ ในวัย 16 ปี กลายเป็นพ่อคนที่เกิดกับภรรยาคนแรก และบุตรชายที่ชื่อ ติอาโก้ ปินโต้ ก็เลือกเส้นทางสายฟุตบอลตามผู้เป็นพ่อ
ติอาโก้ ถูกดึงเข้าไปฝึกฟุตบอลกับ เบนฟิก้า อดีตสโมสรของพ่อตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ถัดมาสองปีก็ย้ายรังไปอยู่ในทีมเยาวชนของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีมเก่าของบิดาเช่นกัน
ฤดูกาลแรกของเจ้าลูกชาย (สปอร์ติ้ง ปล่อยยืมตัว) คือซีซั่น 2007-08 ซึ่งเป็นฤดูกาลเดียวกับพ่อที่แขวนสตั๊ดกับสโมสรสุดท้าย บราก้า ในวัย 37 ปี
แต่เส้นทางของ ติอาโก้ ที่เล่นตำแหน่งแบ็กซ้าย ไม่อาจสอดแทรกลงสนามให้กับสองทีมใหญ่อย่าง สปอร์ติ้ง กับ บราก้า จนต้องไปพิสูจน์ตัวเองที่ รีโอ อาเว่ จากนั้นจึงย้ายไปเล่นในลีกตุรกีกับ ออสมานลิสปอร์ และสโมสรปัจจุบัน อันคารากูชู
โรมารินโญ่
ต้นทศวรรษที่ 1990 โรมาริโอ ถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของโลกฟุตบอล หลังย้ายมาเล่นในลีกยุโรป และยิง 128 ประตูจาก 148 เกมใน 5 ฤดูกาลกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น จนถูกยักษ์ใหญ่ บาร์เซโลน่า ซื้อไปร่วมทัพ และซีซั่นแรกใน คัมป์ นู ก็ระเบิดประตูในลาลีกา 30 ประตูจาก 33 เกม
ในปีนั้นเองที่ลูกชายนามว่า โรมารินโญ่ ลืมตาดูโลก แม้เกิดที่เมืองบาร์เซโลน่า แต่เมื่อพ่อย้ายกลับบราซิล จึงต้องไปเข้าทีมเยาวชนของ วาสโก ดา กามา ตอนอายุ 14 เป็นการเริ่มต้นแบบเดียวกับ โรมาริโอ ผู้เป็นพ่อ
แต่เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลในตำแหน่งกองหน้าของ โรมารินโญ่ เละเทะไม่เป็นชิ้นดี ไม่ประสบความสำเร็จกับทั้ง บราซิเลียนเซ่, วาสโก, ซเวเกน คานาซาวะ (ลีกรองญี่ปุ่น), มาคาอี, ตูปี, ฟิเกเรนเซ่, มารินกา และเพิ่งย้ายมาอยู่กับสโมสรล่าสุด ชอยวิลลี่ ในวัย 26 ที่กำลังจะเข้าใกล้ 27 ปีเต็มที
โออัน จอร์เกฟฟ์
หลังจากแจ้งเกิดในเวทีลีกเอิง อินเตอร์ มิลาน ก็ทุ่มคว้าตัว ยูริ จอร์เกฟฟ์ ไปร่วมทีมในปี 1996 และในปีต่อมา ลูกชายชื่อ โออัน จอร์เกฟฟ์ ก็ออกมาดูความสำเร็จในช่วงเวลาที่พีคสุดๆ ของผู้เป็นพ่อ
โออัน เริ่มต้นในทีมเยาวชนของ แซงต์ เอเตียน แต่ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ไม่ได้ จนต้องย้ายไป เอวียอง และมาอยู่ทีมสำรองของ มงต์เปลลีเยร์ และ น็องต์ สุดท้ายก็ถูกปล่อยตัวอีกตามเคย
