พลันเห็น แดนนี่ เวลเบ็ค ตีลังกายิงประตูสวยๆ ทำให้นึกถึงบรรดาดาวรุ่งที่ถูกผลิตมาจากอาคาเดมี่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงสองทศวรรษที่่ผ่านมา
การจะก้าวเท้าขึ้นสู่ชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บางทีแค่ฝีเท้าอย่างเดียวไม่พอ มันต้องขึ้นอยู่กับวาสนา และช่วงจังหวะของชีวิตด้วย หลายคนไม่เคยได้สัมผัสถึงบรรยากาศในทีมชุดใหญ่ ก็ต้องกระจัดกระจายออกไปอยู่สโมสรต่างๆ ที่ชื่อชั้นของการเป็น เด็กผี ก็ยังศักดิ์สิทธิ์พอที่จะดึงดูดใจทีมระดับ แชมเปี้ยนชิพ
ฤดูกาลปัจจุบัน 2019-20 ยังคงมีอดีตนักเตะเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ค้าแข้งอยู่ในพรีเมียร์ลีกหลายต่อหลายคน (ยกเว้นในทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เอง) บ้างก็เคยลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ในยุคของตำนานผู้จัดการทีม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาก่อน แต่บ้างก็ไม่เคยได้ลงเล่นเลยแม้แต่วินาทีเดียว
ไมเคิ่ล คีน
ไมเคิ่ล คีน ก้าวเข้าสู่ศูนย์ฝึกเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวัย 16 ปี พร้อมกับคู่แฝด วิลล์ คีน ที่เล่นตำแหน่งกองหน้า จนกระทั่งวันเกิดอายุครบ 18 ปีเต็ม สัญญานักฟุตบอลอาชีพฉบับแรกก็ถูกส่งมอบให้ทันที
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เรียกตัวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2011 ส่งประเดิมสนามในเกมลีกคัพ รอบ 4 ที่เอาชนะ อัลเดอร์ช็อต ทาวน์ เป็นการลงสำรองในช่วง 20 นาทีสุดท้าย จากนั้นการลงตัวจริงครั้งแรกก็ยังเป็นเกมลีกคัพ เจอ นิวคาสเซิ่ล ในฤดูกาลต่อมา
ฤดูกาล 2011-12 เป็นปีที่ ไมเคิ่ล คีน คว้ารางวัล เดนซิล ฮารูน หรือ นักเตะยอดเยี่ยมของทีมสำรองแห่งปี หลังจากก่อนหน้านี้สองปี คู่แฝด วิลล์ คีน สอยรางวัล จิมมี่ เมอร์ฟี่ หรือ นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีไปครองก่อน
เฟอร์กี้ ตัดสินใจส่ง ไมเคิ่ล คีน ไปเพาะบ่มฝีเท้ากับ เลสเตอร์ ในแชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2012-13 ซึ่งเป็นซีซั่นสุดท้ายก่อนที่บรมกุนซือชาวสกอตต์จะวางมือจากการคุมทีม
การเดินทางของ ไมเคิ่ล คีน มุ่งหน้าต่อไปที่ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ก่อนย้ายสู่ เบิร์นลี่ย์ ทีมในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นสัญญายืมตัวก่อนที่จะขายขาดตามมา
นี่คือช่วงเวลาที่ ไมเคิ่ล คีน ฟอร์มพุ่งขึ้นสุดๆ จนถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ ตามด้วยการย้ายสู่ เอฟเวอร์ตัน ด้วยค่าตัวมหาศาล 25 ล้านปอนด์ ที่อาจเพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านปอนด์ แม้ในช่วงเวลาดังกล่าวมีข่าวลือว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พิจารณาซื้อตัวกลับ แต่ก็ไม่เป็นความจริง
จนถึงตอนนี้ผ่านไปแล้วเกือบจะเต็มสามฤดูกาล ไมเคิ่ล คีน ลงรับใช้ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ทะลุ 100 เกมไปเป็นที่เรียบร้อย
ดไวท์ แม็คนีล
เด็กหนุ่มจาก รอชเดล ก้าวเข้าสู่ศูนย์ฝึกเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นแห่งแรกตั้งแต่อายุ 5 ขวบ แต่พอผ่านไปหนึ่งทศวรรษ ดไวท์ แม็คนีล ก็รับทราบข่าวร้ายหลังกลับจากโรงเรียน ว่าถูกสโมสรปล่อยตัวเพราะผลงานยังไม่เข้าตาพอ
ช่วงเวลานั้นเป็นฝันร้ายของเด็กวัยรุ่นอายุ 14 ย่าง 15 ที่ยังคงต้องให้ความสำคัญกับการเรียนหนังสือ ควบคู่ไปกับการฝึกซ้อมฟุตบอลในทุกๆ วัน
ดไวท์ แม็คนีล ตัดสินใจเลือก เบิร์นลี่ย์ เป็นสโมสรต่อไปเหนือ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เหตุผลสำคัญเพราะ แม็ตตี้ ผู้เป็นพ่อที่เป็นนักฟุตบอลเช่นกัน เคยไปทดสอบฝีเท้าที่ เทิร์ฟ มัวร์ มาแล้ว และเจ้าตัวไม่อยากเผชิญหน้ากับ ยูไนเต็ด ในลีกเยาวชน หากย้ายไปอยู่กับ โรเวอร์ส
นั่นคือการตัดสินใจที่ถูกต้อง หลังจากฝึกปรือกับทีมเยาวชนของ เดอะ คลาเรตส์ ได้ราวๆ 4 ปี ก็ถูกเรียกตัวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ครั้งแรกโดยกุนซือ ชอน ไดช์ โดยมอบโอกาสสำคัญให้ ดไวท์ แม็คนีล ได้ลงโชว์ผลงานไปมากถึง 26 เกมรวมทุกรายการในซีซั่น 2018-19
มาถึงฤดูกาลปัจจุบัน แม็คนีล ยึดตำแหน่งในทีมตัวจริงของ ไดช์ เอาไว้ได้เหนียวแน่น เพราะสไตล์การเล่นแบบปีกโบราณ (กระชากริมเส้นแล้วเปิด) เหมาะกับแท็กติกของ ไดช์ เป็นอย่างดี
แดนนี่ เวลเบ็ค
แดนนี่ เวลเบ็ค เพาะบ่มฝีเท้ากับทีมเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุ 11 ขวบ เป็นช่วงเวลาที่ได้เห็นศูนย์หน้ารุ่นพี่ในทีมชุดใหญ่มากมายหลายคน อาทิ รุด ฟาน นิสเตลรอย, เวย์น รูนี่ย์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาร์ลอส เตเวซ เป็นต้น
หลังจากซีซั่น 2007-08 ที่ ผีแดง ครองความยิ่งใหญ่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ให้โอกาสครั้งสำคัญเรียก เวลเบ๊ค ขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ฤดูกาลต่อมา
3 ประตูจาก 13 เกมในซีซั่นแรกที่ส่วนใหญ่เป็นการลงสำรอง ถือเป็นผลงานที่น่าพอใจ ผ่านไปอีกสามฤดูกาลคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ แดนนี่ เวลเบ็ค กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากการยิงได้มากที่สุด 12 ประตูจาก 39 เกมรวมทุกรายการ หลังจากไปฝึกวิทยายุทธ์กับ เปรสตัน และ ซันเดอร์แลนด์ มาสองซีซั่น
แต่การมาถึงของกุนซือ หลุยส์ ฟาน กาล ก็ตัดสินใจขาย แดนนี่ เวลเบ็ค ไปให้ อาร์เซน่อล ในราคา 16 ล้านปอนด์ มีทั้งฤดูกาลที่ดีและแย่ แต่ปัญหาที่ประสบเรื้อรังคืออาการบาดเจ็บ
หลังจากสัญญาหมดในปี 2019 เดอะ กันเนอร์ส ก็ยืนยันการไม่มอบสัญญาฉบับใหม่ให้ จนต้องย้ายไปสวมเสื้อหมายเลข 10 ให้ วัตฟอร์ด ในฤดูกาลนี้
ทอม ฮีตัน
ผู้รักษาประตู ทอม ฮีตัน เริ่มต้นฝึกฟุตบอลกับ เร็กซ์แฮม จนอายุได้ 16 ปี ก็ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะฝึกหัดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรที่บรรดาเด็กหนุ่มไม่อาจปฏิเสธข้อเสนอได้
ฤดูกาล 2004-05 เป็นปีที่ ทอม ฮีตัน สลัดหลุดจาก ลุค สตีล กลายเป็นมือหนึ่งในทีมสำรองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และด้วยฟอร์มที่ชวนจับตามอง จึงมีสโมสรต่างๆ ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามายืมใช้งาน ตั้งแต่ สวินดอน, รอยัล อันท์เวิร์ป, คาร์ดิฟฟ์, ควีนส์ปาร์ค, รอชเดล, วีคอมบ์
จนกระทั่งปี 2010 หลังจากพูดคุยกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เรื่องการต่อสัญญาฉบับใหม่ ทอม ฮีตัน ตัดสินใจปฏิเสธการอยู่ต่อ ขอกลายเป็นฟรีเอเยนต์เพื่อโอกาสสำคัญที่สุดคือการได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ และ คาร์ดิฟฟ์ คือสโมสรที่ดึงตัวกลับไปร่วมงานกันอีกครั้ง
เป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ เมื่อ เดวิด มาร์แชลล์ เจ้าของมือหนึ่งเกิดบาดเจ็บข้อศอก ต้องพักสักระยะ ทำให้ชื่อของ ทอม ฮีตัน กลายเป็นมือหนึ่งคนใหม่ของทีมทันที
ทอม ฮีตัน ออกเดินทางต่อสู่ บริสตอล ซิตี้ และมา เบิร์นลี่ย์ ในปี 2013 ช่วยกันพาทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก และกลายเป็นมือหนึ่งในถิ่น เทิร์ฟ มัวร์ มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเกิดแขนหักต้องพักยาวในฤดูกาล 2017-18 และโอกาสก็ตกถึง นิค โพ๊ป ที่กลายเป็นมือหนึ่งของทีมคนใหม่แทน
ก่อนเริ่มต้นฤดูกาลนี้ ชอน ไดช์ เลือกแล้วว่าจะให้ นิค โพ๊ป ยึดมือหนึ่งต่อไป จึงตัดสินใจขาย ทอม ฮีตัน ไปให้ แอสตัน วิลล่า และกลายเป็นมือหนึ่งคนใหม่แห่ง วิลล่า พาร์ค แทน
*อ่านต่อตอนต่อไป