ช่วงชีวิตนักฟุตบอลมีแต่ถอยหลังลงคลอง ไม่ใกล้เคียงกับพ่อเลยแม้แต่น้อย ขนาด เซนต์ เมียร์เรน ทีมในสกอตแลนด์ พอใจในช่วงทดสอบฝีเท้า และเสนอสัญญาให้หนึ่งปี แต่ก็แทบจะไม่ได้โอกาสลงเล่นเลย จนหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์นี้ และทำท่าว่าจะยากขึ้นกว่าเดิมในการหาสโมสรใหม่
อเลสซานโดร รีดเล่
ในวัย 7 ขวบ อเลสซานโดร รีดเล่ ได้เริ่มต้นฝึกฟุตบอลกับทีมเด็กของ ลิเวอร์พูล ในช่วงเวลาที่ผู้เป็นพ่อ คาร์ล-ไฮนซ์ รีดเล่ ค้าแข้งอยู่ในถิ่น แอนฟิลด์ เป็นฤดูกาลที่สอง และเป็นฤดูกาลสุดท้าย
คาร์ล-ไฮนซ์ ย้ายไป ฟูแล่ม และยังหนีบเอาลูกชาย อเลสซานโดร ไปฝึกปรือต่อที่นั่น ก่อนที่พ่อจะแขวนสตั๊ดในปี 2001 ทำให้ลูกชายในวัย 10 ขวบ ต้องระเห็จไปร่วมทีมเยาวชนของ กราสฮ็อปเปอร์ ในสวิตเซอร์แลนด์
แต่การเลือกเล่นตำแหน่งศูนย์หน้าของ อเลสซานโดร ไม่ได้ใกล้เคียงกับผลงานที่ คาร์ล-ไฮนซ์ เคยทำเอาไว้เลยแม้แต่น้อย จาก กราสฮ็อปเปอร์ ไปอยู่ทีมสำรองของ สตุ๊ตการ์ท, เบลลินโซน่า, อาคิซาร์ เบเลดิเยสปอร์, วิคตอเรีย โคโลญจน์ และสโมสรปัจจุบัน บรืล ในลีกรอง เทียบเท่าดิวิชั่นสามของ สวิส
เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ
เอ็นโซ่ ลูกชายคนโตของ ซีเนอดีน ซีดาน ถูกตั้งชื่อตาม เอ็นโซ่ ฟรานเชสโคลี่ เจ้าชายลูกหนังแห่งอุรุกวัยที่เป็นไอดอลในดวงใจของ 'ซิซู' แต่การเดินตามรอยพ่อในฐานะนักฟุตบอล เอ็นโซ่ ไม่ต้องการกดดันตัวเองจากนามสกุลที่ใช้ จึงตัดสินใจเลือกที่จะให้เรียกตามนามสกุลของแม่ เวโรนิเก้ เฟร์นานเดซ
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การเล่นตำแหน่งกองกลางเหมือนพ่อ ก็ยังเป็นการกดดันตัวเองอยู่ดี จากการเข้าทีมเยาวชนของ ยูเวนตุส ตอนพ่อค้าแข้งอยู่ที่ ตูริน และตามมาเข้าสังกัดเด็กของ เรอัล มาดริด อีก ตอนที่พ่อย้ายมาเป็นตำนานในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
หลังจากเริ่มต้นลงเล่นให้ทีม เรอัล มาดริด เซ และ เรอัล มาดริด เบ ก็ถึงเวลาแล้วที่ เอ็นโซ่ จะต้องอำลาจากทีม เพราะอายุอานาม 22 ปีแล้ว คงหมดหนทางขึ้นสู่ชุดใหญ่ของ ราชันชุดขาว
เอ็นโซ่ ไม่สามารถสลัดความกดดันออกไปได้เลย หรือบางทีอาจเป็นเพราะฝีเท้าที่ยังไม่ถึงขั้น ขนาดย้ายไปอยู่กับ อลาเบส, โลซานน์-สปอร์ต, อาเวส ก็ยังแจ้งเกิดไม่ได้ และในช่วงครึ่งหลังของซีซั่นนี้ถูกปล่อยยืมไปเล่นกับ อัลเมเรีย ในเซกุนดาดิวิชั่น

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด